ชิ่งบาร์ซ่าแล้วไง!! 10 แข้งดัง ชีวิตพีคกว่าเดิม หลังย้ายหนีบาร์เซโลน่า

ชิ่งบาร์ซ่าแล้วไง!! 10 แข้งดัง ชีวิตพีคกว่าเดิม หลังย้ายหนีบาร์เซโลน่า
ชิ่งบาร์ซ่าแล้วไง!! 10 แข้งดัง ชีวิตพีคกว่าเดิม หลังย้ายหนีบาร์เซโลน่า

10 นักเตะดัง ที่ชีวิตค้าแข้งรุ่งกว่าเดิม เมื่อย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า

จากการที่ เนย์มาร์ ย้ายหนี บาร์เซโลน่า ไปร่วมทีม เปแอสเช ด้วยค่าตัวสถิติโลก ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อย ว่าดาวเตะทีมชาติบราซิลกำลังจะเข้าสู่ช่วงขาลงของอาชีพ หลังย้ายออกจากสโมสรที่ดีที่สุดในโลก เพื่อแลกกับเงินมากกว่าความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวระเบิดฟอร์มสุดยอด ยิง 1 จ่าย 1 พา เปแอสเช บุกไปถล่ม แก็งก็อง 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ เป็นสัญญาณที่ดีว่า บางทีเขาอาจทำผลงานโหดกว่าที่ผ่านๆ มาตอนที่เล่นที่สเปนก็ได้

ที่ผ่านมายังเคยมีนักเตะดังๆ จำนวนไม่น้อย ที่ย้ายออกจากถิ่น คัมป์ นู แล้วประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม

…อย่างเช่น 10 คนที่เรากำลังจะยกตัวอย่างนี้

 

ดีเอโก้ มาราโดน่า

ถูก นาโปลี ทุ่มเงินถึง 6.9 ล้านปอนด์ อันเป็นค่าตัวสถิติโลกในปี 1984 กระชากตัวไปเล่นที่แดนมะกะโรนี

จากที่เคยได้แค่แชมป์บอลถ้วยกับ บาร์เซโลน่า พอไปค้าแข้งในอิตาลี เขากลายเป็นตำนานนักเตะตลอดกาลของนาโปลี ซึ่งทุกวันนี้ไม่มีใครได้สวมเสื้อหมายเลข 10 ที่เขาเคยเป็นเจ้าของ

“เสือเตี้ย” พานาโปลีได้แชมป์ เซเรีย อา ในปี 1987 และ 1990 ซึ่งนอกจาก 2 สมัยดังกล่าวแล้ว พวกเขาไม่เคยได้แชมป์ลีกอิตาลีอีกเลยในประวัติศาสตร์

แถมในปี 1986 เขายังก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด ด้วยการเป็นกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกอีกด้วย

 

จอร์จี้ ฮาจี้

ตำนานนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของโรมาเนีย เคยไปเล่นให้ บาร์เซโลน่า อยู่ 2 ฤดูกาล ระหว่างปี 1994-1996 โดยไม่อาจคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์กับทีมได้เลย

แต่หลังจากเลือกย้ายไปเล่นที่ตุรกีกับ กาลาตาซาราย เขากลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลที่แดนไก่งวง และพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ 4 สมัยติดต่อกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาล 1999-2000 ฮาจี้ ที่มีอายุ 35 ปี ณ ตอนนั้น พากาลาตาซารายกวาดแชมป์ทุกรายการที่ลงแข่งขัน และยังได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของโรมาเนียอีก 3 สมัย

 

โรนัลโด้

“เจ้าโล้นทองคำ” อาจมีฟอร์มที่พีคที่สุดในชีวิต เมื่อยิงไปถึง 47 ประตู จากการลงสนาม 49 นัด ให้ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาล 1996-97 ที่ย้ายไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติโลกตอนนั้น (19.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

ซีซั่นดังกล่าว เขาได้แชมป์บอลถ้วยใหญ่ๆ ทั้ง โกปา เดล เรย์ และ คัพ วินเนอร์ส คัพ บวกกับทำให้ตัวเองคว้ารางวัล บัลลง ดอร์ ปีดังกล่าวไปครอง

แต่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าอย่างแชมป์ฟุตบอลโลก หรือแชมป์ลีกสูงสุดในยุโรป เกิดขึ้นหลังย้ายจากถิ่น คัมป์ นู ไปอยู่ อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัวสถิติโลกอีกครั้ง (27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

แม้ช่วงเวลาที่อยู่กับทีมงูใหญ่ จะไม่รุ่งนักเพราะใช้เวลาไปกับการรักษาอาการบาดเจ็บเข่าเรื้อรัง

แต่หลังพาทีมชาติบราซิลได้แชมป์ ฟุตบอลโลก 2002 พ่วงด้วยตำแหน่งดาวซัลโว เขาก็ไปได้แชมป์ ลา ลีกา อีก 2 สมัยที่ เรอัล มาดริด และได้รางวัล บัลลง ดอร์ บวกกับตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมฟีฟ่าเพิ่มอีก 1 ครั้ง

 

หลุยส์ ฟิโก้

เคยพา บาร์เซโลน่า ประสบความสำเร็จนับไม่ถ้วน ตลอดช่วงเวลา 5 ฤดูกาลที่ไปเล่นที่ คัมป์ นู 

แต่เขากลับทรยศสโมสรในช่วงซัมเมอร์ปี 2000 ด้วยการไปซบอกคู่อริเบอร์หนึ่งอย่าง เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวแพงที่สุดในโลกถึง 37 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่เป็นนักเตะทีมราชันชุดขาว เขาได้แชมป์ที่ไม่เคยได้มาก่อนกับบาร์ซ่าอย่างถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2002 บวกกับได้แชมป์ ลา ลีกา อีก 2 ครั้ง เท่ากับสมัยที่เล่นให้ทีมเจ้าบุญทุ่ม

และหลังย้ายออกจาก มาดริด ไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน เขาก็กวาดแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ได้อีก 4 สมัยติดต่อกัน แล้วจึงแขวนสตั๊ดในปี 2009

 

ฮวน โรมัน ริเกลเม่

หลังดังเป็นพลุแตกจากการเป็นสุดยอดดาวรุ่งของวงการลูกหนังอาร์เจนตินา เขาถูก บาร์เซโลน่า ดึงตัวจาก โบคา จูเนียร์ส ไปร่วมทีมในเดือนพฤศจิกายน ปี 2002

แต่จากการที่ซัมเมอร์ปี 2003 สโมสรทุ่มเงินกระชากตัว โรนัลดินโญ่ ไปร่วมทัพ ทำให้โควตานักเตะต่างชาติล้นทีม ริเกลเม่ จึงโดนปล่อยให้ บียาร์เรอัล ยืมตัว 2 ปี แล้วจึงขายขาดในปี 2005

ช่วงเวลาที่เล่นให้ทีมเรือดำน้ำสีเหลือง แม้ไม่ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์รายการใหญ่ (ตอนอยู่บาร์ซ่าก็ไม่มีโทรฟี่เช่นกัน) แต่ฟอร์มการเล่นอันโดดเด่น ทำให้เขากลายเป็นเพลย์เมกเกอร์ตัวหลักของทีมชาติอาร์เจนตินาเต็มตัว

ผลงานสุดยอดกับ บียาร์เรอัล ทำให้ ริเกลเม่ ได้รางวัลแข้งต่างชาติยอดเยี่ยมของ ลา ลีกา ในฤดูกาล 2004-05 และถูกเสนอชื่อเข้าชิงนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าในปี 2006 และ 2007

 

ติอาโก้ ม็อตต้า

กองกลางตัวรับทีมชาติอิตาลี ซึ่งพื้นเพเป็นคนบราซิล ถือเป็นนักเตะที่แจ้งเกิดมาจากอะคาเดมี่ของ บาร์เซโลน่า และเคยเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดแชมป์ ลา ลีกา 2 สมัย และแชมป์ยุโรปในปี 2006

แต่สมัยที่เล่นให้ทีมอาซูลกราน่า ม็อตต้า มีสถานะเป็นเพียงอะไหล่เสริมของทีม ในปี 2007 เขาจึงถูกโละให้ แอตเลติโก มาดริด

ช่วงเวลาที่อยู่ทีมตราหมี เขาดวงแตกต้องเจ็บเข่าอย่างหนัก แต่ความพีคของเขามาเกิดขึ้นหลังตัดสินใจย้ายไปเล่นใน กัลโช่ เซเรีย อา

ม็อตต้า คือกำลังสำคัญในแดนกลางของ อินเตอร์ มิลาน ชุดทริปเปิลแชมป์ปี 2010 ก่อนที่ในปี 2012 ที่ย้ายไปอยู่กับ เปแอสเช ช่วงครึ่งซีซั่นหลัง เขาพาทีมดังจากปารีสกวาดแชมป์ในฝรั่งเศสแบบนับไม่ถ้วนมาจนถึงปัจจุบัน

 

ยาย่า ตูเร่

ยาย่า เป็นส่วนหนึ่งของบาร์ซ่าชุดกวาดแชมป์ทุกรายการในปี 2009 แต่สถานะของเขาเป็นแค่กำลังสำรองชั้นดีเท่านั้น

จนกระทั่งปี 2010 ที่เลือกไปค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้ารถถังจากไอวอรี่โคสต์พัฒนาฝีเท้ากลายเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในโลก

เขากวาดทุกแชมป์ในอังกฤษกับทีมเรือใบสีฟ้า โดยเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 2 สมัย และตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปแอฟริกา 4 สมัยในชีวิตเขา ได้รับมาตอนที่เล่นในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ทั้งสิ้น

 

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

แม้จะยิงประตูใน ลา ลีกา ฤดูกาล 2009-10 ไปถึง 16 ลูก จาก 29 นัด พร้อมพาทีมเป็นแชมป์ แต่เขาไม่ใช่นักเตะที่เข้ากับแท็กติกของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มากนัก จึงถูกปล่อยตัวกลับไปที่ เอซี มิลาน ทันทีหลังเล่นที่แดนกระทิงดุเพียงปีเดียว

อย่างไรก็ตาม ซลาตัน ยังประกาศศักดาด้วยการพามิลานได้แชมป์ เซเรีย อา ปี 2011, ได้ดาวซัลโวกัลโช่ปี 2012 แล้วย้ายไปเป็นพระเจ้าที่ปารีส ด้วยการพา เปแอสเช ได้แชมป์ ลีก เอิง ทุกปีที่มีเขาอยู่ในทีม

ส่วนฤดูกาลล่าสุด เพิ่งพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์ทั้ง คอมมิวนิตี้ ชิลด์, ลีก คัพ และ ยูโรปา ลีก ก่อนจะบาดเจ็บต้องพักยาวไป

 

ติอาโก้ อัลกันตาร่า

ประสบความสำเร็จกับ บาร์ซ่า ครบทุกรายการ แต่หลังจากปี 2013 ที่ย้ายตาม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไปค้าแข้งที่เยอรมนีกับ บาเยิร์น มิวนิค เขาค่อยๆ พัฒนาฝีเท้าเป็นกองกลางระดับแถวหน้าของยุโรป และได้แชมป์บุนเดสลีกามา 4 ปีซ้อน

ฤดูกาลที่ผ่านมา ที่เล่นให้ทีมเสือใต้ในการคุมทีมของ คาร์โล อันเชลอตติ เขาระเบิดฟอร์มโดดเด่นจนติดทีมยอดเยี่ยมบุนเดสลีกาในตำแหน่งกองกลาง แถมก้าวไปเป็นตัวหลักในแผงมิดฟิลด์ทีมชาติสเปนเรียบร้อยแล้ว

 

เชส ฟาเบรกาส

อดีตเด็กปั้นจากศูนย์ฝึกเยาวชน ลา มาเซีย ถูก บาร์เซโลน่า ทุ่มเงินดึงตัวกลับจาก อาร์เซน่อล ในปี 2011 ด้วยความหวังว่าจะให้เป็นตัวแทนของ ชาบี เอร์นานเดซ ที่เริ่มโรยรา

แม้จะทำผลงานได้ไม่เลว แต่ช่วงเวลาที่เขากลับไปเล่นให้ทีมสมัยเด็ก สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เพียงสมัยเดียวเท่านั้น

แต่หลังย้ายมาอยู่กับ เชลซี เขาได้แชมป์ที่ไม่เคยได้อย่างพรีเมียร์ลีกไปถึง 2 สมัย ทำสถิติแอสซิสต์ในลีกไปถึง 37 ลูก เหนือกว่าตอนเล่นให้บาร์ซ่า ที่จ่ายให้เพื่อนยิงใน ลา ลีกา ได้ 31 ลูก ซะอีก