มกราผีฟอร์มแรง!! รวม 11 แข้งเจ๋งสุดพรีเมียร์ มกราคม 2019 โดย Balltoro

มกราผีฟอร์มแรง!! รวม 11 แข้งเจ๋งสุดพรีเมียร์ มกราคม 2019 โดย Balltoro
มกราผีฟอร์มแรง!! รวม 11 แข้งเจ๋งสุดพรีเมียร์ มกราคม 2019 โดย Balltoro

ทีมรวมดารานักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก ประจำเดือนมกราคม 2019 จากการจัดโดยทีมงาน Balltoro

เดือนแรกของปี 2019 ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งในช่วงเดือนที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้อย่างเหนียวแน่น โดยนำห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5 แต้ม ในวันสิ้นเดือน ทำให้โอกาสที่ทีมหงส์แดงจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรก ยังคงเปิดกว้างต่อไป

แต่ที่น่าสนใจคือการแย่งอันดับ 4 เพื่อไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อระยะห่างระหว่าง เชลซี, อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นห่างกันไม่เกิน 2 แต้ม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมปีศาจแดงที่กลับมาท็อปฟอร์มชัดเจน นับตั้งแต่ได้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เข้ามาคุมทีมขัดตาทัพ จากที่ช่วงสิ้นปี 2018 ตามหลัง เชลซี ถึง 8 แต้ม ตอนนี้กลายเป็นว่าได้ลุ้นจบซีซั่นในอันดับ 4 เต็มตัว

สำหรับ 11 นักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในสายตาของทีมงาน Balltoro จะมีใครบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลย…

ผู้รักษาประตู : ทอม ฮีตัน (เบิร์นลี่ย์)

เพิ่งกลับมายึดตำแหน่งมือหนึ่งของทีมเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ เบิร์นลี่ย์ ทำผลงานได้ดีขึ้นผิดหูผิดตา เพราะจาก 6 เกมที่เขาลงเฝ้าเสาในเกมลีกซีซั่นนี้ ต้นสังกัดไม่แพ้เลย

ฮีตัน ลงเฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีกเดือนมกราคมไป 5 นัด แม้ว่าจะเก็บคลีนชีตได้แค่นัดเดียว คือเกมบุกเสมอ วัตฟอร์ด 0-0 แต่ก็ระเบิดฟอร์มเซฟตลอดเดือนไปถึง 15 ครั้ง

ผลงานที่เข้าตากรรมการที่สุด คือนัดที่พาทีมบุกเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงถิ่น 2-2 โดยเกมนั้นเจ้าตัวเซฟไปถึง 7 หน ด้วยกัน

กองหลัง : วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

กลายเป็นผู้เล่นที่ไว้ใจได้มากที่สุดแล้วในแนวรับของทีมปีศาจแดง โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เขาลงสนามแบบเต็มเกมทุกนัด

ลินเดอเลิฟ พาทีมเก็บคลีนชีต 2 นัดติด เกมที่บุกชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0 และบุกเฉือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0 ก่อนจะเป็นคนซัดประตูโกงความตาย ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ตีเสมอ เบิร์นลี่ย์ 2-2 ในเกมส่งท้ายเดือน

ปราการหลังทีมชาติสวีเดน พัฒนาเรื่องการยืนตำแหน่งได้ดีเยี่ยม โดยทำสถิติเคลียร์บอลอันตรายทิ้งรวมกันถึง 25 หน และชนะการดวลลูกกลางอากาศถึง 18 ครั้ง จากการลงเล่น 4 นัดในลีกเดือนที่ผ่านมา

 

กองหลัง : ยาน เบดนาเร็ค (เซาธ์แฮมป์ตัน)

เซาธ์แฮมป์ตัน คืออีกทีมที่แพ้ไม่เป็นในเดือนมกราคม โดยกองหลังทีมชาติโปแลนด์ ลงสนามเต็มเกมครบทุกนัดในเดือนที่แล้ว พาทีมเก็บคลีนชีตนัดสำคัญได้ 1 นัด คือเกมที่บุกเสมอ เชลซี 0-0

แต่ยิ่งไปกว่านั้น เบดนาเร็ค คว้าตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ อีก 3 นัดติดต่อกัน เกมที่บุกชนะ เลสเตอร์ 2-1,​ เปิดบ้านเฉือน เอฟเวอร์ตัน 2-1 และเสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกมที่เปิดบ้านเฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 ถือว่าเด่นที่สุด เมื่อชนะการดวลลูกกลางอากาศถึง 14 ครั้ง เคลียร์บอลอันตรายทิ้งถึง 10 หน

กองหลัง : ดานิโล่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

ได้โอกาสลงตัวจริงในพรีเมียร์ลีกทั้ง 4 นัดในเดือนที่ผ่านมา แถมซัดประตูสุดสวยได้ด้วย เป็นลูกปลดล็อค นัดบุกถล่ม ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 3-0 และช่วยทีมเก็บคลีนชีตอีกนัดก่อนหน้านั้น วันที่เปิดบ้านชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน สบายๆ 3-0

จากการที่ เบนฌาแม็ง เมนดี้ ยังไม่ฟิตสมบูรณ์ซะที ส่วน ฟาเบียน เดลฟ์ ก็ทำผลงานน่าผิดหวัง ทำให้อดีตดาวเตะ เรอัล มาดริด รายนี้ น่าจะยึดแบ็กซ้ายตัวจริงให้ทีมเรือใบสีฟ้าไปยาวๆ แน่

 

ปีกขวา : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)

เดือนมกราคม ลิเวอร์พูล ดูจะทำผลงานดร็อปๆ ลงไปพอสมควร แต่ก็ยังได้ชัยชนะนัดสำคัญๆ จากผลงานของดาวดังทีมชาติอียิปต์รายนี้

ซาลาห์ เป็นคนเรียกจุดโทษ และกดจุดโทษประตูชัยพาทีมบุกชนะ ไบรท์ตัน 1-0 ซึ่งเกมนั้นทีมหงส์แดงทำเกมรุกไม่ดีนัก ขณะที่นัดที่เกมรับของทีมเสียถึง 3 ประตู เขาก็เหมายิงคนเดียว 2 ลูก พาทีมพลิกกลับมาชนะ คริสตัล พาเลซ อย่างน่าตื่นเต้น 4-3

ด้วยผลงานยิงไปถึง 16 ประตู หลังผ่านเดือนมกราคม และนำดาวซัลโวสูงสุดบนชาร์ท ถือว่ามีโอกาสสูงที่เจ้าตัวจะครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของฤดูกาล เป็นซีซั่นที่ 2 ติดต่อกัน และปีนี้อาจถึงขั้นได้แชมป์กับทีมด้วย

 

กองกลาง : เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน)

กลายเป็นคีย์แมนสำคัญในแดนกลางของทีมนักบุญ นับตั้งแต่ที่ ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล เข้ามาคุมทีม และผลงานของ วอร์ด-เพราส์ ในเดือนมกราคม ถือว่ามีลุ้นรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนได้เลย

ดาวเตะวัย 24 ปี ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 3 นัดติดต่อกัน พาทีมชนะ เลสเตอร์ 2-1, ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 และเสมอกับ คริสตัล พาเลซ 1-1 เรียกได้ว่าประตูของเขา ทำให้ทีมนักบุญซึ่งไม่แพ้เลยในเดือนที่ผ่านมา เก็บแต้มเพิ่มได้ถึง 5 คะแนน

 

กองกลาง : ปอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ยังระเบิดฟอร์มยอดเยี่ยมต่อเนื่องจากช่วงปลายเดือนธันวาคม เมื่อยิงประตูได้อีก 2 ลูกในเดือนมกราคม และทำแอสซิสต์สุดคมให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดไปซัดประตูชัย ในเกมบุกชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0

จุดโทษตีไข่แตก ที่ ป็อกบา ซัดไม่พลาดในเกมเปิดบ้านเสมอ เบิร์นลี่ย์ 2-2 ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมปีศาจแดงในลีกซีซั่นนี้แล้ว ด้วยผลงานซัดไป 9 ประตู

 

ปีกซ้าย : ลีรอย ซาเน่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

ปีกตัวจี๊ดทีมชาติเยอรมนี คือนักเตะที่ฟอร์มเด่นที่สุดในลีกของ แมนฯ ซิตี้ เดือนที่ผ่านมาอย่างชัดเจน เมื่อมีส่วนกับประตูถึง 4 ลูก (ยิง 2 จ่าย 2)

ซาเน่ ทำประตูสำคัญให้ทีมเรือใบสีฟ้าเปิดบ้านชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ประเดิมศักราชใหม่ และอีกนัดที่ฟอร์มแจ่มสุดๆ คือยิง 1 จ่าย 1 พาทีมบุกชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 3-0

 

กองหน้า : ดีโอโก้ โชต้า (วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส)

กลายเป็นนักเตะโปรตุเกสคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ที่ทำแฮตทริกได้ในพรีเมียร์ลีกต่อจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เมื่อเจ้าตัวเหมาคนเดียว 3 ประตู พาทีมเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 4-3 แบบสุดมันส์ ในวันที่ 19 มกราคม

จริงๆ ผลงานนัดนั้นนัดเดียวก็เข้าตากรรมการแล้ว แต่ โชต้า ยังเล่นได้วูบวาบสุดๆ ก่อนทำอีกหนึ่งแอสซิสต์ นัดที่ทีมเปิดบ้านถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0 ด้วย

 

กองหน้า : โจชัว คิง (บอร์นมัธ)

ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ กลายเป็นตัวแสบสุดๆ ในเกมที่ บอร์นมัธ ไล่ยำใหญ่ เชลซี 4-0 เมื่อเหมายิงคนเดียว 2 ประตูและทำอีก 1 แอสซิสต์ในเกมนั้น

เขายังยิงได้อีกประตูก่อนหน้านั้น ในเกมที่ชนะ เวสต์แฮม 2-0 ซึ่งตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ทั้งนัดที่พบทีมสิงห์บลูส์ และขุนค้อน ล้วนเป็นของ คิง ทั้ง 2 เกม

 

กองหน้า : มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

หัวหอกดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ ซัดประตูสำคัญ 3 นัดติดในเดือนมกราคมให้ผีแดง เริ่มจากยิงตอกฝาโลง พาทีมบุกชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-0, กดประตูโทนสุดคม นัดบุกเฉือน สเปอร์ส 1-0 และยิงอีกเม็ด นัดชนะ ไบรท์ตัน 2-1

แม้ในเกมล่าสุด แรชฟอร์ด จะพลาดโอกาสทองแบบไม่น่าพลาด จนทีมทำได้แค่เสมอ เบิร์นลี่ย์ 2-2 แต่ผลงาน 3 นัดก่อนหน้านั้น ก็ดีพอที่จะทำให้เขาเป็นหนึ่งที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนแล้ว

ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

การทำสถิติเป็นผู้จัดการทีมคนแรกในประวัติศาสตร์ของทีมปีศาจแดง ที่ออกสตาร์ทการคุมทีมด้วยชัยชนะ 8 นัดรวด นำสปิริตกลับมาสู่ทีมและแฟนบอล และทำให้ทีมกลับมาเล่นเกมรุกแบบเร้าใจ เชื่อว่าชั่วโมงนี้ ไม่มีกุนซือคนไหนในลีกที่จะได้รับเสียงชื่นชมมากไปกว่าเขาแล้ว

อย่างไรก็ตาม บทพิสูจน์ของกุนซือชาวนอร์เวย์ที่แท้จริง อยู่ที่ช่วง 2 เดือนต่อจากนี้ ที่จะเจอโจทย์หินทั้งในลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ซึ่งถ้าหาก โซลชาร์ ยังพาทีมผ่านไปได้ด้วยดีอีก ตำแหน่งผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด แบบถาวร ต้องตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน