หลุดโผได้ไง!! 11 แข้งไม่มีชื่อเข้าชิงนักเตะยอดเยี่ยมฟีฟ่า 2017

หลุดโผได้ไง!! 11 แข้งไม่มีชื่อเข้าชิงนักเตะยอดเยี่ยมฟีฟ่า 2017
หลุดโผได้ไง!! 11 แข้งไม่มีชื่อเข้าชิงนักเตะยอดเยี่ยมฟีฟ่า 2017

ทีมรวมดารา 11 นักเตะที่ไม่มีชื่อเข้าชิงนักเตะยอดเยี่ยมฟีฟ่า 2017 อย่างเหลือเชื่อ

ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ ฟีฟ่า ได้ทำการประกาศรายชื่อ 24 นักเตะที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล นักเตะยอดเยี่ยม ประจำปี 2017 ออกมาเรียบร้อยแล้ว

แม้บรรดาตัวเต็งทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือ ลิโอเนล เมสซี่ ต่างมีชื่อติดทีมตามคาด แต่ต้องบอกเลยว่า มีผู้เล่นอีกมากมาย ที่อย่างน้อยน่าจะติดแคนดิเดตรอบ 24 คน

อย่างเช่น 11 แข้งดังต่อไปนี้ ที่ผลงานตลอดปีเข้าขั้นโดดเด่นเหลือเกิน!!

 

ผู้รักษาประตู : ติโบต์ กูร์กตัวส์ (เชลซี)

นายประตูทีมชาติเบลเยียม ทำสถิติ เก็บคลีนชีตมากที่สุด ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว (16 นัด)

นอกจากนั้นแล้ว กูร์กตัวส์ ยังโดนยิงเพียงแค่ 28 ประตู จากทั้งหมด 36 นัด ที่ลงเฝ้าเสาในเกมลีกอีกด้วย

แบ็กขวา : ดานี่ อัลเวส (ยูเวนตุส ย้ายไป เปแอสเช)

แบ็กขวาจอมเก๋าวัย 34 ปี คือกองหลังที่สร้างโอกาสทำประตูมากที่สุดใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลที่แล้ว ที่เล่นให้ ยูเวนตุส (31 ครั้ง)

หากนับผู้เล่นทุกตำแหน่ง เขาสร้างโอกาสใน UCL ซีซั่นก่อนน้อยกว่า โทนี่ โครส ที่ทำได้ 33 ครั้ง เพียงคนเดียว โดยนอกจากแอสซิสต์ไป 4 ลูกแล้ว ยังยิงประตูสุดสวยได้เองถึง 3 ประตู

ผลงานของ อัลเวส ในสีเสื้อต้นสังกัดใหม่อย่าง เปแอสเช ช่วงต้นฤดูกาลนี้ ยัง ยิง 1 จ่าย 2 จากการลงเล่น 3 นัดรวมทุกรายการ

เรียกได้ว่าโดดเด่นไม่เป็นรอง ดานี่ การ์บาฆัล ที่ถูกเสนอเข้าชิงแม้แต่น้อย

 

เซนเตอร์แบ็ก : เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า (เชลซี)

“พี่เดฟ” ขวัญใจแฟนสิงห์บลูส์ คือนักเตะที่ลงสนามให้เชลซีแบบ ครบทุกนัด ทุกนาที ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลก่อน และทำผลงานดีสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะรับบทหนึ่งใน 3 กองหลังตัวกลาง หรือเป็นฟูลแบ็ก

อัซปิลิกวยต้า ยังทำสถิติเป็นนักเตะที่ ผ่านบอลสำเร็จมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว อีกด้วย (2,145 ครั้ง)

 

เซนเตอร์แบ็ก : มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ (บาเยิร์น มิวนิค)

ฤดูกาลที่แล้ว บาเยิร์น มิวนิค คือทีมที่เสียประตูในเกมลีก น้อยที่สุดในบรรดา 5 ลีกใหญ่ยุโรป (22 ประตู) ซึ่งปราการหลังทีมชาติเยอรมนีรายนี้ มีส่วนสำคัญมากทีเดียว

ฮุมเมิ่ลส์ ช่วยให้ทีมไม่เสียประตูมากถึง 13 นัด จากทั้งหมด 27 เกม ที่ลงเล่นในบุนเดสลีกาซีซั่นก่อน แถมยังเติมขึ้นไปพังประตูเองได้ถึง 3 ประตู รวมทุกรายการ ด้วย

 

แบ็กซ้าย : อเล็กซ์ ซานโดร (ยูเวนตุส)

แบ็กซ้ายชาวบราซิเลียน ยึดตัวหลักแทนที่ ปาทริซ เอวร่า ในถิ่น ยูเวนตุส สเตเดี้ยม แบบเต็มตัว และทำผลงานโดดเด่นทั้งเกมรุกและรับ

เขามีส่วนกับประตูของทีมถึง 7 ลูก ในเซเรีย อา ฤดูกาลที่แล้ว (ยิง 3 แอสซิสต์ 4) ขณะที่สถิติเข้าปะทะสำเร็จ 62 ครั้ง ตัดบอลได้อีก 57 ครั้ง จัดว่าเข้าเกณฑ์ยอดเยี่ยม สำหรับตำแหน่งวิงแบ็ก


กองกลางตัวรับ : คาเซมิโร่ (เรอัล มาดริด)

น่าน้อยใจแทน คาเซมิโร่ ที่โดนมองข้าม ทั้งที่เพื่อนร่วมแผงกลางอย่าง ลูก้า โมดริช และ โทนี่ โครส ต่างมีชื่อติดโผกันหมด

กองกลางตัวรับทีมชาติบราซิล ยิงประตูสำคัญทั้งในนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมทั้งศึก ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และเป็นผู้ปิดทองหลังพระ ที่ไม่เคยเล่นแย่ในแผงมิดฟิลด์ทีมราชันชุดขาวเลย

 

กองกลางตัวรุก : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม เป็นเจ้าของสถิติ แอสซิสต์มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว (18 ลูก) ซึ่งถ้านับรวมนักเตะทุกคนใน 5 ลีกดังยุโรป เขาเป็นรอง เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ของ แอร์เบ ไลป์ซิก ที่จ่ายให้เพื่อนยิง 19 ลูก เพียงคนเดียว


เดอ บรอยน์ 
ยังเป็นผู้เล่นที่สร้างโอกาสให้เพื่อน มากเป็น อันดับ 2 ของลีกสูงสุดอังกฤษซีซั่นก่อน (103 ครั้ง) ซึ่งคนเดียวที่ทำได้มากกว่าเขาคือ คริสเตียน เอริคเซ่น

 

กองกลางตัวรุก : คริสเตียน เอริคเซ่น (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ดาวเตะทีมชาติเดนมาร์ก คือนักเตะที่ สร้างโอกาสสูงที่สุด ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลก่อน พาทีมไก่เดือยทองเข้าป้ายรองแชมป์

จากการสร้างโอกาสทั้งหมด 112 ครั้ง กลายเป็นแอสซิสต์ไปถึง 15 ลูก แถมเจ้าตัวยิงได้เองอีกถึง 8 ประตู ขณะที่ผลงานนัดเปิดฤดูกาลใหม่ ก็เหมาจ่ายคนเดียว 2 ลูก พาทีมบุกชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0 อย่างสวยงาม

เรียกได้ว่าทั้ง เดอ บรอยน์ และ เอริคเซ่น น่าจะเป็นแคนดิเดตมากกว่า อันเดรส อิเนียสต้า ที่ช่วงหลังไม่ได้ลงสนามให้ บาร์เซโลน่า แบบสม่ำเสมอเท่าแต่ก่อน

 

กองหน้าฝั่งขวา : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (โรม่า ย้ายไป ลิเวอร์พูล)

ประเดิมเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกให้ทีมหงส์แดง ด้วยผลงาน เรียกจุดโทษ 1 ยิงเองอีก 1 แต่ความพีคของปีกตัวจี๊ดวัย 25 ในปี 2017 คือผลงานก่อนย้ายสู่ถิ่นแอนฟิลด์

ซาลาห์ ทำผลงานทั้งยิงและจ่ายเกิน 10 เม็ดใน เซเรีย อา ให้ โรม่า เมื่อฤดูกาลที่แล้ว (ยิง 15 แอสซิสต์ 11) แถมยิงในศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ เมื่อช่วงต้นปีไปอีก 2 ลูก พาทีมชาติอียิปต์เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ

 

กองหน้าตัวเป้า : เอดินสัน คาวานี่ (เปแอสเช)

กระหน่ำไปถึง 49 ประตู จากการลงสนาม 50 นัดรวมทุกรายการ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดย 35 ประตู ในจำนวนนั้นเกิดขึ้นในเกม ลีก เอิง ที่พาตัวเขาขึ้นแท่นดาวซัลโว

ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยแสดงให้เห็นถึงสถิติการทำประตูที่ดีที่สุดในชีวิตค้าแข้งในซีซั่นที่ผ่านมา แถมเกม ลีก เอิง ฤดูกาลใหม่ ก็ยิงได้ตลอด 2 เกมแรก

จึงค้านสายตาเป็นอย่างยิ่งที่ คาวานี่ หลุดโผแคนดิเดต 24 คน แต่ดันมีชื่อของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ยิงได้น้อยกว่าเยอะติดแทน

 

กองหน้าฝั่งซ้าย : คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (โมนาโก)

โอเคว่าในแคนดิเดต 24 คน เต็มไปด้วยตัวรุกกึ่งปีกฝีเท้าจัดๆ ทั้ง เนย์มาร์, เอแด็น อาซาร์, อ็องตวน กรีซมันน์ และ อเล็กซิส ซานเชซ แต่ไม่ว่าอย่างไร ชื่อของเจ้าหนูดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุด ณ ยุคนี้ ก็ไม่ควรโดนมองข้าม

เอ็มบัปเป้ ยิงให้ โมนาโก รวมทุกถ้วยไปถึง 20 ประตู นับเฉพาะในปี 2017 โดยที่ตำแหน่งการเล่นส่วนมากก็มักโดนจับฉีกออกไปยืนด้านกว้าง

และนอกจากจะจบสกอร์แบบคมกริบแล้ว การกระชากลากเลื้อย และสปีดเร็วกว่านรก ถือว่าดาวเตะวัย 18 ปี ก้าวขึ้นระดับโลกไปแล้ว