ช่วยชาติวิเคราะห์ : 4 แผนเด็ด ทีมชาติไทย น่าลองใช้ เมื่อขาดแข้งหลักเพียบ

อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าทั้ง 23 คนที่ติดมาตอนนี้ก็ไม่ได้ฝีเท้าด้อยไปกว่าคนที่ถอนตัวออกไปเลย และนี่คือ 4 แผนเด็ดที่ Balltoro มองว่าน่าสนใจใช้ลุยแดนมังกรเหมือนกัน!!

ยึดระบบเอเชียน คัพ : 3-4-2-1

นี่คือแผนที่ “โค้ชโต่ย” เลือกใช้ทันทีที่เข้ารับตำแหน่งเฮดโค้ชชั่วคราวในศึกเอเชียน คัพ 2019 ที่ผ่านมา และต้องยอมรับว่าได้ผลดีเหลือเกินด้วยตัวผู้เล่นที่จำกัดสุดๆ ในตอนนี้

วัดกันที่ผลงานตอนนี้คงไม่มีใครกล้าแย่ง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เป็นมือหนึ่งขอทีมได้แน่ เช่นเดียวกับกองหลังสามคน พรรษา เหมวิบูลย์, สุพรรณ ทองสงค์ และ อดิศร พรหมรักษ์ คือสามคนที่ทำได้ดีจนได้รับคำชมมากสุดๆ ในบอลชิงแชมป์เอเชียเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ขณะที่วิงแบ็กในทีมชุดนี้ ทริสตอง โด และ ธีราทร บุญมาทัน น่าจะเหมาะสมที่สุด โดยใช้คู่กลางอย่าง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ เล่นร่วมกันอย่างเคย

ขณะที่ 2 ตัวรุก ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะได้เล่นตำแหน่งเดียวกับที่โชว์ฟอร์มสุดแจ่มกับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร โดยเปิดโอกาสให้ ศิวกรณ์ เตียตระกูล ผงาดมาเล่นชุดใหญ่ครั้งแรกในตัวรุกฝั่งขวาที่ทำได้ดีกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ศูนย์หน้าอาชีพ 1 เดียวในทีมชุดนี้คอยล่าตาข่ายคู่แข่ง

ซึ่งจากระบบนี้จะทำให้ “เมสซี่เจ” กับ “เจ้าเฟย” มีอิสระในการทำเกมรุกมากแน่ๆ เพราะด้วยระบบนี้ทั้งคู่จะคอยสลับกันได้ตลอดเวลา

ปรับใช้หน้าคู่ : 3-4-1-2

ระบบนี้ดูเผินๆ จะไม่ต่างจาก 3-4-1-2 มากนัก แต่เอาเข้าจริงแผนนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมในบอลไทยมากพอสมควร โดยเฉพาะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มักทำได้ดีทีเดียวเมื่อไปลยุกับทีมที่แกร่งกว่าใน ACL

แน่นอนว่า ศิวรักษ์ น่าจะยึดมือหนึ่งต่อไปไม่ว่าจะระบบไหน และใช้ พรรษา, สุพรรณ, อดิศร เป็นสามปราการหลัง และให้ ธีราทร กับ ทริสตอง โด ออกไปเป็นวิงแบ็กเหมือนเดิม

ที่น่าสนใจคือคู่กลางน่าลองใช้ จิตปัญญา ทิสุด มายืนคู่กับ ฐิติพันธ์ เหมือนกันด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมกับ พีที ประจวบ เอฟซี และมีจุดเด่นทั้งเรื่องลูกตั้งเตะ, วางบอลดี แถมยิงไกลคม น่าจะมีประโยชน์กับทีมแน่ๆ

แผนนี้จอมทัพต้องให้ ชนาธิป คอยสร้างสรรค์เกมรุกเพื่อพาบอลไปเล่นเกมรุกตามถนัด ขณะที่คู่หน้าเมื่อมี AK9 เป็นหน้าเป้าคนเดียวเท่านั้นทำให้หากจะใช้หน้าคู่จากรายชื่อที่มีตอนนี้ดูแล้ว พิชา อุทรา น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสุด เพราะ “เจ้าเคน” สามารถเล่นได้หมดทุกตำแหน่งในเกมรุกอยู่แล้ว

ระบบยอดฮิต : 4-2-3-1

ระบบนี้ถือเป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลกเลยก็ว่าได้ และก่อนหน้านี้เฮดโค้ชคนเก่าอย่าง มิโลวาน ราเยวัช ก็มักจะเลือก 4-2-3-1 เป็นแผนหลักที่ใช้คุมทีมสู่ศึกหลายรายการแล้ว

โดยในแผงฟูลแบ็ก ธีราทร, พรรษา, สุพรรณ, ทริสตอง น่าจะเป็นแข้งที่ดูจะเหมาะสมที่สุดในชุดนี้แล้ว ขยับมาที่คู่กลางหากไม่มีไรผิดพลาด ฐิติพันธ์ ก็น่าจะได้เล่นกับคู่หูอย่าง ธนบูรณ์ แน่นอน

ขณะที่ 3 แนวรุก ชนาธิป คงรับบทจอมทัพ เหมือนเดิมแต่ที่น่าสนใจคือตัวริมเส้นน่าจะเป็นการแย่งชิงตำแหน่งกันของ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, พิชา อุทรา, ชนานันท์ ป้อมบุบผา และ ศิวกรณ์ เตียตระกูล ว่าใครจะเหมาะที่สุด

ส่วนแดนหน้าตอนนี้ อดิศักดิ์ ก็รอยืนสบายๆ หลังไม่มีหน้าเแป้ามาแย่งตำแหน่งเลยสักคนในชุดนี้

แผนในตำนาน : 4-3-3

นี่คือแผนทีเด็ดที่ ทีมชาติไทย ในยุค “โค้ชซิโก้” ชอบใช้ และเป็นระบบที่ดูจะเป็นการเน้นรุกมากพอสมควรเลยทีเดียว

โดยในระบบนี้น่าเปลี่ยน นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ลงมายืนเป็นแบ็กขวาแทน ทริสตอง โด ที่น่าขยับไปเล่นเป็นปีกที่ทำได้ดีเหลือเกินในช่วงหลังกับตำแหน่งตัวรุก

ขณะที่กลางสามคน ฐิติพันธ์ น่าลงเป็นตัวต่ำสุด และใส่ สารัช อยู่เย็น คอยทำเกมรุกกับ ชนาธิป แบบที่เคยเล่นด้วยกันช่วง 3-4 ปีที่แล้ว

ที่น่าลองคือการให้ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ กลับมาประจำการณ์ที่ปีกซ้าย และให้ อดิศักดิ์ ยืนเป็นหน้าตัวเป้า โดยมี โด เป็นปีกขวาแทน มงคล ทศไกร ในอดีต

นี่ก็เป็นเพียงแผนการเล่นที่เราคิดว่าน่าสนใจเหมือนกันกับ ทีมชาติไทย ที่จะใช้ใน ไชน่า คัพ 2019 อย่างไรก็ตามการตัดสินใจสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ว่าจะเลือกแผนไหน

และเย็นวันศุกร์นี้เรามารอลุ้นกันว่า ทัพช้างศึก จะลงเล่นในระบบใด และมีใครลงสนามบ้างในเกมที่จะดวลกับ ทีมชาติจีน!!