5 นักเตะใหม่ทีมชาติไทย ยุคมิโลวาน ราเยวัช ลงตรงไหนดีในนัดเจอ ทีมชาติจีน
ทีมชาติไทย เตรียมลงเล่นเกมอุ่นเครื่องในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ ด้วยการเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน พบกับ ทีมชาติจีน
ที่น่าสนใจคือในทีมชุดนี้ มิโลวาน ราเยวัช เรียกแข้งหน้าใหม่มาเข้ามาร่วมทีมด้วยถึง 5 คน และวันนี้ทีมงาน Balltoro ขอจัดระบบการเล่นที่น่าจะเหมาะสุดๆ หากแข้งใหม่ได้ลงสนาม
โดยมีเงื่อนไขว่า กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ธีรศิลป์ แดงดา, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, พรรษา เหมวิบูลย์ และ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว เป็นแกนหลักเเหมือนเดิม….
สุมัญญา ปุริสาย (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
ตำแหน่ง : เพลย์เมคเกอร์
ต้องยอมรับว่าในเวลานี้ สุมัญญา คือนักเตะไทยที่มีฟอร์มยอดเยี่ยมที่สุดเลยก็ว่าได้ด้วยผลงานยิง 8 จ่าย 5 ขึ้นแท่นแข้งไทยที่มีส่วนร่วมกับประตูมากสุดในลีก
จนมีชื่อกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในรอบ 5 ปี และแน่นอนว่าตำแหน่งที่ทำให้ เจ้าตั๊ก แสดงศักยภาพออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดคือ จอมทัพนั่นเอง
หาก ราเยวัช อยากลองใช้งานแข้งบียูรายนี้น่าเลือกระบบ 4-2-1-3 ที่สามารถยืดหยุ่นมาเป็น 4-2-3-1 ซึ่งเป็นแผนที่ดูจะคุ้นเคยอยู่แล้วกับทั้งโค้ชและนักเตะ ทั้งในทีมชาติไทย และ แบงค็อก
ด้วยทักษะ เชิงบอลที่ยอดเยี่ยม บวกกับการจ่ายบอลสวยๆ เชื่อเหลือเกินว่า สุมัญญา จะมีประโยชน์กับทีมชาติไทย มากกับพื้นที่ตรงนั้น
ในขณะเดียวกัน เจ้าตั๊ก ก็ทำได้ดีเหมือนกันในระบบ 4-4-2 แบบไดมอนด์ หลังเป็นแผนที่ บียู ใช้มาตลอดซีซั่นที่แล้วด้วยเช่นกัน
โดยปัญหาเดียวที่ติดอยู่คือตำแหน่งนี้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ แทบจะยึดตัวจริงไว้ได้ทุกครั้ง แต่ก็มีทางเลือกอีกอย่างหากอยากใช้ทั้งสองคนลงเล่นพร้อมกันด้วยการขยับ เมสซี่เจ ไปเล่นเป็นตัวริมเส้นแบบที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ก็ได้
ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ตำแหน่ง : วิงแบ็ก, ปีก
ก้าวขึ้นมาแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวในการลงเล่นเป็นวิงแบ็กขวาซะอย่างงั้นสำหรับ ศศลักษณ์ หลังก่อนหน้านี้เจ้าตัวแทบจะประจำการฝั่งซ้ายมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็น ปีก หรือ วิงแบ็กก็ตาม
ด้วยรูปแบบการเล่นที่วิ่งสู้ฟัด ชนิดที่ไม่กลัวใครทั้งนั้น บวกกับความปราดเปรียวว่องไวในเกมรุกที่พร้อมเติมขึ้นไปช่วยทีมเสมอ โดยที่ไม่ละเลยหน้าที่ในเกมรับเช่นกัน
แต่เอาเข้าจริง ศศลักษณ์ น่าจะเหมาะกับการเล่นเป็นวิงแบ็กได้ทั้งซ้าย หรือขวา ระบบหลัง 3 คนมากกว่า ด้วยที่เขาไม่ใช่ตัวรับอาชีพ
เพราะถ้าเป็นระบบแบ็กโฟร์ดูแล้วไม่ค่อยเวิร์คแน่อๆ และถ้าให้ดีขอเป็นฝั่งขวาที่กำลังท็อปฟอร์มสุดกับ ทัพปราสาทสายฟ้า
ยิ่งถ้าลองวัดผลงานกับนักเตะที่สามารถเล่นแบ็กขวาในทีมชาติอย่าง ฟิลิป โรลเอลร์, อดิศร พรหมรักษ์ และ มานูเอล ทอม เบียห์ร ในเวลานี้แล้วบอกเลย เจ้าพี โดดเด่นกว่าทุกคน
สารัช อยู่เย็น (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
ตำแหน่ง : กองกลาง
ถือเป็นการกลับมามีชื่อติดทีมชาติไทยอีกครั้งในรอบกว่าปีครึ่งเลยก็ว่าได้สำหรับ สารัช หลังพักรักษาอาการบาดเจ็บหนักที่ข้อเท้า ก่อนจะเรียกฟอร์มคืนมาได้ในที่สุด
แน่นอนว่าการมาครั้งนี้เขาอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกคนแรกๆในแผงกลางเหมือนชุด “โค้ชซิโก้” อยู่แล้วด้วยคุณภาพในทีมที่ต้องบอกว่าแน่นเหลือเกินที่จะเบียดลงเล่น
แต่ด้วยความสามารถที่เคยแสดงให้แฟนบอลไทยเห็นมาแล้วเชื่อเหลือเกินว่า เจ้าตัง น่าจะเป็นอีกคนที่เข้ามาเติมเต็มทีมชาติไทยได้ดีแน่นอน
สารัช ถือเป็นแข้งไทยที่วางบอลได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งสั้น และยาว แถมขึ้นชื่อเรื่องการการคุมจังหวะเกมโฮลด์บอลได้ดีอีกด้วย
และแผนที่ดูจะเข้าทางของ กัปตันทีมกิเลนผยอง มากสุดคงหนีไม่พ้น 4-3-3 ที่เคยฝากผลงานไว้ในยุคซิโก้ แถมปีนี้เเขาก็ลงเล่นตำแหน่งนี้บ่อยเหลือเกินให้กับ เมืองทอง ในไทยลีก
หรือบางทีการถอย เจ้าตัง ลงมาเล่นเป็นคู่กลางกับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ในระบบคู่กลางก็อาจจะเข้าท่าได้เหมือนกันใครจะไปรู้??
นพพล พลคำ (โปลิศ เทโร เอฟซี)
ตำแหน่ง : กองกลางตัวรับ
เป็นอีกคนที่มีชื่อมาติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในชีวิต ต้องบอกก่อนเลยว่าในบรรดารุ่นเดียวกัน นพพล น่าจะเป็นกลางรับที่ดีที่สุดแล้วในเวลานี้
แถมกำลังท็อปฟอร์มกับ เทโร ทั้งตัดเกมคู่แข่งอย่างดุดัน, เด็ดขาด เรียกว่านี่แหละมิดฟิลด์ฮาร์ทแมนตัวจริงที่หาได้ยากจากแข้งไทย
จริงอยู่ที่โอกาสลงเล่นในเกมนี้ของเขาจะดูน้อยมาก แต่เมื่อลองดูรายชื่อแล้ว เจ้าเป้ คือมิดฟิลด์ตัวรับอาชีพคนเดียวที่ติดอยู่ในทีมชุดนี้
ซึ่งระบบ 4-2-3-1 ที่ ราเยวัช ใช้มาโดยตลอดก็คือ แผนที่ นพพล เล่นมาโดยตลอดเช่นกันในแผงคู่กลางทั้งในทีม มังกรโล่เงิน หรือกับทัพช้างศึกในระดับเยาวชน
ลองคิดดูว่าการมีคู่มิดฟิลด์สุดโหดอย่าง ฐิติพันธ์ และ นพพล แดนกลางช้างศึกเราจะแน่นแค่ไหน แถมจะยังทำให้คนอื่นมีอิสระในการทำเกมรุกมากขึ้นด้วยเมื่อมีตัวรับอาชีพลงแบบนี้
หรือบางทีการมี เจ้าเป้ ก็อาจจะปรับมายืนในระบบ 4-1-4-1 โดยให้ดาวรุ่งวัย 21 ปีคอยยืนสกรีนหน้ากองหลัง และสามารถใช้แข้งเกมรุกที่เหลือได้อย่างเต็มประสืทธิภาพมากขึ้นด้วย
ขนานันท์ ป้อมบุปผา (สุพรรณบุรี เอฟซี)
ตำแหน่ง : กองหน้า, กองหน้าตัวริมเส้น
เป็นอีกคนที่มีชื่อกลับมาติดทีมชาติไทยอีกครั้งในรอบ 4 ปีเต็มๆ หลังจากถูกเรียกเข้ามาแทนที่ของ เจนรบ สำเภาดี ที่ต้องถอนตัวออกไปเพราะอาการบาดเจ็บ
โดย ชนานันท์ ถือเป็นแกนหลักของ สุพรรณบุรี มาตลอด 2 ปีที่ผ่านมาในเกมรุก จริงอยู่ที่เจ้าตัวแจ้งเกิดมาด้วยตำแหน่งหน้าเป้า แต่ช่วงหลังเขาโดดเด่นเหลือเกินในตำแหน่งตัวริมเส้น
โดยเฉพาะปีนี้ เจ้าทู แทบจะยึดพื้นที่หน้าฝั่งซ้ายมาโดยตลอด ซึ่งเข้ากับรูปแบบของ ราเยวัช ตอนนี้ทีเดียวทั้งในแผน 4-3-3 และ 4-2-3-1
แถมนัดนี้ไม่มี ธีราทร บุญมาทัน ลงเล่นอีกด้วย น่าจะเป็นโอกาสดีที่ ชนานันท์ จะได้เบียดลงเล่นในตำแหน่งที่เขาพีคสุดๆในตอนนี้
ด้วยความสามารถที่ไปกับบอลได้ดี จบสกอร์เด็ดขาด และมีประโยชน์ลงมาช่วยเกมรับได้ด้วยบอกเลยว่าตัวนี้ก็น่าลุ้นพิสูจน์ตัวเองให้แฟนบอลเห็นอีกครั้ง
แน่นอนว่าแฟนบอลไทยหลายคนคงลุ้นให้มีนักเตะหน้าใหม่ลงไปโชว์ผลงานอยู่แล้ว
แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่ที่ มิโลวาน ราเยวัช ว่าจะเลือกใช้แผนการเล่น และนักเตะคนไหนเพื่อรับมือ ทีมชาติจีนในวันที่ 2 มิ.ย.นี้
และไม่ว่าใครจะได้รับโอกาสลงสนาม เชื่อเถอะว่าแฟนบอลทุกคนก็พร้อมตามเชียร์เสมอถ้าคุณคือ ทีมชาติไทย!!