ช่วยชาติวิเคราะห์ : เตรียมทีมนาน มีลุ้นขึ้นไหม?

ช่วยชาติวิเคราะห์ : เตรียมทีมนาน มีลุ้นขึ้นไหม?
ช่วยชาติวิเคราะห์ : เตรียมทีมนาน มีลุ้นขึ้นไหม?

เปรียบเทียบผลแต่ละนัดของทีมชาติไทย ระหว่างเตรียมทีมนาน กับนัดที่มีเวลาไม่ถึง 10 วัน

จากการที่ฟุตบอลไทยลีกต้องปิดฤดูกาลเร็วกว่ากำหนด ทำให้เกมที่ทีมชาติไทยจะเปิดบ้านรับมือ ออสเตรเลีย ในวันอังคารนี้ กลายเป็นเกมที่ “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มีเวลาในการเตรียมทีมสู้ศึกมากที่สุด ตั้งแต่เริ่มรอบ 12 ทีมสุดท้ายขึ้นมาโดยทันที

ที่ผ่านมาต้องบอกเลยว่า ไทยคือทีมที่ต้องการเวลาเตรียมทีมค่อนข้างนาน ในการคว้าผลการแข่งขันที่ดีในแต่ละนัด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบ 3 ที่อยู่ร่วมสายกับ เวียดนาม, ไต้หวัน และ อิรัก นั้น ไทยทำสถิติไม่แพ้แม้แต่เกมเดียว ซึ่งสาเหตุสำคัญคือการมีเวลาเตรียมทีมอย่างเต็มที่นั่นเอง

 

รอบที่แล้ว ไทยได้เปรียบทีมอื่น เพราะ “อินโด” โดนตัดสิทธิ์

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ไทยเข้ารอบ 12 ทีมมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มแบบไม่ลำบากอย่างที่คิด เพราะความได้เปรียบตรงที่ เป็นทีมเดียวที่ไม่ต้องลงเตะคัดบอลโลก 2 นัดในสัปดาห์เดียว ของกลุ่ม F ในรอบที่แล้ว

สาเหตุก็คือ อินโดนีเซีย ซึ่งจริงๆ ต้องอยู่ร่วมสายกับเราด้วย ถูกฟีฟ่าตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขัน โปรแกรมที่ไทยจะต้องบุกไปเยือนพวกเขาในวันที่ 8 ตุลาคม 2015 จึงหายไป

และเราก็ใช้ความได้เปรียบนั้น ขนนักเตะชุดใหญ่ที่สดเต็มที่ บุกถล่ม เวียดนาม ที่เพิ่งบู๊กับ อิรัก มาอย่างหนักหน่วงถึงฮานอย 3-0

เช่นเดียวกับเกมนัดสุดท้ายของรอบ ที่ไทยสามารถบุกไปเสมอ อิรัก 2-2 ที่ประเทศอิหร่าน เราก็ได้เปรียบทีมจากตะวันออกกลาง ตรงที่ว่านั่นคือนัดสุดท้ายที่เราสามารถใส่เต็มที่ เพราะโปรแกรมเปิดบ้านพบ อินโดนีเซีย หายไป

ขณะที่ทีมสิงโตแห่งเมโสโปเตเมีย ยังต้องพะวงกับเกมที่เปิดบ้านเจอ เวียดนาม ในอีก 5 วันให้หลัง แถมต้องชนะสถานเดียวทั้ง 2 นัด

ที่จริงไทยจะต้องมีช่วงที่ลงเตะ 2 เกมในเวลาห่างกันไม่ถึงสัปดาห์กับเขาด้วย แต่โชคดีที่ฟีฟ่าอนุญาตให้คำขอของ เวียดนาม ที่ต้องการเลื่อนโปรแกรมบุกมาเยือนเราจากวันที่ 11 มิถุนายน ไปเตะเร็วขึ้นเป็นวันที่ 24 พฤษภาคม ได้สมหวัง เราจึงได้ประโยชน์ตามไปด้วย

ไทยแยกผู้เล่น 2 ชุดไปทำผลงานได้ดี ชุดใหญ่สามารถเก็บ 6 คะแนนเต็ม จากการเปิดบ้านเฉือน เวียดนาม 1-0 และบุกสอย ไต้หวัน นิ่มๆ 2-0 ในอีกเกือบเดือนถัดมา

ขณะที่ทีมพลังหนุ่มชุดลุยซีเกมส์ที่มีตัวหลักจากชุดใหญ่อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, สารัช อยู่เย็น, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ไปเล่นให้ ก็ป้องกันเหรียญทองฟุตบอลชายที่ประเทศสิงคโปร์ได้สำเร็จ

 

รอบก่อน “ซิโก้” มีเวลาเตรียมทีมเพียบ

สรุประยะเวลาเก็บตัวก่อนแข่งคัดบอลโลกรอบที่แล้ว ของทีมชาติไทย

24 พฤษภาคม 2015 : ชนะ เวียดนาม 1-0 (เหย้า)

11 มิถุนายน 2015 : ชนะ ไต้หวัน 2-0 (เยือน)

วันสุดท้ายที่ไทยลีกแข่งก่อนนัดนั้น : 10 พฤษภาคม 2015 (ก่อนแข่ง 14 วัน)

เรียกนักเตะรายงานตัว : 11 พฤษภาคม 2015 (ก่อนแข่ง 13 วัน)


8 กันยายน 2015 : เสมอ อิรัก 2-2 (เหย้า)

วันสุดท้ายที่ไทยลีกแข่งก่อนนัดนั้น : 19 สิงหาคม 2015 (ก่อนแข่ง 20 วัน)

เรียกนักเตะรายงานตัว : 21 สิงหาคม 2015 (ก่อนแข่ง 18 วัน)


13 ตุลาคม 2015 : ชนะ เวียดนาม 3-0 (เยือน)

วันสุดท้ายที่ไทยลีกแข่งก่อนนัดนั้น : 27 กันยายน 2015 (ก่อนแข่ง 16 วัน)

เรียกนักเตะรายงานตัว : 28 กันยายน 2015 (ก่อนแข่ง 15 วัน)

12 พฤศจิกายน 2015 : ชนะ ไต้หวัน 4-2 (เหย้า)

วันสุดท้ายที่ไทยลีกแข่งก่อนนัดนั้น : 1 พฤศจิกายน 2015 (ก่อนแข่ง 11 วัน)

เรียกนักเตะรายงานตัว : 2 พฤศจิกายน 2015 (ก่อนแข่ง 10 วัน)

24 มีนาคม 2016 : เสมอ อิรัก 2-2 (เยือน)

วันสุดท้ายที่ไทยลีกแข่งก่อนนัดนั้น : 16 มีนาคม 2016 (ก่อนแข่ง 8 วัน)

เรียกนักเตะรายงานตัว : 17 มีนาคม 2016 (ก่อนแข่ง 7 วัน)

หมายเหตุ : โปรแกรมไทยลีก นับเฉพาะของทีมที่มีนักเตะทีมชาติไทยเล่นให้

 

ในรอบที่แล้ว สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยพยายามช่วยเหลือทีมชาติด้วยการเลื่อนโปรแกรม โตโยต้า ไทยลีก ออกไปหลายครั้ง ตามที่ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ขอร้องเพื่อมีเวลาเรียกแข้งช้างศึกมาซักซ้อมแท็กติกจนเข้าขา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 เกมแรกที่ชนะ เวียดนาม และ ไต้หวัน ซึ่งเป็นช่วงที่ไทยต้องเตรียมทีมลุยฟุตบอลชายซีเกมส์ด้วย โปรแกรมไทยลีกถึงกับว่างเว้นไปนาน เกิน 1 เดือน เลยทีเดียว

ขณะที่เกมที่ไทยมีแรงฮึดช่วงท้ายเกม พลิกสถานการณ์จากตามหลัง อิรัก 0-2 กลับมาตีเสมอได้ 2-2 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ทัพช้างศึกมีเวลาเตรียมทีมเน้นๆ นานถึงเกือบ 3 สัปดาห์!! 

จะมีเพียงนัดสุดท้ายเท่านั้น ที่ทีมชาติไทยมีเวลาเตรียมทีมน้อยกว่า 10 วัน แต่ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้น การที่ไทยมีข้อได้เปรียบในเรื่องโปรแกรมการแข่งขัน เราจึงสามารถทุ่มเทโดย “เน้น” กับเกมที่บุกไปเสมอ อิรัก ได้มากกว่าคู่แข่ง จนนำมาสู่ผลการแข่งขันที่ต้องการได้สำเร็จ

แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วว่า ระยะเวลาในการเตรียมทีม ยิ่งไทยมีมาก จะยิ่งทำผลงานได้ยอดเยี่ยม

 

รอบ 12 ทีม ไทยผลงานเป๋ เมื่อเวลาเตรียมทีมน้อยลง

สรุประยะเวลาเก็บตัวก่อนแข่งคัดบอลโลกรอบ 12 ทีมสุดท้าย ของทีมชาติไทย

1 กันยายน 2016 : แพ้ ซาอุดิอาระเบีย 0-1 (เยือน)

6 กันยายน 2016 : แพ้ ญี่ปุ่น 0-2 (เหย้า)

วันสุดท้ายที่ไทยลีกแข่งก่อนนัดนั้น : 20 สิงหาคม 2016 (ก่อนแข่ง 11 วัน)

เรียกนักเตะรายงานตัว : 21 สิงหาคม 2016 (ก่อนแข่ง 10 วัน)

6 ตุลาคม 2016 : แพ้ ยูเออี 1-3 (เยือน)

11 ตุลาคม 2016 : แพ้ อิรัก 0-4 (เยือน)

วันสุดท้ายที่ไทยลีกแข่งก่อนนัดนั้น : 25 กันยายน 2016 (ก่อนแข่ง 11 วัน)

เรียกนักเตะรายงานตัว : 26 กันยายน 2016 (ก่อนแข่ง 10 วัน)

ในรอบ 12 ทีมสุดท้าย ทีมชาติไทยต้องลงแข่งถึง 2 นัด ในเวลาห่างกันไม่ถึงสัปดาห์ แถมต้องพบกับคู่แข่งที่มาตรฐานสูงกว่า

โดยเกมที่ทีมช้างศึกบุกไปแพ้ ซาอุดิอาระเบีย แบบสู้ได้นั้น เป็นเพราะยังมีเวลาเตรียมทีมมากกว่า 1 สัปดาห์ แต่พอต้องเดินทางกลับมาประเทศไทย แล้วมีเวลาเตรียมทีมไม่กี่วันก่อนเจอ ญี่ปุ่น เราพ่ายแพ้ไปแบบไม่ได้ลุ้นเลย

และมันก็เป็นแบบเดียวกันเมื่อเดือนที่แล้ว เราแพ้ด้วยสกอร์ขาดลอยกว่าเดิมต่อ อิรัก หลังจากสภาพทีมเพิ่งเหนื่อยล้าทั้งกายและใจจากเกมบุกแพ้ ยูเออี 

นอกจากนั้นแล้ว ในรอบนี้ ฟุตบอลลีกไม่สามารถขยับโปรแกรมออกไปให้ “โค้ชซิโก้” มีเวลาเตรียมทีมในระดับเกิน 2 สัปดาห์เหมือนหลายๆ นัดในรอบก่อน

เราจึงมีเวลาเตรียมทีมแค่ไม่เกิน 10 วัน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ทีมชาติไทยทำผลงานไม่ดีเหมือนเดิม

 

รอบนี้มีลุ้น!! ไทยมีเวลาเตรียมทีมมากกว่าจิงโจ้เยอะ

การที่ศึก ไทยลีก 2016 รวมถึงฟุตบอลทุกรายการในประเทศต้องยุติลง จากเหตุการณ์ที่ชาวไทยต้องโศกเศร้าทั้งประเทศ หากจะหาแง่ดีจากมัน คือการที่ทีมชาติไทยมีเวลาเตรียมทีมมากขึ้นกว่าเดิม

ทัพนักเตะไทยรายงานตัวเพื่อเตรียมสู้ศึกครั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาที่ห่างจากวันแข่งขันจริง (15 พฤศจิกายน) มากถึง 18 วัน

นักเตะทีมชาติทุกคน ไม่ได้ลงแข่งขันเลยตั้งแต่กลับจากเกมที่ออกไปโดน อิรัก ยำใหญ่ เพราะโปรแกรมฟุตบอลลีกต้องยกเลิกซะก่อน

เท่ากับว่านักเตะช้างศึกมีเวลานานกว่า 1 เดือนในการฟื้นร่างกายให้ฟิตเต็มที่สำหรับเกมที่จะถึงนี้ ผิดกับนักเตะของ ออสเตรเลีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่ค้าแข้งในยุโรป ที่เพิ่งเดินทางมารายงานตัวกับทีมช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ถ้าในแง่ความสดของสภาพร่างกาย แน่นอนว่าครั้งนี้ เราเหนือกว่าคู่แข่ง

แม้สิ่งที่ขาดหายไปคือ “แมตช์ฟิตเนส” แต่เชื่อว่าทีมงานสต๊าฟโค้ชของทีมชาติไทย สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ดี

อีกทั้งครั้งนี้ โปรแกรมคัดบอลโลก ไม่ได้ฟาดแข้งกัน 2 นัดในเวลาห่างกันไม่กี่วันเหมือน 4 นัดที่ผ่านมา เราสามารถทุ่มเทกับเกมที่รออยู่นี้ได้แบบไม่ต้องพะวงนัดอื่น


บางทีมะรืนนี้ไทยอาจจะทำผลงานได้ดีกว่าที่คิดก็เป็นได้ เพราะครั้งนี้ “เรามีเวลาเตรียมตัวดี”

โดย MaChode

 

ทีมงาน Balltoro ขอน้อมเกล้า ถวายความอาลัย ส่งเสด็จองค์ภูมินทร์ สู่สวรรคาลัย ท่านจะอยู่ในดวงใจปวงชนชาวไทยตลอดไป  

_____________________

Balltoro ตัวจริงด้านสถิติฟุตบอล ไม่ใช่แค่รู้แต่ต้องลึก จับประเด็นสำคัญ จับแทคติกการเล่น ให้คุณสนุกกับการดูบอลมากกว่าที่เคยเป็น ติดตามความเคลื่อนไหวทั้ง ข่าวบอลไทย ข่าวพรีเมียร์ลีก ลา ลีกา และลีกดังมากมาย