ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2017-18 ผ่านมาแล้ว 2 เดือน การแย่งชิงตำแหน่งจ่าฝูงกันระหว่าง 2 ทีมเมืองแมนเชสเตอร์ ยังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แบบไม่มีใครยอมใคร
ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีผู้เล่นหลายคนโชว์ฟอร์มได้ดีในลีกสูงสุดอังกฤษ แต่สำหรับ 11 นักเตะฟอร์มเด่นที่สุดในสายตาทีมงาน Balltoro คือแข้งเหล่านี้!!
เก็บคลีนชีตไปถึง 3 นัด จากทั้งหมด 4 เกมลีกที่ลงเฝ้าเสา และหลังผ่านเดือนที่ 2 เขายังเป็นนายประตูที่เก็บคลีนชีตมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้
แบ็กขวา : เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า (เชลซี)
กองหลังสารพัดประโยชน์เล่นได้เหนียวแน่นทั้งกับบทบาทเซนเตอร์แบ็ก และวิงแบ็กขวา ในระบบหลัง 3 ของแชมป์เก่า แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือการเปิดบอลที่มีประสิทธิภาพ
ดาวเตะสแปนิชทำแอสซิสต์ในเดือนที่ผ่านมาถึง 3 ลูก และยังคงเป็นผู้เล่นที่ อันโตนิโอ คอนเต้ ใช้งานครบทุกนาทีในพรีเมียร์ลีก
เซนเตอร์แบ็ก : โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ (อาร์เซน่อล)
ทีมปืนใหญ่ไม่เสียประตูเลยทั้ง 3 นัดในเดือนกันยายน (ชนะ บอร์นมัธ 3-0, บุกเสมอ เชลซี 0-0 และอัด เวสต์บรอมวิช 2-0) ซึ่งทั้ง 3 เกม กอสซิแอลนี่ สวมปลอกแขนกัปตันทีม คุมเกมรับครบทุกนาที
เซนเตอร์แบ็กทีมชาติฝรั่งเศส ทำสถิติเคลียร์บอล และดักตัดบอล ในเดือนที่ผ่านมาอย่างละ 10 ครั้ง เท่ากัน ถือเป็นมาตรฐานที่สูงทีเดียว
เซนเตอร์แบ็ก : นิโกลัส โอตาเมนดี้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
เกมที่ทีมเรือใบสีฟ้ามีชัยเหนือ 2 คู่แข่งสำคัญทั้ง ลิเวอร์พูล (5-0) และ เชลซี (1-0) กองหลังอาร์เจนไตน์รายนี้ คือเจ้าของสถิติเคลียร์บอลอันตรายทิ้งมากที่สุดในทีม โดย 2 นัดดังกล่าว ทำได้รวมกันถึง 11 ครั้ง
แม้การเจอทีมใหญ่ 2 นัดนั้นเขาจะโดนใบเหลือง แต่นั่นคือการตัดฟาวล์ที่ช่วยขวางก่อนที่คู่แข่งจะได้สร้างโอกาสลุ้นประตู ก่อนจะพาทีมจบเดือนกันยายนโดยไม่เสียประตูในพรีเมียร์ลีกเลย ซึ่ง โอตาเมนดี้ ทำได้ 1 ประตู เกมบุกยำ วัตฟอร์ด 6-0 ด้วย
แบ็กซ้าย : เบน เดวิส (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)
สเปอร์ส พลาดคว้าชัยแค่เกมเดียวในเดือนที่ผ่านมา คือวันที่ได้แค่เปิดบ้านเสมอ สวอนซี ซิตี้ 0-0 และนั่นคือเกมที่ เดวิส ไม่ได้ลงสนาม
แต่อีก 3 เกมที่เหลือ ที่ดาวเตะทีมชาติเวลส์ลงเล่น เขาพาทีมคว้า 3 แต้มเต็มทั้งหมด โดยมีส่วนกับประตูถึง 3 ลูก (ยิง 1 แอสซิสต์ 2) บวกกับพาทีมเก็บคลีนชีตได้ใน 2 นัดที่ไปเยือน เอฟเวอร์ตัน และ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์
กองกลาง : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม เพิ่งซัดประตูชัยสุดล้ำค่า พาทีมบุกดับ เชลซี 1-0 และไม่เสียตำแหน่งจ่าฝูงให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันเสาร์
เดอ บรอยน์ คือ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ทั้ง 2 นัดที่เอาชนะทีมใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล 5-0 (วันนั้นแอสซิสต์ 2 ลูก) รวมถึงนัดที่เขาซัดดับแชมป์เก่า
อีกสถิติที่สุดยอดก็คือ เจ้าตัวสร้างโอกาสให้เพื่อนทำประตูถึง 16 ครั้ง ในพรีเมียร์ลีกเดือนที่ผ่านมา หรือเฉลี่ยนัดละ 4 ครั้ง ที่เพื่อนร่วมทีมจะได้ลุ้นยิงจากการเปิดป้อนของดาวเตะหน้าเด็กคนนี้
กองกลาง : มารูยาน เฟลไลนี่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
กองกลางร่างยักษ์ทีมชาติเบลเยียม เพิ่งเหมายิง 2 ประตูในนัดล่าสุดที่พาผีแดงเปิดบ้านถล่ม คริสตัล พาเลซ 4-0
แต่ความโดดเด่นยิ่งไปกว่านั้น คือการช่วยเก็บบอลในแดนกลางได้แบบหมดจด “พี่ฟู” ชนะการดวลลูกกลางอากาศมากถึง 13 ครั้ง จาก 3 เกมที่ได้ลงเล่นในลีกเดือนที่ผ่านมา และเข้าปะทะรวมกันอีก 10 หน
สิ่งที่ยืนยันว่าการขาด เฟลไลนี่ ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยวบลง คือวันที่บุกเสมอ สโต๊ค ซิตี้ 2-2 เขาไม่ได้ลงสนามเพราะมีอาการบาดเจ็บ และนั่นคือเกมเดียวที่ผีแดงพลาดคว้าชัยชนะ
กองกลาง : ดาบิด ซิลบา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติสเปน กลายเป็นนักเตะที่ แอสซิสต์มากที่สุด ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปแล้ว หลังจ่ายให้เพื่อนยิงไป 6 ลูก แซงหน้า เฮนริค มคิทาร์ยาน ที่ทำได้ 5 ลูก เรียบร้อย
โดยเกมที่บุกยำใหญ่ วัตฟอร์ด 6-0 และเปิดบ้านถล่ม คริสตัล พาเลซ 5-0 ดาวเตะวัย 31 รายนี้ สามารถทำแอสซิสต์ได้นัดละ 2 ครั้ง
กองหน้า : เซร์คิโอ “กุน” อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
แม้จะพลาดเกมส่งท้ายเดือนไปอย่างโชคร้าย เพราะเจ็บหนักจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนตินา ก็ได้จารึกชื่อว่าเป็นผู้เล่นคนแรก ที่ซัดแฮตทริกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ พาทีมบุกถล่ม วัตฟอร์ด 6-0
เกือบครึ่งของ 17 ประตู ที่ทีมเรือใบสีฟ้ายิงได้ในลีกเดือนกันยายน มาจากผลงานของ “เอล กุน” ที่มีส่วนถึง 8 ลูก (ยิง 5 แอสซิสต์ 3)
กองหน้า : แฮร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)
ผลงานยิง 11 ประตู รวมทุกรายการ ในเดือนกันยายน ถือได้ว่าหัวหอกทีมชาติอังกฤษ มีฟอร์มถล่มประตูที่ร้อนแรงที่สุดในยุโรป
6 ประตู ในจำนวนนั้น คือการยิงได้ในพรีเมียร์ลีก พาเขากลับมาสู่เส้นทางลุ้นป้องกันรางวัลดาวซัลโวอีกซีซั่นอย่างรวดเร็ว ทั้งที่เดือนสิงหาคมยิงใครไม่ได้เลย
กองหน้า : โรเมลู ลูกากู (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
ยิ่งเล่น ยิ่งคุ้มค่าตัว 75 ล้านปอนด์ มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อตอนนี้หัวหอกร่างยักษ์ทีมชาติเบลเยียม ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกเดี่ยวๆ ด้วยผลงาน 7 ประตู
ลูกากู เป็นนักเตะคนเดียว ที่ลงสนาม 4 นัดในเดือนที่ผ่านมา แล้วทำประตูได้ทุกนัด ซึ่งถึงตอนนี้ ต่อให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หายเจ็บกลับมา ก็ไม่แน่ว่าจะยึดตำแหน่งตัวจริงได้หรือไม่
ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
นายใหญ่ทีมเรือใบสีฟ้าพาทีมชนะทั้ง 4 นัดตลอดทั้งเดือน โดยไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว แถมยิงรวมกันถึง 17 ประตู
ต้องไม่ลืมด้วยว่า 2 เกมในเดือนที่ผ่านมา คือการพบทีมใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล และบุกเยือน เชลซี โดยไร้ดาวยิงตัวเก่งอย่าง กุน อเกวโร่ ในเกมหลังสุด
การพาทีมขึ้นนำจ่าฝูงด้วยผลงานเพอร์เฟ็กต์เช่นนี้ ตำแหน่งกุนซือยอดเยี่ยมของเดือน ต้องตกเป็นของ เป๊ป เท่านั้นจริงๆ