Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก

Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก
Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก

5 สิ่งที่ ทีมชาติไทย ได้เรียนรู้มากขึ้นจากเกมที่เปิดบ้านแพ้ อิรัก 1-2 ในศึกคัดบอลโลก

เป็นเกมที่ออกสตาร์ทได้ดีทีเดียวสำหรับ ทีมชาติไทย แม้สุดท้ายจะเปิดบ้านแพ้ อิรัก 1-2 ทำให้ยังไม่สามารถคว้า 3 แต้มแรกในศึกคัดบอลโลก รอบสุดท้ายได้สักที

แต่เมื่อดูแค่รูปเกมโดยรวมก็ถือว่าไม่ได้แย่มากนัก แถมเรายังพอเห็นทั้งสิ่งดีๆ และสิ่งที่ต้องเร่งปรับปรุงก่อนเกมนัดสุดท้ายที่จะบุกไปเยือน ออสเตรเลีย อีกต่างหาก!!

โดนนำแล้วเป๋ชัดเลย

เริ่มเกมขึ้นมาเห็นได้ชัดเลยว่า มิโลวาน ราเยวัช เน้นเกมรุกกดดันใส่ผู้มาเยือนทันทีและเมื่อผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมง ไทย ที่ครองเกมได้เหนือกว่าอย่างชัดเจนหลังได้ยิง 6 ครั้ง ส่วนอิรักมีแค่ 1 ครั้งเท่านั้น

Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก
Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก

แต่ในที่สุดเราก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้สักทีโดยเฉพาะจังหวะหลุดไปเดี่ยวๆ ของ ชนาธิป ก่อนที่ทีมเยือนจะมาออกนำไปก่อนเฉยจากการยิงครั้งที่ 2 ของพวกเขาเท่านั้น

จากนั้นรูปเกมช้างศึกดูรวนไปเลย หลังไม่สามารถครองเกมบุกแบบเดิมได้เลย และจบครึ่งแรกกลายเป็นว่า อิรัก ได้ยิงรวมถึง 9 ครั้ง ขณะที่ไทยยังหยุดอยู่ที่ 6 ครั้งเท่าเดิมตั้งแต่โดนนำไป

จุดนี้ยังคงเป็นสิ่งที่มีให้เห็นในทัพช้างศึกมาตลอดหลายยุคและเป็นโจทย์หลักให้ ราเยวัช ต้องรีบแก้ไขเพื่อเกมต่อๆไปด้วย

ชนาธิปดูมีของมากขึ้น

ตลอดยุคของ โค้ชซิโก้ “เมสซี่เจ” คือจอมทัพที่ทีมขาดไม่ได้เลยจริงๆ และที่ผ่านมาเขาก็โชว์ให้เห็นอยู่ตลอดเวลาในสนามเมื่อเจอกับทีมระดับเอเชีย เขาก็ยังโชว์ได้อยู่เสมอ โดยเฉพาะลูกคิลเลอร์พาสที่เป็นจุดเด่นมาตลอด

Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก
Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก

และการกลับมาช่วยทีมชาติครั้งแรกหลังจากไปเจลีกมา ดูแล้วเจมีทั้งความแข็งแกร่ง ปราดเปรียว และสามารถเอาตัวรอดได้ดีขึ้นจริงๆ

นอกจากนั้นในทัพช้างศึกเมื่อวานนี้ ชนาธิป เป็นคนที่จ่ายบอลสำเร็จมากสุดในทีมถึง 81.5% หากไม่นับรวมกองหลังแถมยังสร้างโอกาสให้กับทีมไปอีก 3 ครั้ง

แต่สิ่งที่ เมสซี่เจ ต้องรีบอแก้ไขโดยด่วนคือ จังหวะสุดท้ายพราะเกมเมื่อวานนี้มี 2-3 ครั้งได้ที่เขามีโอกาสซัด แต่สุดท้ายก็เลือกจ่ายมากกว่าลองจบสกอร์เอง

ฐิติพันธ์ต้องละเอียดขึ้นอีก

เจ้านิว ถือว่าห้องเครื่องตัวสำคัญของไทยยุคนี้เลยก็ว่าได้เพราะมีทั้งความขยัน และดุดัน ซึ่งจุดนี้ทำให้ตลอด 3 นัดก่อนหน้านี้ตั้งแต่ ราเยวัช เข้ามาทำทีมกลางเราดูแน่นขึ้นจริงๆ

Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก
Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก

แต่การขาดคู่หูอย่าง ธนบูรณ์ ไปทำให้บทบาทเกมรับของเขามีมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าการเข้าบอลแบบไม่ระวังจนพรวด 2 ครั้งนั่นคือจุดเปลี่ยนของเกมที่ทำให้ ฐิติพันธ์ โดนไล่ออกจากสนามทันที

แต่เมื่อลองดูสถิติในเกมนี้แล้วกองกลางจากเชียงราย สามารถแย่งบอลคือได้ถึง 8 ครั้ง เข้าปะทะชนะ 3 ครั้ง แถมตัดบอลได้อีก 1 ครั้งด้วย

ทำให้นี่น่าจะเป็นประสบการณ์อีกครั้งที่จะทำให้ ฐิติพันธ์ แข็งแกร่ง และเล่นบอลอย่างละเอียดมากขึ้นในฟุตบอลระดับเอเชีย

หลุดฟอร์มหลายคน

โดยรวมในเกมเมื่อวานนี้แล้วก็มีอยู่หลายคนทีเดียวที่หลุดฟอร์มไปอย่าง พรรษา เหมวิบูลย์ ที่ทำได้ดีในการเล่นเกมรับทั้งการรับมือลูกกลางอากาศ หรือการเคลียร์บอลจากพื้นที่อันตราย

แต่การจ่ายบอลของเขาสำเร็จเพียง 58.3% เท่านั้นเมื่อเทียบกับ เฉลิมพงษ์ แล้วจ่ายโคตรแม่นถึง 95.7%สูงสุดในสนาม (นับเฉพาะตัวจริง)

Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก
Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก

ขณะที่ อดิศร พรหมรักษ์ ที่โชว์ฟอร์มได้ดีใน 3 เกมที่ผ่านมาจนคนลืม ทริสตอง โด ไปเลยนัดนี้โดน อาลี อัดนาน พาทัวร์จนหลุดตำแหน่งไปหลายครั้งเช่นกัน และแทบจะไม่มีโอกาสได้เติมเกมรุกเลย

ส่วน มงคล ทศไกร ในนัดนี้เงียบเลยจริงๆ เพราะแทบจะไม่มีส่วนร่วมกับเกมเลย แถม 55 นาทีที่ลงสนามจ่าเย็น ได้บอลเพียง 21 ครั้งเท่านั้น แถมไม่มีโอาสได้ยิง หรือสร้างโอกาสให้ทีมเลยจนถูกถอดออกในที่สุด

และ ธีรศิลป์ แดงดา ที่กลับมาทวงตำแหน่งหน้าเป้าคืน ถือว่าเก็บบอลได้ดีเลยทีเดียว แต่ เทพมุ้ย กลับได้ยิงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่ติดบล็อคช่วงท้ายเกม อาจจะเป็นเพราะเวลาทำเกมบุกของไทย จะดูโดดเดี่ยวไปหน่อยเพราะจะมีเพื่อนเติมมาแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

เปลี่ยนตัวดี หลากหลายแท็กติค

Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก
Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก

อันนี้ต้องขอชมเลยสำหรับการกล้าเปลี่ยนแท็คตอคของ ราเยวัช เพราะปกติเขาจะยึด 4-2-3-1 มาโดยตลอด

แต่เริ่มครึ่งหลังได้ 10 นาทีเมื่อเปลี่ยน ทริสตอง โด ลงมาแล้วปรับมายืน 3-4-3 แทนไม่ถึง 10 นาทีก็ได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็ว

อีกอย่างคือการเปลี่ยนตัวที่ถูกจุดทั้ง โด ที่ลงมาช่วงทางขวาได้ดี และ สิโรจน์ ที่ลงมาเรียกเพิ่มความจี๊ดริมเส้นจนฟาล์วให้ทีมได้หลายครั้ง ทำให้เกมไทยดูดีขึ้นก่อนจะมีใบแดง และจุดโทษตามมา

นอกจากนี้การกล้าถอด เมสซี่เจ ออกและเลือกส่ง สุภโชค สารชาติ ดาวรุ่งวัยเพียง 19 ปีเท่านั้นลงสนามแสดงว่าเด็กคนนี้มันต้องมีของอยู่แน่ๆ เสียดายที่เวลา และสถานการณ์ในตอนนั้นไม่ได้เอื้ออำนวยมากที่ควร

Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก
Fact หลังเกม : 5 เรื่องได้เรียนรู้หลังเกม ไทยพ่าย อิรัก

แม้ว่าสุดท้ายแล้ว ทีมชาติไทย จะยังคงตามหาชัยชนะแรก ในศึกคัดบอลโลก รอบสุดท้ายไม่ได้สักที แต่อย่างน้อยเราก็เห็นข้อเสียที่ต้องรีบปรับ และพัฒนาการที่ดีขึ้นมาบ้างแล้ว

ทำให้เกมนัดหน้าที่จะพบ ออสเตรเลีย หากเรายังรักษามาตรฐานของนักเตะทุกคนไว้ได้อย่างน้อยเราน่าจะมีแต้มกลับไทย และดีไม่ดี อาจดึงให้ทีม ออสซี่ต้องไปเพลย์ออฟเพื่อลุ้นไปบอลโลกอีกด้วย!!

 

Credit ภาพจาก : FA Thailand,AFC,ฟุตบอลทีมชาติไทย