Fact หลังเกม : 5 เรื่องดีที่เห็น แม้ไทยพ่ายจิงโจ้ 2-1

Fact หลังเกม : 5 เรื่องดีที่เห็น แม้ไทยพ่ายจิงโจ้ 2-1
Fact หลังเกม : 5 เรื่องดีที่เห็น แม้ไทยพ่ายจิงโจ้ 2-1

5 เรื่องดีที่ได้เห็น จากเกมคัดบอลโลก นัดสุดท้าย ที่ทีมชาติไทย บุกแพ้ ออสเตรเลีย 2-1

สิ้นสุดลงไปแล้วสำหรับภารกิจในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ของทีมชาติไทย ซึ่งปิดฉากด้วยการบุกแพ้ ออสเตรเลีย 2-1 เมื่อช่วงเย็นวันอังคารที่ผ่านมา

แม้ทีมช้างศึกไม่อาจเก็บชัยชนะได้ในรอบนี้ และจบแค่อันดับสุดท้ายของกลุ่ม แต่ถึงอย่างนัั้น เกมนัดล่าสุด เราก็ได้เห็นเรื่องดีๆ 5 เรื่องด้วยกัน

1. “ราเยวัช” กล้าใช้แผนการเล่นใหม่

Fact หลังเกม : 5 เรื่องดีที่เห็น แม้ไทยพ่ายจิงโจ้ 2-1
Fact หลังเกม : 5 เรื่องดีที่เห็น แม้ไทยพ่ายจิงโจ้ 2-1

5 นัดก่อนหน้านี้ ที่ มิโลวาน ราเยวัช คุมทีมชาติไทยรวมทุกรายการ กุนซือชาวเซอร์เบียต่างจัดทีมลงสนามด้วยแท็กติก 4-2-3-1 ทั้งหมด

แต่จากการขาดกองกลางคนสำคัญอย่าง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่โดนแบน ทำให้ ราเยวัช ตัดสินใจปรับมาเล่นระบบ 3 เซนเตอร์แบ็ก เพื่อตั้งโซนรับให้แน่นขึ้น แสดงให้เห็นว่ากุนซือคนใหม่ทัพช้างศึก สามารถจัดทีมได้หลายรูปแบบ

2. “เทพมุ้ย” ยังเป็นตัวอันตรายสำหรับจิงโจ้

Fact หลังเกม : 5 เรื่องดีที่เห็น แม้ไทยพ่ายจิงโจ้ 2-1
Fact หลังเกม : 5 เรื่องดีที่เห็น แม้ไทยพ่ายจิงโจ้ 2-1

ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งเคยฝากผลงานยิง ออสเตรเลีย มาแล้ว 3 ประตู ยังสร้างความลำบากให้แนวรับทีมจิงโจ้อีกหน กับบทบาทกองหน้าตัวเดียวเมื่อวานนี้

“เทพมุ้ย” คือนักเตะที่ได้โอกาสยิงให้ทีมชาติไทยเป็นคนแรก โดยซัดจากนอกเขตโทษหลุดกรอบแบบได้ลุ้นสุดๆ

แม้นั่นจะเป็นโอกาสยิงเพียงครั้งเดียวของเจ้าตัว แต่การเคลื่อนที่ของหัวหอกกัปตันทีมช้างศึกสร้างปัญหาให้เจ้าถิ่นมากทีเดียว

ช่วงท้ายครึ่งแรก เขาสปีดสุดกำลังไปไล่เก็บบอลที่เกือบสุดเส้นฝั่งขวา โดย แม็ทธิว ไรอัน นายประตูออสเตรเลีย จำเป็นต้องเจตนาทำฟาวล์เพื่อขวางไม่ให้ดาวยิงเมืองทองฯ ได้โอกาสจ่ายบอลให้เพื่อนลุ้นทำประตูโล่งๆ

และอีกจังหวะในช่วงที่เพิ่งเริ่มครึ่งหลัง ธีรศิลป์ ควรช่วยให้ไทยได้จุดโทษเพื่อลุ้นได้ประตูนำก่อนเป็นอย่างยิ่ง แต่ผู้ตัดสิน หลิว กว๊อก มั่น จากฮ่องกง กลับไม่เป่าให้แบบน่าแปลกใจ

3. แข้งออสซี่ ต้องเล่นสุดกำลังเพื่อล้มไทย

อารอน มอย นักเตะที่โดดเด่นที่สุดของ ออสเตรเลีย ณ ชั่วโมงนี้ จากผลงานสุดยอดพา ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีก 3 เกมแรกของฤดูกาลใหม่ ระเบิดฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองในการเล่นทีมชาติออกมา ในเกมที่พบกับเรา

Fact หลังเกม : 5 เรื่องดีที่เห็น แม้ไทยพ่ายจิงโจ้ 2-1
Fact หลังเกม : 5 เรื่องดีที่เห็น แม้ไทยพ่ายจิงโจ้ 2-1

กองกลางวัย 26 ปี ทำสถิติกลายเป็น ผู้เล่นที่จ่ายบอลมากที่สุดในเกมเดียว ของศึกคัดบอลโลก โซนเอเชีย รอบนี้ เมื่อผ่านบอลมากถึง 118 ครั้ง เข้าเป้าถึง 91.5% หนึ่งในนั้นคือลูกเปิดแอสซิสต์สุดแม่นให้ โทมี่ ยููริช โขกประตูแรก

แถมคนทำประตูชัยอย่าง แม็ทธิว เล็คกี้ ปีกตัวจี๊ดจาก แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ก็เป็นอีกคนที่เล่นได้โดดเด่น ปั่นป่วน พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ได้ตลอดเกม

ทั้ง มอย และ เล็คกี้ จัดเป็นผู้เล่นตัวท็อปลำดับแรกๆ ของทัพออสซี่ และ 2 คนนี้จำเป็นต้องงัดฟอร์มสุดยอดออกมา เพื่อล้มไทยโดยเฉพาะ!!

4. “ปกเกล้า” คัมแบ็ก!!

Fact หลังเกม : 5 เรื่องดีที่เห็น แม้ไทยพ่ายจิงโจ้ 2-1
Fact หลังเกม : 5 เรื่องดีที่เห็น แม้ไทยพ่ายจิงโจ้ 2-1

จากการที่ทีมต้องขาดทั้ง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่บาดเจ็บ รวมถึง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่ติดโทษแบน ทำให้นักเตะที่แฟนบอลทีมชาติไทยไม่ค่อยปลื้มนักอย่าง ปกเกล้า อนันต์ ได้โอกาสลงสนามให้ทีมชาติเป็นครั้งแรก ในยุคที่ มิโลวาน ราเยวัช คุมทีม

ดาวเตะจาก แบงค็อก ยูไนเต็ด อาจเล่นได้แบบเงียบเชียบ ไม่มีส่วนกับเกมมากนัก แต่เจ้าตัวก็เติมขึ้นพังประตูให้ไทยอย่างเด็ดขาด จากการซัดด้วยซ้าย ส่งบอลเช็ดคานกระดอนพื้นตุงตาข่าย

ประตูเมื่อวานนี้ ยังถือเป็นประตูแรกในรอบเกือบ 2 ปีของ “เจ้าปก” ให้ทีมชาติไทยด้วย เพราะประตูล่าสุดที่เจ้าตัวทำได้ ต้องย้อนไปไกลถึงเกมเปิดบ้านชนะ ไต้หวัน 4-2 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2015

อีกสถิติที่น่าสนใจก็คือ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ก็สามารถทำแอสซิสต์แรกในนามทีมชาติได้เช่นกัน จากการลุยขึ้นไปทางกราบซ้าย แล้วปาดให้ ปกเกล้า ได้ซัดเน้นๆ แบบไร้คนประกบ

5. แพ้ไม่ขาด แม้โดนบุกทั้งเกม

Fact หลังเกม : 5 เรื่องดีที่เห็น แม้ไทยพ่ายจิงโจ้ 2-1
Fact หลังเกม : 5 เรื่องดีที่เห็น แม้ไทยพ่ายจิงโจ้ 2-1

เกมที่เมลเบิร์นเมื่อวานนี้ ถือเป็นเกมที่ไทยโดนคู่แข่งหาโอกาสยิงมากที่สุดในรอบ 12 ทีมคัดบอลโลก 2018 (45 ครั้ง) 

แต่เรากลับออกมาโดยเสียแค่ 2 ประตู ทั้งที่เป็นเกมที่ ออสเตรเลีย จำเป็นต้องยิงให้ได้อย่างน้อย 4 ลูก เพื่อให้มีผลต่างประตูได้-เสีย เหนือกว่า ซาอุดิอาระเบีย

แม้ส่วนหนึ่งที่เราแพ้ไม่ขาด เพราะทีมจิงโจ้ยิงทิ้งขว้างกันเองเยอะมาก ทว่า สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่ลงสนามให้ทีมชาตินัดสุดท้าย ก็ช่วยเซฟให้ทีมถึง 10 ครั้ง 

3 เซนเตอร์แบ็กอย่าง อดิศร พรหมรักษ์, พรรษา เหมวิบูลย์ และ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ยังช่วยกันสกัดลูกอันตรายทิ้งนับไม่ถ้วน เมื่อทำสถิติเคลียร์บอลรวมกันได้ถึง 27 หน

แม้เรายังไม่อาจยกระดับทีมไปสู้กับทีมชาติยักษ์ใหญ่ของเอเชียได้โดยทันที และยังต้องรอคอยโอกาสไปบอลโลกสมัยแรกต่อไป…

แต่ความเป็นจริงก็คือ จากที่เราโดนคู่แข่งไล่ต้อนยับเยินในเกมก่อนๆ หน้า ทว่าตอนนี้ เราแพ้คู่แข่งในเกมสำคัญ ด้วยผลต่างไม่เกิน 1 ประตู