Fact หลังเกม : 5 จุดน่าพูดถึง เกมหงส์เชือดไก่ท้ายเกม 2-1 ทวงจ่าฝูงคืน

Fact หลังเกม : 5 จุดน่าพูดถึง เกมหงส์เชือดไก่ท้ายเกม 2-1 ทวงจ่าฝูงคืน
Fact หลังเกม : 5 จุดน่าพูดถึง เกมหงส์เชือดไก่ท้ายเกม 2-1 ทวงจ่าฝูงคืน

5 จุดน่าพูดถึง จากเกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก ที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-1

ลิเวอร์พูล ยังคงรักษาความหวังที่จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 29 ปี (ครั้งแรกในยุคพรีเมียร์ลีก) ไว้ต่อไป หลังจากได้ 3 แต้มสำคัญสุดๆ จากการเปิดบ้านเฉือนชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-1 ในคืนวันอาทิตย์

นี่คือเกมที่ทั้งสองทีมสู้กันอย่างสนุกสูสีสุดๆ จนกระทั่งหงส์แดงมาได้ประตูชัยแบบมีโชคนิดๆ จากจังหวะที่ อูโก้ โยริส ปัดลูกโหม่งของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แล้วบอลไปโดน โทบี้ อัลเดอร์แวเรลด์ เปลี่ยนทางเข้าประตู ในนาทีที่ 90 ทำให้บรรดาแฟนหงส์ได้เฮกันสุดเสียงที่สุดนัดหนึ่งในซีซั่นนี้เลยก็ว่าได้

จากการที่เป็นเกมใหญ่ ซึ่งมีความสำคัญกับอันดับบนตารางคะแนน ทำให้มีประเด็นน่าพูดถึงมากมาย และนี่คือบทสรุป 5 ข้อเด็ดๆ ที่เราคัดมาฝากกัน

 

1. ฟาน ไดค์ โคตรเทพ

 

 

เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เจ้าของสถิติกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลก ถูกย

กให้เป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ ประจำฤดูกาลนี้ไปครอง หลังจากช่วยให้ ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่เสียประตูยากที่สุด และนั่นคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขามีลุ้นแชมป์

เกมที่หงส์แดงเปิดบ้านอัดไก่เดือยทอง 2-1 มีโอกาสที่ สเปอร์ส จะเป็นฝ่ายได้ประตูชัยด้วยซ้ำ ในนาทีที่ 85 เมื่อ มุสซ่า ซิสโซโก้ พาบอลหลุดขึ้นมา โดยมี ซน ฮึง-มิน วิ่งตีคู่มาด้วยทางขวา ส่วนแนวรับของเจ้าถิ่นเหลือแค่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เป็นกองหลังตัวสุดท้าย กับนายประตูอย่าง อาลีสซง เบ็คเกอร์ เท่านั้น

ความฉลาดของ ฟาน ไดค์ คือเขารู้ว่าทั้ง 2 คนที่หลุดขึ้นมา ต่างถนัดเท้าขวา จึงพยายามยืนตำแหน่งประคองไม่ให้ ซิสโซโก้ ได้จ่ายบอล และบีบให้ต้องล็อกไปยิงด้วยเท้าซ้ายข้างไม่ถนัดสถานเดียวเท่านั้น ก่อนที่กองกลางชาวฝรั่งเศสจะตะบันข้ามคานออกไปแบบน่าผิดหวัง

แม้ ซิสโซโก้ จะยิงได้ไม่ดีพอ แต่ว่า ฟาน ไดค์ ต้องได้เครดิตเต็มๆ จากการพยายามช่วยให้ทีมรอดพ้นการเสียประตูอย่างสุดความสามารถในจังหวะนี้

นอกจากช็อตป้องกันครั้งสำคัญที่ว่าแล้ว ในเกมที่แอนฟิลด์เมื่อคืนที่ผ่านมา ปราการหลังร่างโย่ง ยังเป็นนักเตะที่เคลียร์บอลมากที่สุดของ ลิเวอร์พูล ด้วย (6 ครั้ง)

 

2. ฟูลแบ็กหงส์แดง เจ๋งสุดในลีกตอนนี้

อีกจุดสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้ชัยชนะเหนือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่แอนฟิลด์ ก็คือผลงานโดดเด่นจากฟูลแบ็กทั้งสองข้างอย่าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทางขวา และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ทางซ้าย

ประตูขึ้นนำ 1-0 ของหงส์แดง มาจากการครอสที่ยอดเยี่ยมของ โรเบิร์ตสัน ให้กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ โหม่งกดตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด ถือเป็นแอสซิสต์ลูกที่ 9 ของแบ็กซ้ายทีมชาติสกอตแลนด์ในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ซึ่งถือว่ามากกว่ากองหลังทุกคนในลีก

ขณะที่ อาร์โนลด์ ก็เกือบจะทำประตูได้ในครึ่งหลัง และยังเติมขึ้นไปสร้างโอกาสให้เพื่อนลุ้นประตูได้ถึง 2 หน

แต่ส่วนหนึ่งที่ทำให้แบ็กสองข้างของเจ้าถิ่นเล่นได้ดี เพราะแท็กติกของ สเปอร์ส ที่ใช้ระบบ 3-1-4-2 ซึ่งทำให้วิงแบ็กไก่เดือยทองทั้ง คีแรน ทริปเปียร์ และ แดนนี่ โรส ต้องรับภาระวิ่งขึ้นลงอย่างหนัก เพราะไม่มีปีกอาชีพคอยช่วยนั่นเอง

 

3. “ซาลาห์” ยังไม่เลิกฝืด

 

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไม่สามารถยิงประตูหรือทำแอสซิสต์ได้เป็นนัดที่ 6 ติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกเข้าไปแล้ว โดยเมื่อคืนนี้ เจ้าตัวได้โอกาสลุ้นยิงมากกว่าใครเพื่อน (5 ครั้ง) แต่กลับเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้เลย หนำซ้ำ การที่เขาไม่มีชื่อทำประตูมาเป็นเวลานาน ก็ยิ่งทำให้เขาหวงบอลกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม สัญญาณที่ดีขึ้นก็คือดาวเตะทีมชาติอียิปต์มีส่วนกับประตูชัย เพราะเป็นคนโหม่งไปโดน อูโก้ โยริส ปัดไปกระดอน โทบี้ อัลเดอร์แวเรลด์ เข้าประตูตัวเอง และอาจทำให้ในนัดถัดไป ซาลาห์ จะลดความกดดันในการเล่นลงไปกว่านี้ก็ได้

 

4. หรือไก่เดือยทองจะหลุดท็อปโฟร์?

 

ทำไปทำมา จากที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไม่น่ามีปัญหากับการจบฤดูกาลในอันดับที่ 3 แต่กลายเป็นว่าตอนนี้ พวกเขาโดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเ

 

ต็ด ที่ฟอร์มห่วยแตกในช่วงต้นซีซั่น ทำแต้มขึ้นมาเท่ากันที่ 61 แต้มเรียบร้อยแล้ว และยังมีโอกาสโดน อาร์เซน่อล คู่ปรับตลอดกาล แซงแย่งอันดับ 3 ไปอีกด้วย

ทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ไม่ชนะในลีกเลยตลอด 5 นัดหลังสุด และพวกเขาก็ยังมีงานหนักต้องบุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกในเดือนนี้ ซึ่งหากทีมคู่แข่งแย่งท็อปโฟร์ยังไม่พลาดง่ายๆ ก็มีโอกาสที่ไก่เดือยทองจะเป๋และหลุดวงโคจรไปแทนเหมือนกัน

แง่ดีก็คือ โปรแกรม 7 นัดสุดท้ายของ สเปอร์ส ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ จะเป็นการลงเล่นในบ้านถึง 5 นัด แต่ก็มีอีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ เกมเหย้าต่อจากนี้ทุกนัด จะเล่นกันที่สนามแห่งใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ แล้วนักเตะไก่เดือยทองจะคุ้นเคยเหมือนเล่นในบ้านตัวเองได้หรือเปล่า?

 

5. การลุ้นแชมป์ยังเปิดกว้าง

 

แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะแซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับไปรั้

งตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จ โดยทิ้งทีมเรือใบสีฟ้า 2 แต้ม แต่กลางสัปดาห์นี้ แมนฯ ซิตี้ ก็พร้อมทวงอันดับ 1 กลับไปอีกครั้ง เพราะจะได้ลงเล่นนัดตกค้าง เปิดบ้านพบ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในคืนวันพุธ

หากทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่พลาด 3 คะแนนเต็ม จะทำให้ทีมเรือใบสีฟ้าคือจ่าฝูงตัวจริง เพราะจะกลับไปนำหงส์แดง 1 แต้ม ด้วยจำนวนเกมแข่งที่เท่ากัน

สุดสัปดาห์หน้า เจอร์เก้น คล็อปป์ มีบททดสอบสำคัญ คือการพาทีมบุกเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน ที่กำลังเล่นได้ดี และยังต้องการ 3 แต้มเพื่อการันตีการอยู่รอด จึงไม่ใช่งานง่ายที่หงส์แดงจะคว้าชัยชนะ เพราะต้องไม่ลืมด้วยว่า พวกเขายังมีห่วงกับรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกเช่นกัน

 

เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่มีทีท่าว่าจะเพลาเครื่องลงในช่วงนี้ การที่ ลิเวอร์พูล ได้ 3 แต้มเต็มในเกมยาก จึงยิ่งทำให้แฟนบอลยังศรัทธาอยู่ว่าทีมรักจะคว้าแชมป์ที่รอมานานมาฝากได้

แต่คงปฏิเสธไม่ได้ ถ้าจะบอกว่า การลุ้นแชมป์ในตอนนี้ ยังมองไม่ออกเลยว่าทีมไหนมีโอกาสมากกว่า!!