สำหรับ 11 นักเตะที่ทำผลงานโดดเด่นที่สุดของพรีเมียร์ลีกประจำเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในสายตาของทีมงาน Balltoro จะมีใครบ้างนั้น ไปดูกันเลย
แบ็กขวา : แซร์ช โอริเย่ร์ (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)
ดาวเตะทีมชาติโกตดิวัวร์ อาจได้ลงสนามเกมลีกเพียงแค่ 2 นัด ในเดือนที่ผ่านมา แต่ผลงานในช่วง 2 เกมดังกล่าว ก็เพียงพอให้ โอริเย่ร์ เป็นแบ็กขวาที่โดดเด่นที่สุดของเดือนได้แล้ว
กองหลังวัย 25 ปี เล่นได้อย่างเหนียวแน่นสุดๆ ช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีตในเกมเปิดบ้านชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 2-0 ก่อนจะมาโชว์ฟอร์มอย่างหล่อในวันที่บุกถล่ม บอร์นมัธ 4-1 ด้วยการ ยิง 1 แอสซิสต์ 1 ในเกมดังกล่าว
เซนเตอร์แบ็ก : คริส สมอลลิ่ง (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
เป็นคนโขกตีไข่แตก ปลุกความหวังให้ผีแดงแซงกลับมาโกงความตาย นัดที่บุกไปชนะ คริสตัล พาเลซ 3-2 ก่อนจะโชว์ฟอร์มดีต่อเนื่อง ในเกมลีกอีก 2 นัดถัดมา
นัดแดงเดือดที่เฉือนชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 “พี่ไมค์” ช่วยเคลียร์บอลอันตรายไปถึง 12 ครั้ง แถมยังบล็อคลูกยิงทีมหงส์แดงอีก 4 หน
ก่อนนัดล่าสุด เขาจะพาทีมเก็บคลีนชีตได้ในนัดชนะ สวอนซี 2-0 ปิดท้ายเดือนได้สำเร็จ
เซนเตอร์แบ็ก : นิโกลัส โอตาเมนดี้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ปราการหลังทีมชาติอาร์เจนตินา ลงสนามแบบเต็มเกมครบทั้ง 4 นัดในพรีเมียร์ลีกเดือนที่ผ่านมา ช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ ชนะทั้ง 4 เกม และเก็บคลีนชีตไปถึง 3 ครั้ง ด้วยกัน
โอตาเมนดี้ เคลียร์บอลอันตรายช่วยทีมรวมกันถึง 23 ครั้ง ในเดือนมีนาคม และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เราเชื่อว่าเขาจะติดทีมยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ ประจำฤดูกาลในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กแน่ๆ
แบ็กซ้าย : เบน ชิลเวลล์ (เลสเตอร์ ซิตี้)
ดาวเตะวัย 21 ปีช่วยให้ต้นสังกัดไม่แพ้ในพรีเมียร์ลีกตลอดทั้ง 3 นัดที่เขาลงสนามในเดือนมีนาคม
และยิ่งไปกว่านั้นก็คือสามารถทำ 2 แอสซิสต์คุณภาพให้เห็นอีกต่างหากในวันบุกชนะ เวสต์บรอมวิช 4-1 และ ไบรท์ตัน 2-0
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลงานนัดที่บุกชนะ ไบรท์ตัน เขาเจ๋งขนาดได้รับเลือกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เพราะนอกจากทำแอสซิสต์ให้ทีมขึ้นนำแล้ว ยังเคลียร์บอลทิ้งถึง 7 ครั้ง และดวลลูกโหม่งชนะอีก 5 ครั้งอีกด้วย
กองกลาง : ดาบิด ซิลบา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
หลังจากมีปัญหาเกี่ยวกับลูกชายตัวเองที่ไม่แข็งแรง จนหายไปจากทีมพักใหญ่ในช่วงต้นปี กลายเป็นว่าในเดือนมีนาคม เขากลับมาลงตัวจริงครบทั้ง 4 เกม และมีส่วนกับประตูครบทุกนัด!!
ซิลบา ยิงประตูใส่ อาร์เซน่อล และกดเบิ้ลพาทีมบุกไปชนะ สโต๊ค ส่วนนัดที่ชนะ เชลซี และบุกอัด เอฟเวอร์ตัน ดาวเตะทีมชาติสเปนก็แอสซิสต์รวมกันไปถึง 3 ลูก ด้วยกัน
กองกลาง : เนมานย่า มาติช (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
มิดฟิลด์ทีมชาติเซอร์เบียสามารถทำประตูแรกในสีเสื้อผีแดงได้สำเร็จ ด้วยการซัดลูกใบไม้ร่วงสุดสวย พาทีมบุกชนะ คริสตัล พาเลซ 3-2 แบบโกงความตาย
นอกจากนั้น เจ้าตัวยังคุมเกมได้ยอดเยี่ยมเหมือนที่เล่นได้ในมาตรฐานสูงมาตลอดซีซั่น ทั้งในเกมที่เปิดบ้านอัด ลิเวอร์พูล 2-1 และชนะ สวอนซี เบาะๆ 2-0
ปีกขวา : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)
มีโอกาสสูงมากๆ ที่จะคว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลนี้ไปครอง เมื่อยิงไปแล้วถึง 29 ประตู ทิ้งห่างเจ้าของรางวัลคนเก่าอย่าง แฮร์รี่ เคน ไปถึง 5 ลูก
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซาลาห์ ยิงไปถึง 6 ประตู โดยทำได้ในเกมพบกับ นิวคาสเซิ่ล, วัตฟอร์ด และ คริสตัล พาเลซ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเกมถล่ม วัตฟอร์ด 5-0 สตาร์ทีมชาติอียิปต์คือพระเอกของเกมอย่างแท้จริง เมื่อเหมาคนเดียว 4 ลูก และทำแอสซิสต์ในเกมนั้นไปอีก 1 ครั้ง
ปีกซ้าย : ซน ฮึง-มิน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)
ตอกย้ำให้เห็นว่าเขาคือนักเตะจากทวีปเอเชียที่ดีที่สุด ด้วยการยิงไปแล้ว 12 ประตู ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยทำได้ในเดือนมีนาคมถึง 4 ลูก
โดยเดือนที่ผ่านมา อดีตตัวรุก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ระเบิดฟอร์มฮอต เหมากดเบิ้ล 2 นัดติด พาทีมชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ 2-0 ตามด้วยบุกถล่ม บอร์นมัธ 4-1
กองหน้า : คริส วู้ด (เบิร์นลี่ย์)
หัวหอกทีมชาตินิวซีแลนด์ ทำประตูได้ 3 นัดติดต่อกันเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดย 2 เกมแรกลงสนามในฐานะตัวสำรอง แต่กลายเป็นทีเด็ดนำชัยให้ทีมทั้งสองเกม
วู้ด ลงเล่นตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง ก่อนซัดประตูชัยช่วงท้ายเกมดับ เอฟเวอร์ตัน 2-1 ก่อนจะมาพีคกว่าเดิมในนัดถัดมา ที่ ยิง 2 จ่าย 1 โดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พาทีมบุกยำใหญ่ เวสต์แฮม อีก 3-0
ส่วนเกมล่าสุด ที่เจ้าตัวได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวจริง ก็ยังเป็นคนทำประตูชัยพาทีมบุกชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1 อีกต่างหาก ถือว่าช่วยให้ทีมชนะ 100% ในเกมที่ได้โอกาสลงสนามเมื่อเดือนที่ผ่านมาเลยทีเดียว
กองหน้า : โรเมลู ลูกากู (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
ต้องบอกเลยว่าหัวหอกทีมชาติเบลเยียมกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มเข้าฝักสุดๆ เพราะเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถทำประตูได้ในการลงเล่นทุกรายการให้ทีมปีศาจแดง รวมถึงยิงต่อเนื่องในการไปรับใช้ชาติด้วย
ลูกากู ทุ่มเทเต็มร้อย และเป็นคนตีเสมอให้ทีมนัดที่แซงชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-2 ก่อนจะเป็นอาวุธหลักในการโจมตีด้วยลูกกลางอากาศ ทำให้ทีมมีชัยในเกมแดงเดือด
จากนั้นหลังเบรกทีมชาติ เจ้าตัวก็ยังรักษาฟอร์มแรง ด้วยการซัดเบิกร่องพาทีมดับ สวอนซี 2-0 ได้อีกด้วย
ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
พาทีมกวาด 12 คะแนนเต็ม จนเตรียมฉลองแชมป์ทันที หากเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ในนัดหน้า
โดย 4 นัดที่ผ่านมาที่กุนซือชาวกาตาลันพาทีมชนะรวด มีงานยากอย่างการพบกับ อาร์เซน่อล และ เชลซี รวมถึงต้องบุกไปเยือน สโต๊ค และ เอฟเวอร์ตัน แต่ เป๊ป ก็พาทีมผ่านมาได้ด้วยฟอร์มเหนือกว่าคู่แข่งชัดเจนในทุกเกม แบบไม่ต้องลุ้นเหนื่อยเลยสักครั้ง
ตอนนี้น่าจับตามองมากทีเดียวว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะพาทีมเรือใบสีฟ้าหยิบแชมป์ยุโรปมาเป็นโทรฟี่ที่ 3 ในฤดูกาลนี้ได้หรือไม่ และจะทำลายสถิติเป็นแชมป์ที่ทำแต้มได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกได้หรือเปล่า