หลุดโผได้ไง!! รวม 11 ยอดแข้งฟอร์มเด่น ไร้ชื่อติดโผ “ฟิฟโปร 2018”

นายด่านทีมชาติสโลวีเนีย ยังเป็นกำลังสำคัญพาทีมตราหมีคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ในปีนี้มาครอง

ซึ่งด้วยผลงาน และความสำเร็จกับต้นสังกัดของเขาในปี 2018 ถือว่าไม่เป็นรองนายประตูหน้าไหนทั้งนั้น

แบ็กขวา : โธมัส เมอนิเย่ร์ (เปแอสเช/ ทีมชาติเบลเยียม)

ถ้าจะบอกว่าเขาคือแบ็กขวาที่ดีที่สุดของฟุตบอลโลก 2018 ก็คงไม่ผิดนัก จากผลงานการพา เบลเยียม สร้างประวัติศาสตร์ คว้าอันดับ 3 ซึ่งว่ากันว่าหากเขาไม่ติดโทษแบนในรอบรองชนะเลิศ ก็ไม่แน่ว่า ฝรั่งเศส จะผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้หรือไม่

เมอนิเย่ร์ ทำผลงาน ยิง 1 แอสซิสต์ 2 ในศึกใหญ่ที่รัสเซีย ก่อนกลับมาเป็นแบ็กขวาตัวเลือกแรกของต้นสังกัดเต็มตัวในฤดูกาลนี้ ที่ ดานี่ อัลเวส ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ

เซนเตอร์แบ็ก : แว็งซ็องต์ ก็องปานี (แมนเชสเตอร์ ซิตี้/ ทีมชาติเบลเยียม)

แม้ปัจจุบันอายุปาเข้าไปแล้ว 32 ปี แต่ถ้าอยู่ในสภาพฟิตสมบูรณ์ ก็องปานี ยังคงเป็นตัวเลือกแรกที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกใช้คุมแนวรับ และเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ทั้งพรีเมียร์ลีก และ คาราบาว คัพ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

ก็องปานี ยังทำผลงานโดดเด่นในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียด้วย เมื่อได้ลงเต็มเกมทุกนัดตั้งแต่รอบน็อกเอาต์ และพา เบลเยียม คว้าอันดับ 3 มาครองได้สำเร็จ

ไม่ว่าจะมองมุมไหน กัปตันทีมเรือใบสีฟ้า ก็น่าจะถูกเสนอชื่อเข้าชิงมากกว่า เยร์รี่ มีน่า ปราการหลังทีมชาติโคลอมเบีย ที่เด่นในฟุตบอลโลก 2018 แค่ไม่กี่นัดจริงๆ

เซนเตอร์แบ็ก : แยน แฟร์ต็องเก้น (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์/ ทีมชาติเบลเยียม)

เหมือนว่าฟีฟ่า จะประเมินค่ากองหลังทีมชาติเบลเยียมต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

เพราะ แฟร์ต็องเก้น ก็เป็นกองหลังชั้นยอดอีกหนึ่งรายที่หลุดโผแบบค้านสายตา ทั้งที่เป็นตัวหลักอันดับหนึ่งในแนวรับของ สเปอร์ส และได้ลงสนามเต็มเกมถึง 6 นัดให้ เบลเยียม ในฟุตบอลโลก 2018

ดาวเตะวัย 31 ปีโขกประตูตีตื้นสุดมหัศจรรย์ ในเกมบอลโลก รอบ 16 ทีมสุดท้ายที่แซงชนะ ญี่ปุ่น 3-2 แบบสุดมันส์ รวมถึงเป็นคนทำประตูแรกให้ทีมไก่เดือยทองในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ด้วย

แบ็กซ้าย : ลูก้าส์ เอร์นานเดซ (แอตเลติโก มาดริด/ ทีมชาติฝรั่งเศส)

เป็นคนเดียวในบรรดาแผงหลังตัวจริงของทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลก ที่ไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง ทั้งที่เจ้าตัวคือแบ็กซ้ายที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดแล้วในปีนี้

เอร์นานเดซ ลงเล่นเป็นตัวจริงให้ทีมตราไก่ครบทั้ง 7 นัดในศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซีย แถมสามารถทำแอสซิสต์ได้ถึง 2 ลูก หนึ่งในนั้นคือประตูสุดสวยประจำทัวร์นาเมนต์ ที่เปิดข้ามฟากให้ เบนฌาแม็ง ปาวาร์ วอลเลย์ใส่ อาร์เจนตินา แบบสุดสวย

ขณะที่ผลงานกับต้นสังกัด ดาวเตะลูกครึ่งสเปน ก็พา แอตเลติโก มาดริด คว้าทั้งแชมป์ ยูโรปา ลีก และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ซึ่งจะว่าไป ผลงานในปี 2018 ของเขาโดดเด่นกว่ากองหลังที่ติดโผอย่าง ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้ หรือ เดยัน ลอฟเรน เสียอีก

กองกลาง : มิราเล็ม ปานิช (ยูเวนตุส/ ทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา)

นี่คือกองกลางที่เด่นที่สุดของ กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาลที่แล้วก็ว่าได้ เมื่อ ยิง 5 แอสซิสต์ 8 ให้กับ ยูเวนตุส ในลีกซีซั่นก่อน และทำให้ทีมม้าลายป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกสมัย

ปานิช เริ่มปรับตำแหน่งจากจอมทัพ เป็นกองกลางที่ยืนต่ำคอยคุมจังหวะเกม และทำผลงานได้ดีมากๆ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยทำสถิติผ่านบอลแม่นยำถึง 90.2% และตัดบอลถึง 62 ครั้ง

ส่วนผลงานในฤดูกาลใหม่ เจ้าตัวก็ซัดไปแล้ว 1 ลูก เมื่อซัดประตูสุดสวยในเกมชนะ ลาซิโอ 2-0 แต่บางที การที่ทีมชาติของเขาไม่ได้ไปเล่นในฟุตบอลโลก 2018 อาจมีส่วนให้ทีมงานคัดเลือก ลืมชื่อของเขาไปก็ได้

กองกลาง : แฟร์นันดินโญ่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้/ ทีมชาติบราซิล)

อาจเป็นเพราะราศีซูเปอร์สตาร์ไม่จับมากเท่า เควิน เดอ บรอยน์ หรือ ดาบิด ซิลบา ทำให้ดาวเตะวัย 33 ปี ไม่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง ทั้งที่เป็นกำลังสำคัญในแผงมิดฟิลด์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ด้อยไปกว่าใคร

แฟร์นันดินโญ่ ทำผลงาน ยิง 5 แอสซิสต์ 3 และผ่านบอลมากถึง 2,975 ครั้ง ถือว่าสูงที่สุดในบรรดากองกลางทีมเรือใบสีฟ้าทุกคน ในทีมชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว

ขณะที่ซีซั่นนี้ กองกลางแซมบ้ายังเป็นคนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไว้ใจมากกว่าใครในแผงกองกลาง เมื่อถูกส่งลงเล่นในพรีเมียร์ลีกแบบเต็มเกมครบทั้ง 4 นัดที่ผ่านมาก่อนเบรกทีมชาติ

กองกลาง : คริสเตียน เอริคเซ่น (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์/ ทีมชาติเดนมาร์ก)

หลายคนยังคาใจไม่หายว่า ทำไม อันเดรส อีเนียสต้า ถึงยังถูกเสนอชื่อทุกปี ทั้งที่หลายปีหลังเริ่มโรยราลงไปมาก และไม่ได้โดดเด่นเหมือนช่วงพีค

และคงยิ่งน่าคาใจมากขึ้นไปอีก เมื่อหนึ่งในกองกลางขั้นเทพที่หลุดโผคือ เอริคเซ่น ที่สร้างโอกาสทำประตูได้มากเป็นอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว (95 ครั้ง) ซึ่งเป็นรองแค่ เควิน เดอ บรอยน์ เพียงคนเดียว

ดาวเตะทีมชาติเดนมาร์ก ทำผลงาน ยิง 10 แอสซิสต์ 10 ในลีกซีซั่นก่อน และยังเป็นคนสำคัญที่สุดในทีมชาติ ซึ่งผลงานกับทัพโคนมเกมล่าสุด ก็เพิ่งเหมาคนเดียว 2 ลูก พาทีมเปิดบ้านอัด เวลส์ 2-0 ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ด้วย

ปีกขวา : แกเร็ธ เบล (เรอัล มาดริด/ ทีมชาติเวลส์)

นับเฉพาะในปี 2018 ดาวเตะวัย 29 ปีสามารถยิงประตูใน ลา ลีกา มากถึง 16 ลูก จากการลงสนาม 23 นัด

และคงไม่มีใครลืมแน่ว่า แกเร็ธ เบล คือแมตช์วินเนอร์ตัวจริงประจำเกมนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา เมื่อลงสำรองมายิงคนเดียว 2 ประตู พา เรอัล มาดริด เอาชนะ ลิเวอร์พูล 3-1

ส่วนฤดูกาลนี้ สตาร์ทีมชาติเวลส์ ก็กลายเป็นพระเอกในแนวรุกทีมราชันชุดขาวเต็มตัว เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายออกไป และเขาก็ไม่ทำให้นายใหม่อย่าง ยูเลน โลเปเตกี ต้องผิดหวัง เมื่อยิงได้ทั้ง 3 นัด พาต้นสังกัดเก็บไป 9 แต้มเต็มในลีก

จึงยังน่าสงสัยไม่หายว่าทำไม เบล ถึงหลุดโผ แต่เพื่อนร่วมทีมของเขาที่ผลงานเป็นรองบานเบอะอย่าง คาริม เบนเซม่า กลับมีชื่อติด 55 แข้งที่เข้าชิงแทน!!

กองหน้า : เซร์คิโอ “กุน” อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้/ ทีมชาติอาร์เจนตินา)

ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนตินา ซัดไปถึง 30 ประตู รวมทุกรายการ ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว (21 ประตูในลีก) ที่กวาดแชมป์ทั้งพรีเมียร์ลีก และ คาราบาว คัพ

ยิงไป 2 ประตู ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ให้ทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งมากกว่าแข้งฟ้าขาวทุกคนในทัวร์นาเมนต์ ตามด้วยเหมา 2 ลูกดับ เชลซี ในศึก คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2018

“เอล กุน” ยังเป็นนักเตะคนแรกที่ทำแฮตทริกได้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ เมื่อกด 3 เม็ดถล่ม ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 6-1

จึงน่าคาใจสุดๆ ว่าเขามีผลงานเป็นรองดาวเตะอย่าง โรเมลู ลูกากู, คาริม เบนเซม่า หรือแม้แต่ เปาโล ดีบาล่า ตรงไหนในปีนี้?

ปีกซ้าย : อิวาน เปริซิช (อินเตอร์ มิลาน/ ทีมชาติโครเอเชีย)

นี่คือหนึ่งในนักเตะทีมชาติโครเอเชีย ชุดรองแชมป์โลก ที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุดใน เวิลด์ คัพ 2018 เมื่อทำผลงาน ยิง 3 แอสซิสต์ 1 โดยสามารถทำประตูได้ทั้งในรอบรองชนะเลิศ และนัดชิงชนะเลิศ

เปริซิช ยังเป็นกำลังสำคัญสุดๆ ในการพาต้นสังกัดอย่าง อินเตอร์ มิลาน ทำอันดับกลับไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยผลงาน ยิง 11 จ่าย 9 ใน เซเรีย อา ฤดูกาลที่แล้ว แถมยังสานต่อฟอร์มร้อนแรงมาถึงซีซั่นใหม่ ด้วยการ ยิง 2 จ่าย 1 จาก 3 เกมแรก

อย่างไรก็ตาม การไม่ได้ลงสนามใน แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือ ยูโรปา ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว คงมีส่วนไม่น้อย ที่ทำให้เจ้าตัวไม่ได้เครดิตเหมือนตัวรุกที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง