สื่อนอกมองไทย : Fox Sports Asia ประเมินผลงาน 2 ทีมอาเซียนใน ACL 2019

และต้องยอมรับเลยว่า ดิโอโก้ หลุยส์​ซานโต อดีตดาวยิงบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือคนเดียวที่สามารถเอาชนะแนวรับเจ้าถิ่นได้

อย่างไรก็ตามจากผลอีกคู่ที่ ซานตง ลู่เหนิง เสมอกับ กยองนัม เอฟซี 2-2 ก็ทำให้ ยะโฮร์ ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่แย่นัก

ในทางกลับกัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดูจะตกอยู่ในช่วงเวลาวิกฤติซะแล้วในกลุ่มจีหลังผลอีกคู่ไม่เป็นใจเอาซะเลย

ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส กับ ปักกิ่ง กั๋วอัน คือคู่ปรับต่อไปของพวกเขา ซึ่งผลงานจากเกมพบกับ อูราวะ ก็ทำให้พวกเขาดูน่ากังวลกับผลงานหลังจากนี้เหลือเกิน

ก่อนหน้านี้ โบซิดาร์ บันโดวิช เลือกที่จะตัดชื่อ ปาตินโญ่ ดาวยิงฟิลิปปินส์ กับ ฮาเจิเมะ โฮโซกาอิ อดีตทีมชาติญี่ปุ่นที่เคยไปลุยบุนเดสลีกา

แถมเชื่อมั่นในดาวเตะพลังหนุ่มอย่าง รัตนากร ใหม่คามิ วัย 21 ปีกับ ศศลักษณ์ ไหประโคน วัย 23 ปียืนในตำแหน่งมิดฟิลด์ และใช้ ศุภชัย ใจเด็ด กับ สุภโชค สารชาติ คอยสนับสนุนกองหน้าอย่าง เปโดร จูเนียร์ แม้ บุรีรัมย์ จะส่งดาวรุ่งลงสนามถึง 4 คนแต่พวกเขาก็ไม่ใช่หน้าใหม่ใน ACL

ด้วยสกอร์ที่บุกแพ้มาในเกมแนกหาก บุรีรัมย์ ไม่สามารถคืนฟอร์มกลับมาได้ตั้งแต่ครึ่งทางของรอบแบ่งกลุ่ม บางทีสิ่งที่ บันโดวิช จะสามารถกอบกู้สถานการณ์ ACL ปีนี้ได้คือการให้โอกาสเยาวชนตัวเทพอย่าง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ลงมาเล่นบ้าง

อย่างไรก็ตาม ทัพปราสาทสายฟ้า ก็สามารถกลับมาเอาชนะได้เรื่อยๆ ในปี 2013 และ 2018 จนผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ได้สำเร็จ ดังนั้นตอนนี้จึงยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่วิกฤตินัก

นี่คือครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2016 ที่มีสโมสรจากอาเซียนผ่านเข้ามาเล่นในรอบแบ่งกลุ่มพร้อมๆ กัน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีเหมือนกันนะ

และนี่แหละคือเวลาสำคัญที่ ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะพิสูจน์ว่าพวกเขาจะก้าวมาเป็นทีมชั้นนำของเอเชียได้หรือยัง??