ทีมช้างศึกจะได้เปิดบ้านต้อนรับทีมมังกรทอง ในสนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ซึ่งมีความจุ 25,000 ที่นั่งในวันที่ 5 กันยายนนี้ โดยเป็นการแข่งขันในกลุ่ม G ของศึกคัดบอลโลก 2022 และเป็นรอบคัดเลือกของรายการ เอเชียน คัพ 2023 ด้วยเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่า ทั้ง 2 ทีมย่อมไม่ต้องการเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ตั้งแต่เกมแรกทั้งสิ้น
การเก็บชัยชนะได้ตั้งแต่นัดแรก จะเป็นการสร้างโมเมนตัมให้กับทั้งไทยและเวียดนาม ในการลุ้นท้าชิงโควตาเข้าสู่รอบต่อไปกับตัวเต็งของกลุ่มอย่าง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ซึ่งนอกจากนั้นแล้ว ต้องไม่ลืมด้วยว่าทีมอย่าง มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ก็หวังเข้ารอบด้วยเช่นกัน โดย อินโดนีเซีย จะเป็นฝ่ายเปิดบ้านรับมือทีมเสือเหลือง ในวันเดียวกันกับที่ทีมช้างศึกพบทัพดาวทอง ก่อนจะเล่นในบ้านต่ออีกนัด ในอีก 5 วันถัดมา เพื่อรับมือกับ ทีมชาติไทย
อย่างไรก็ตาม ถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าไทยจะอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์นัก ก่อนจะเริ่มเส้นทางรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก…
สื่อนอกมองไทย : คอลัมนิสต์ Fox Sports จี้ช้างศึกคิดถูกไหมเรียกกองหน้าแค่ 2 คน?
ในขณะที่สื่อคู่แข่งอย่างเวียดนาม ถกเถียงกันว่ากุนซืออย่าง พาร์ค ฮัง-ซอ น่าจะใส่ชื่อของ เหงียน วาน เควียต กองหน้าอดีตกัปตันทีมชาติจาก ฮานอย เอฟซี ไว้ในรายชื่อนักเตะ 27 คนแรก แต่ดูเหมือนว่าประเด็นแบบนี้ จะหาไม่เจอในหมู่แฟนบอลชาวไทยสักเท่าไร
นั่นเป็นเพราะแฟนบอลไทยถือคติที่ฝรั่งเรียกกันว่า “ขอทานไม่มีสิทธิ์เลือก” หรือถ้าให้ตีความก็คือ พวกเขาทำอะไรไม่ได้ ถ้าหากเฮดโค้ชอย่าง อากิระ นิชิโนะ จะตัดสินใจเลือกกองหน้ามาติดทีมแค่ 2 คน จากทั้งหมด 33 คนในทีมชุดแรกก่อนตัดตัว
โดยนี่ถือเป็นการคัดเลือกนักเตะมาติดทีมชาติเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่อดีตกุนซือทีมชาติญี่ปุ่นรับหน้าที่คุมทีมช้างศึก
ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าจอมเก๋าจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งรับใช้ชาติมาอย่างยาวนาน ไม่มีชื่อติดทีม จากการไม่ได้ลงสนามมานานกว่า 1 เดือนเพราะมีอาการบาดเจ็บ ส่วนเพื่อนร่วมสังกัดอย่าง อดิศักดิ์ ไกรษร ซึ่งรับบทหัวหอกตัวความหวังแทนเจ้ามุ้ยในศึก ซูซูกิ คัพ ก็ไม่มีชื่อเช่นกัน เพราะสภาพความฟิตยังไม่ได้มาตรฐานพอ
นอกจากนั้นแล้ว สิโรจน์ ฉัตรทอง จาก พีที ประจวบ เอฟซี รวมไปถึง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา หัวหอกวันเดอร์คิดจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ยิงไปแล้ว 7 ประตูในลีก และ สุรชาติ สารีพิมพ์ ดาวยิงตัวเก๋าวัย 33 ปีจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็ต่างไม่ถูกกุนซือจากแดนอาทิตย์อุทัยเรียกตัวทั้งหมด
ชี้หอก 2 รายที่เรียกมา ก็ยังวางใจไม่ได้
สำหรับกองหน้า 2 คนที่ นิชิโนะ เรียกมาเตรียมทำศึกคัดบอลโลก 2 นัดแรกคือ ศุภชัย ใจเด็ด จาก บุรีรัมย์ และ ชนานันท์ ป้อมบุปผา จาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ชนานันท์ หัวหอกวัย 27 ปี ยังไม่สามารถทำประตูในนามทีมชาติได้ แม้จะรับใช้ชาติมาแล้ว 9 นัด ขณะที่บทบาทกับต้นสังกัดใหม่อย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ก็ยังไม่การันตีตัวหลักได้ในระยะยาว
ทางด้าน ศุภชัย ก็ยิงได้เพียง 4 ประตู ในทุกรายการที่แข่งในประเทศฤดูกาลนี้ โดยไม่สามารถทำประตูได้ตลอด 6 นัดที่ลงเล่นให้ทีมปราสาทสายฟ้าในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2019 รอบแบ่งกลุ่ม
สื่อนอกมองไทย : คอลัมนิสต์ Fox Sports จี้ช้างศึกคิดถูกไหมเรียกกองหน้าแค่ 2 คน?
แล้วนิชิโนะ จะทำได้ดีหรือไม่ ในการคุมช้างศึกที่มีตัวเลือกแดนหน้าจำกัด?
อากิระ นิชิโนะ ชอบที่จะเล่นในระบบ 4-2-3-1 โดยมีกองหน้าตัวเป้าเพียงคนเดียว
ในศึก ฟุตบอลโลก 2018 เขาใช้ ยูยะ โอซาโกะ เป็นหัวหอกเดี่ยว และสามารถพาทีมเข้าถึงรอบน็อคเอาต์ได้สำเร็จ ก่อนจะแพ้ให้กับ เบลเยียม ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปแบบหวุดหวิดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทีมชาติไทยใช่ว่าจะไม่คุ้นเคยกับแผนการเล่นนี้ เพราะกุนซือถาวรคนก่อนหน้าอย่าง มิโลวาน ราเยวัช ก็ใช้ระบบเดียวกัน พาทีมช้างศึกทะลุไปถึงรอบรองชนะเลิศของศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เมื่อปีที่แล้ว
แต่สิ่งที่ต่างออกไปก็คือ ในศึก เอเชียน คัพ 2019 ผู้รับบทกองหน้าตัวเป้าคือ ธีรศิลป์ แดงดา ที่เล่นอยู่หน้าเพลย์เมกเกอร์อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ โดยมี อดิศักดิ์ ไกรษร และ ศุภชัย ใจเด็ด รับบทตัวรุกริมเส้น
สื่อนอกมองไทย : คอลัมนิสต์ Fox Sports จี้ช้างศึกคิดถูกไหมเรียกกองหน้าแค่ 2 คน?
ศุภชัย อาจจะสามารถยิงได้ถึง 3 ประตู จากทั้งหมด 4 ลูกที่เขาทำได้ในนามทีมชาติ ตอนลงเล่นเป็นปีกในศึก ซูซูกิ คัพ 2018 แต่เขายังไม่เคยพิสูจน์ให้เห็น ว่าทำได้ดีกับบทบาทศูนย์หน้าตัวเป้าให้ทีมชาติไทย
“เจ้าอาร์ม” จะสามารถแบกแนวรุกของทีมช้างศึกได้หรือไม่ ในวัยเพียง 20 ปี เชื่อว่าผลงานของเขาในศึกคัดบอลโลก กลุ่ม G จะให้คำตอบได้ดีพอสมควร
