ผีแดงนำทัพ 3 คน!! 11 ยอดแข้งพรีเมียร์ลีกเดือนสิงหาคม 2017 โดย Balltoro

แบ็กขวา : อัลล็อง นียอม (เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน)

แบ็กขวาทีมชาติแคเมอรูน โชว์ความแข็งแกร่งในการเล่นเกมรับริมเส้น โดยการเข้าปะทะทั้งหมด 6 ครั้ง ของเขาจาก 3 เกมที่ผ่านมา สามารถแย่งบอลกลับมาครองได้แบบ 100% แถมมีจังหวะเคลียร์บอลอันตรายทิ้งถึง 10 ครั้ง

เกมล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ แม้ เวสต์บรอมวิช จะเสียสถิติชนะรวด แต่ประตูขึ้นนำ สโต๊ค 1-0 จาก เจย์ โรดริเกซ ก็มาจากแอสซิสต์ของเขา ที่เติมขึ้นไปครอสจากขวาแบบหวังผลได้

เซนเตอร์แบ็ก : เอริก ไบยี่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

เซนเตอร์แบ็กทีมชาติโกตดิวัวร์ คุมแนวรับให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แบบเนียนตาเหลือเกิน และทำให้ทีมชนะรวด 3 เกมโดยไม่เสียประตู

นอกจากยืนตำแหน่งได้แบบนิ่งสุดๆ แล้ว เจ้าตัวยังประตูแรกในสีเสื้อผีแดงได้ด้วย ในเกมบุกถล่ม สวอนซี ซิตี้ 4-0

เซนเตอร์แบ็ก : คริสโตเฟอร์ ชินด์เลอร์ (ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์)

เซนเตอร์แบ็กชาวเยอรมัน คือกุญแจสำคัญอีกดอก ที่ช่วยให้ ฮัดเดอร์สฟิลด์ เก็บคลีนชีตทั้ง 3 นัดแรกที่เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด

เจ้าของส่วนสูง 189 เซนติเมตร ทำสถิติเคลียร์บอลอันตรายทิ้งถึง 23 ครั้ง โดย 13 ครั้ง ในจำนวนนั้นมาจากการโหม่งสกัด

แบ็กซ้าย : มาร์กอส อลอนโซ่ (เชลซี)

เป็นกองหลังที่ทำประตูได้มากที่สุดในเดือนแรกของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ ด้วย 2 ประตูคุณภาพพาทีมบุกดับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-1

ชัยชนะเหนือทีมไก่เดือยทอง ช่วยให้แชมป์เก่าเรียกความมั่นใจคืนมาอย่างรวดเร็ว จากที่แพ้ เบิร์นลี่ย์ คาบ้าน 2-3 ในนัดแรก โดยนัดล่าสุดเขาเด่นทั้งเกมรุกและรับ พาทีมคว้าชัยเหนือ เอฟเวอร์ตัน 2-0 ก่อนเข้าเบรกทีมชาติ

กองกลาง : อารอน มอย (ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์)

มิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรเลีย ที่เตรียมลงสนามพบทีมชาติไทยช่วงต้นเดือนกันยายน ระเบิดฟอร์ม ยิง 1 แอสซิสต์ 1 จาก 2 เกมแรก

ประตูที่เขาวิ่งตะบันดับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-0 ถือว่าสวยที่สุดลูกหนึ่งในเดือนที่ผ่านมา นอกจากนั้น เจ้าตัวยังคุมเกมแดนกลางได้แน่นอน ด้วยสถิติผ่านบอลสำเร็จ 133 ครั้ง สูงกว่าเพื่อนร่วมทีมทุกคนใน 3 นัดแรก

กองกลาง : ปอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

จากการย้ายเข้ามาของ เนมานย่า มาติช ทำให้อดีตกองกลางค่าตัวแพงที่สุดในโลก มีอิสระในการทำเกมรุกมากขึ้น

การได้เล่นง่ายกว่าเดิม นำพามาซึ่งผลงาน ยิง 2 แอสซิสต์ 1 แถมได้ตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครองตลอด 2 เกมล่าสุด

ปีกขวา : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)

ย้ายจาก โรม่า เข้ามาเป็นตัวจี๊ดในแนวรุกของทีมหงส์แดงทันที โดยผลงานนัดเปิดฤดูกาลกับ วัตฟอร์ด เขาเรียกจุดโทษให้ทีม แถมยิงเองอีก 1 ลูก

แต่ฟอร์มมาสเตอร์พีซอยู่ที่เกมบิ๊กแมตช์ที่ถล่ม อาร์เซน่อล 4-0 เมื่อหาโอกาสยิงตรงกรอบมากถึง 5 ครั้ง ครอสบอลสำเร็จ 100% ก่อนคว้าตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ด้วยผลงานกระชากไปยิงเอง 1 และเปิดให้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ โขกปิดกล่อง

จอมทัพ : เฮนริค มคิทาร์ยาน (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

ทำสถิติ แอสซิสต์มากที่สุด (5 ครั้ง) เมื่อจ่ายให้เพื่อนยิงได้ทุกนัด ตลอด 3 เกมที่ผ่านมา ถือเป็นนายใหญ่ในแนวรุกทีมปีศาจแดงในฤดูกาลนี้เต็มตัว

ทั้ง 5 แอสซิสต์ยังมาจากการเปิดบอลที่ครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นเปิดฟรีคิก, จ่ายทะลุช่อง รวมถึงการเปิดเตะมุม

ปีกซ้าย : ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล)

ยังรักษาฟอร์มเก่งต่อเนื่องจากฤดูกาลที่แล้ว ด้วยการยิงประตูได้ทั้ง 3 นัดในฤดูกาลใหม่ แม้จะถูกปรับบทบาทจากปีกขวา โยกไปยืนปีกซ้ายก็ตาม

จากการที่ต้นปีหน้าไม่มีศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ให้กังวลใจ แฟนหงส์ขอแค่ปีกทีมชาติเซเนกัลฟิตสมบูรณ์ตลอดฤดูกาล อาจถึงขั้นลุ้นแชมป์ได้เลย

กองหน้าตัวเป้า : อัลบาโร่ โมราต้า (เชลซี)

ยกระดับฟอร์มการเล่นได้อย่างรวดเร็ว จากที่เงียบๆ ในช่วงปรีซีซั่น แต่เปิดฤดูกาลมา 3 นัด เจ้าตัว ยิง 2 และ แอสซิสต์ไปอีก 2 ลูก

โมราต้า กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ของ เชลซี ยุคพรีเมียร์ลีก ที่ลงสนามที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ 2 เกมแรก แล้วทำผลงาน ยิง 1 จ่าย 1 ได้ทั้ง 2 นัด

โดยทุกประตูที่หัวหอกรูปหล่อมีส่วนร่วม มาจากการขึ้นโหม่งทั้งหมด

ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

ตำแหน่งกุนซือยอดเยี่ยมประจำเดือน จะเป็นของใครไปไม่ได้เลย นอกจากผู้จัดการทีมผู้พาทีมปีศาจแดงนั่งบัลลังก์จ่าฝูงตั้งแต่จบสัปดาห์แรก ด้วยฟอร์มสมบูรณ์แบบ ชนะทุกนัด ยิง 10 ประตู และไม่เสียสักลูก

การเปลี่ยนตัวของกุนซือโปรตุกีส ยังทำให้ทีมได้ประตูมาตลอด 3 เกมหลังสุดด้วย เรียกได้ว่าแฟนผีได้ลุ้นเต็มตัว ว่าปีนี้พร้อมเป็นทีมลุ้นแชมป์อีกครั้ง