ทีมรวม 11 นักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก ประจำเดือนธันวาคม 2017 จัดโดยทีมงาน Balltoro
เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่าศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฟาดแข้งกันแบบมาราธอนสุดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสจนถึงวันสิ้นปี ที่เตะกันไม่พักอยู่ลีกเดียวในบรรดา 5 ลีกดังยุโรป
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังนำจ่าฝูงต่อไป ด้วยช่องว่างที่ทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึง 15 แต้ม ขณะที่ดาวซัลโวสูงสุดเป็น แฮร์รี่ เคน ที่ฟอร์มแรงช่วงปลายปี ซัดไปแล้วถึง 18 ประตู
สำหรับ 11 นักเตะที่ทำผลงานโดดเด่นที่สุดของพรีเมียร์ลีกเดือนส่งท้ายปี 2017 ในสายตาของทีมงาน Balltoro จะมีใครบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย
ผู้รักษาประตู : จอร์แดน พิคฟอร์ด (เอฟเวอร์ตัน)
จาก 7 นัดที่นายด่านทีมชาติอังกฤษลงเฝ้าเสาในเดือนธันวาคม เขาเก็บคลีนชีตไปถึง 4 นัด และไม่เคยโดนยิงเกิน 1 ประตูในนัดเดียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมที่ เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านเสมอ เชลซี 0-0 พิคฟอร์ด ออกแรงเซฟลูกยากถึง 5 ครั้ง และตอนนี้มีเสียงเรียกร้องให้เขายึดมือหนึ่งทีมสิงโตคำรามแทน โจ ฮาร์ท มากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
แบ็กขวา : แอชลี่ย์ ยัง (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
ลงสนามให้ทีมปีศาจแดง ครบทั้ง 7 นัดในลีกเดือนที่ผ่านมา และเป็นหนึ่งในไม่กี่คนของทีม ที่เล่นด้วยฟอร์มดีสม่ำเสมอ
ยัง โดดเด่นสุดๆ กับบทบาทวิงแบ็กซ้ายในวันบุกชนะ อาร์เซน่อล 3-1 ก่อนจะมีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมได้ 2 ประตู ไล่ตีเสมอ เบิร์นลี่ย์ 2-2 ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวันบ็อกซิ่งเดย์
ขณะที่เกมส่งท้ายปีที่เปิดบ้านเจ๊า เซาธ์แฮมป์ตัน 0-0 แม้สุดท้ายเขาจะโดนแบนย้อนหลัง จากการไปตีศอกใส่คู่แข่ง แต่เกมนั้นเขาเล่นได้เหนียวแน่น และพยายามเติมขึ้นไปเปิดบอลลุ้นทำประตูให้ทีมตลอดเกม
เซนเตอร์แบ็ก : แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ (เอฟเวอร์ตัน)
ตลอดทั้ง 6 เกมที่เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีมชาติเวลส์ ลงคุมแดนหลังทีมทอฟฟี่เมื่อเดือนที่ผ่านมา เอฟเวอร์ตัน ไม่แพ้เลยแม้แต่นัดเดียว แถมไม่เสียประตูถึง 4 นัด
เกมที่ วิลเลี่ยมส์ ทำผลงานโดดเด่นสุดๆ คือนัดบุกชนะ นิวคาสเซิ่ล 1-0 เมื่อทำสถิติเคลียร์บอลอันตรายทิ้งถึง 16 ครั้ง มากที่สุดเท่าที่เขาทำได้ตั้งแต่เปิดฤดูกาลมาเลยทีเดียว
เซนเตอร์แบ็ก : นิโกลัส โอตาเมนดี้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ทำประตูสำคัญ 2 นัดติดต่อกันในช่วงต้นเดือน ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ได้ชัยชนะ 2-1 เหนือ เวสต์แฮม และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเกมที่บุกชนะทีมปีศาจแดง ถือว่าสำคัญอย่างยิ่งยวด ต่อการทำให้ทีมนำจ่าฝูงแบบสบายหายห่วงขนาดนี้
โอตาเมนดี้ ลงสนามให้ต้นสังกัดแบบเต็มเกมครบทั้ง 7 นัดในลีกเดือนธันวาคม โดยที่ตัวหลักทั้ง จอห์น สโตนส์ และ แว็งซ็องต์ ก็องปานี สภาพไม่สมบูรณ์ แต่เขายังเป็นแกนหลักทำให้เกมรับของทีมมั่นคง และยังรักษาสถิติไร้พ่ายได้อย่างต่อเนื่อง
แบ็กซ้าย : มาร์กอส อลอนโซ่ (เชลซี)
ถ้าใครเลือกใช้วิงแบ็กซ้ายสแปนิชในเกม แฟนตาซี พรีเมียร์ลีก คงได้แต้มบวกกระจุยกระจายในเดือนธันวาคม เพราะช่วยให้ เชลซี คลีนชีตถึง 4 เกม ยิงไป 2 ประตู และทำได้อีก 1 แอสซิสต์
ถึงตอนนี้ อลอนโซ่ ยิงไปแล้ว 6 ประตู ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ถือเป็นกองหลังที่ทำประตูได้มากกว่าใครๆ ด้วย
ปีกขวา : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)
จาก 7 เกมที่ได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีก เดือนที่ผ่านมา สตาร์ทีมชาติอียิปต์ มีส่วนกับประตูมากถึง 6 นัด ทำผลงาน ยิง 5 แอสซิสต์ 3
นอกจากนั้นแล้ว 4 จาก 5 ประตูที่ ซาลาห์ ทำได้ ยังช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้แต้มเพิ่มถึง 5 แต้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเหมาคนเดียว 2 ลูก พาทีมแซงชนะ เลสเตอร์ 2-1 ในเกมส่งท้ายปี บ่งบอกว่าทีมหงส์แดงขาดเขาในเกมรุกไม่ได้จริงๆ
กองกลาง : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม เป็นนักเตะเอาต์ฟิลด์คนเดียวที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ส่งลงเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกครบทุกนัดในฤดูกาลนี้
เดอ บรอยน์ ทำผลงานสุดยอดในเกมบิ๊กแมตช์ที่ชนะทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ สเปอร์ส จนคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ทั้ง 2 เกม และยังนำเป็นอันดับหนึ่งของผู้เล่นที่ แอสซิสต์มากที่สุด หลังจ่ายให้เพื่อนยิงในซีซั่นนี้ไปแล้ว 9 ลูก ด้วยกัน
กองกลาง : เจสซี่ ลินการ์ด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
จากนักเตะที่แฟนผีแดงต่างร้องยี้ แต่ ณ เวลานี้ เจสซี่ ลินการ์ด คือผู้เล่นที่สำคัญที่สุดในแนวรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด
ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ยิงในพรีเมียร์ลีกไปถึง 5 ประตู แถมทำได้อีก 2 แอสซิสต์ ในเดือนธันวาคม ก่อนจะซัดสุดสวยอีกลูกใส่ เอฟเวอร์ตัน ในวันขึ้นปีใหม่
เท่ากับว่าฤดูกาลนี้ เด็กปั้นแท้ๆ ของผีแดง ยิงรวมทุกรายการไปแล้ว 10 ประตู เป็นรองหัวหอกตัวเป้าอย่าง โรเมลู ลูกากู คนเดียวเท่านั้น และดูเหมือนเจ้าตัวจะเล่นด้วยความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ จนยึดตัวจริงถาวรได้แล้วด้วย
ปีกซ้าย : ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (ลิเวอร์พูล)
แม้มีข่าวลือแรงมากว่าเตรียมย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า แต่ผลงานของ คูตินโญ่ ที่มอบให้ทีมหงส์แดงในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ถือว่าไม่มีที่ติ
สตาร์ทีมชาติบราซิลคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ถึง 3 เกม ด้วยผลงาน ยิง 4 แอสซิสต์ 4 ยังไม่รวมการทำแฮตทริกในเกม UCL นัดสำคัญ พาทีมถล่ม สปาร์ตัก มอสโก 7-0
กองหน้า : แฮร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)
จากผลงาน แฮตทริก 2 นัดติดต่อกัน ช่วงส่งท้ายปี และเหมาคนเดียว 2 ลูกใส่ สโต๊ค ซิตี้ ช่วงต้นเดือน ทำให้หัวหอกทีมชาติอังกฤษ คือดาวซัลโวสูงสุดของยุโรปในปี 2017 ด้วยผลงานยิงรวมให้สโมสรและทีมชาติตลอดปีที่แล้วถึง 57 ประตู
ฟอร์มยิงกระฉูด ทำให้ เคน แซงหน้า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ขึ้นไปนำอันดับหนึ่งบนชาร์ทดาวซัลโวเรียบร้อย และมีโอกาสสูงทีเดียว ที่จะคว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก เป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกัน
กองหน้า : โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ลิเวอร์พูล)
หลังจากฟอร์มฝืดไปพอสมควรในช่วงเดือนก่อนหน้านี้ แต่ ฟีร์มีโน่ ก็มาฟอร์มเข้าฝัก ด้วยการซัดไปถึง 6 ประตู ในเกมลีกเดือนธันวาคม โดยเหมาซัดเบิ้ลใส่ทั้ง ไบรท์ตัน และ สวอนซี
นอกจากนี้ แกนรุกทีมชาติบราซิลยังทำผลงาน ยิง 1 จ่าย 1 ได้ 2 เกมติดต่อกัน ในวันบุกเยือน บอร์นมัธ และ อาร์เซน่อล เรียกได้ว่าฟอร์มการเล่นของเขาในเดือนส่งท้ายปี 2017 ไม่เป็นรองใครทั้งนั้น
ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
พาทีมผ่านเดือนที่โปรแกรมลีกชุกที่สุดของฤดูกาล โดยยังรักษาสถิติไร้พ่ายต่อไป และพลาดคว้าชัยแค่นัดเดียวเท่านั้น คือเกมบุกเสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 ในวันสิ้นปี
แม้จะต้องเจองานหนักทั้งบุกเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด รวมถึงเปิดบ้านพบ สเปอร์ส แต่กุนซือชาวกาตาลันก็ยังพาทีมเก็บชัยเหนือคู่แข่งสำคัญ 2 ทีมดังกล่าวได้อย่างสวยงาม และสมควรอย่างยิ่งกับการเป็นกุนซือยอดเยี่ยมเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน
[/bg_collapse]