สำหรับ 11 นักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในสายตาของทีมงาน Balltoro จะมีใครบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลย…
เพิ่งกลับมายึดตำแหน่งมือหนึ่งของทีมเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ เบิร์นลี่ย์ ทำผลงานได้ดีขึ้นผิดหูผิดตา เพราะจาก 6 เกมที่เขาลงเฝ้าเสาในเกมลีกซีซั่นนี้ ต้นสังกัดไม่แพ้เลย
ฮีตัน ลงเฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีกเดือนมกราคมไป 5 นัด แม้ว่าจะเก็บคลีนชีตได้แค่นัดเดียว คือเกมบุกเสมอ วัตฟอร์ด 0-0 แต่ก็ระเบิดฟอร์มเซฟตลอดเดือนไปถึง 15 ครั้ง
ผลงานที่เข้าตากรรมการที่สุด คือนัดที่พาทีมบุกเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงถิ่น 2-2 โดยเกมนั้นเจ้าตัวเซฟไปถึง 7 หน ด้วยกัน
กองหลัง : วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
กลายเป็นผู้เล่นที่ไว้ใจได้มากที่สุดแล้วในแนวรับของทีมปีศาจแดง โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เขาลงสนามแบบเต็มเกมทุกนัด
ลินเดอเลิฟ พาทีมเก็บคลีนชีต 2 นัดติด เกมที่บุกชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0 และบุกเฉือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0 ก่อนจะเป็นคนซัดประตูโกงความตาย ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ตีเสมอ เบิร์นลี่ย์ 2-2 ในเกมส่งท้ายเดือน
ปราการหลังทีมชาติสวีเดน พัฒนาเรื่องการยืนตำแหน่งได้ดีเยี่ยม โดยทำสถิติเคลียร์บอลอันตรายทิ้งรวมกันถึง 25 หน และชนะการดวลลูกกลางอากาศถึง 18 ครั้ง จากการลงเล่น 4 นัดในลีกเดือนที่ผ่านมา
กองหลัง : ยาน เบดนาเร็ค (เซาธ์แฮมป์ตัน)
เซาธ์แฮมป์ตัน คืออีกทีมที่แพ้ไม่เป็นในเดือนมกราคม โดยกองหลังทีมชาติโปแลนด์ ลงสนามเต็มเกมครบทุกนัดในเดือนที่แล้ว พาทีมเก็บคลีนชีตนัดสำคัญได้ 1 นัด คือเกมที่บุกเสมอ เชลซี 0-0
แต่ยิ่งไปกว่านั้น เบดนาเร็ค คว้าตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ อีก 3 นัดติดต่อกัน เกมที่บุกชนะ เลสเตอร์ 2-1, เปิดบ้านเฉือน เอฟเวอร์ตัน 2-1 และเสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกมที่เปิดบ้านเฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 ถือว่าเด่นที่สุด เมื่อชนะการดวลลูกกลางอากาศถึง 14 ครั้ง เคลียร์บอลอันตรายทิ้งถึง 10 หน
กองหลัง : ดานิโล่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ได้โอกาสลงตัวจริงในพรีเมียร์ลีกทั้ง 4 นัดในเดือนที่ผ่านมา แถมซัดประตูสุดสวยได้ด้วย เป็นลูกปลดล็อค นัดบุกถล่ม ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 3-0 และช่วยทีมเก็บคลีนชีตอีกนัดก่อนหน้านั้น วันที่เปิดบ้านชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน สบายๆ 3-0
จากการที่ เบนฌาแม็ง เมนดี้ ยังไม่ฟิตสมบูรณ์ซะที ส่วน ฟาเบียน เดลฟ์ ก็ทำผลงานน่าผิดหวัง ทำให้อดีตดาวเตะ เรอัล มาดริด รายนี้ น่าจะยึดแบ็กซ้ายตัวจริงให้ทีมเรือใบสีฟ้าไปยาวๆ แน่
ปีกขวา : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)
เดือนมกราคม ลิเวอร์พูล ดูจะทำผลงานดร็อปๆ ลงไปพอสมควร แต่ก็ยังได้ชัยชนะนัดสำคัญๆ จากผลงานของดาวดังทีมชาติอียิปต์รายนี้
ซาลาห์ เป็นคนเรียกจุดโทษ และกดจุดโทษประตูชัยพาทีมบุกชนะ ไบรท์ตัน 1-0 ซึ่งเกมนั้นทีมหงส์แดงทำเกมรุกไม่ดีนัก ขณะที่นัดที่เกมรับของทีมเสียถึง 3 ประตู เขาก็เหมายิงคนเดียว 2 ลูก พาทีมพลิกกลับมาชนะ คริสตัล พาเลซ อย่างน่าตื่นเต้น 4-3
ด้วยผลงานยิงไปถึง 16 ประตู หลังผ่านเดือนมกราคม และนำดาวซัลโวสูงสุดบนชาร์ท ถือว่ามีโอกาสสูงที่เจ้าตัวจะครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของฤดูกาล เป็นซีซั่นที่ 2 ติดต่อกัน และปีนี้อาจถึงขั้นได้แชมป์กับทีมด้วย
กองกลาง : เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน)
กลายเป็นคีย์แมนสำคัญในแดนกลางของทีมนักบุญ นับตั้งแต่ที่ ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล เข้ามาคุมทีม และผลงานของ วอร์ด-เพราส์ ในเดือนมกราคม ถือว่ามีลุ้นรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนได้เลย
ดาวเตะวัย 24 ปี ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 3 นัดติดต่อกัน พาทีมชนะ เลสเตอร์ 2-1, ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 และเสมอกับ คริสตัล พาเลซ 1-1 เรียกได้ว่าประตูของเขา ทำให้ทีมนักบุญซึ่งไม่แพ้เลยในเดือนที่ผ่านมา เก็บแต้มเพิ่มได้ถึง 5 คะแนน
กองกลาง : ปอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ยังระเบิดฟอร์มยอดเยี่ยมต่อเนื่องจากช่วงปลายเดือนธันวาคม เมื่อยิงประตูได้อีก 2 ลูกในเดือนมกราคม และทำแอสซิสต์สุดคมให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดไปซัดประตูชัย ในเกมบุกชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0
จุดโทษตีไข่แตก ที่ ป็อกบา ซัดไม่พลาดในเกมเปิดบ้านเสมอ เบิร์นลี่ย์ 2-2 ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมปีศาจแดงในลีกซีซั่นนี้แล้ว ด้วยผลงานซัดไป 9 ประตู
ปีกซ้าย : ลีรอย ซาเน่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ปีกตัวจี๊ดทีมชาติเยอรมนี คือนักเตะที่ฟอร์มเด่นที่สุดในลีกของ แมนฯ ซิตี้ เดือนที่ผ่านมาอย่างชัดเจน เมื่อมีส่วนกับประตูถึง 4 ลูก (ยิง 2 จ่าย 2)
ซาเน่ ทำประตูสำคัญให้ทีมเรือใบสีฟ้าเปิดบ้านชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ประเดิมศักราชใหม่ และอีกนัดที่ฟอร์มแจ่มสุดๆ คือยิง 1 จ่าย 1 พาทีมบุกชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 3-0
กองหน้า : ดีโอโก้ โชต้า (วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส)
กลายเป็นนักเตะโปรตุเกสคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ที่ทำแฮตทริกได้ในพรีเมียร์ลีกต่อจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เมื่อเจ้าตัวเหมาคนเดียว 3 ประตู พาทีมเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 4-3 แบบสุดมันส์ ในวันที่ 19 มกราคม
จริงๆ ผลงานนัดนั้นนัดเดียวก็เข้าตากรรมการแล้ว แต่ โชต้า ยังเล่นได้วูบวาบสุดๆ ก่อนทำอีกหนึ่งแอสซิสต์ นัดที่ทีมเปิดบ้านถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0 ด้วย
กองหน้า : โจชัว คิง (บอร์นมัธ)
ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ กลายเป็นตัวแสบสุดๆ ในเกมที่ บอร์นมัธ ไล่ยำใหญ่ เชลซี 4-0 เมื่อเหมายิงคนเดียว 2 ประตูและทำอีก 1 แอสซิสต์ในเกมนั้น
เขายังยิงได้อีกประตูก่อนหน้านั้น ในเกมที่ชนะ เวสต์แฮม 2-0 ซึ่งตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ทั้งนัดที่พบทีมสิงห์บลูส์ และขุนค้อน ล้วนเป็นของ คิง ทั้ง 2 เกม
กองหน้า : มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
หัวหอกดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ ซัดประตูสำคัญ 3 นัดติดในเดือนมกราคมให้ผีแดง เริ่มจากยิงตอกฝาโลง พาทีมบุกชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-0, กดประตูโทนสุดคม นัดบุกเฉือน สเปอร์ส 1-0 และยิงอีกเม็ด นัดชนะ ไบรท์ตัน 2-1
แม้ในเกมล่าสุด แรชฟอร์ด จะพลาดโอกาสทองแบบไม่น่าพลาด จนทีมทำได้แค่เสมอ เบิร์นลี่ย์ 2-2 แต่ผลงาน 3 นัดก่อนหน้านั้น ก็ดีพอที่จะทำให้เขาเป็นหนึ่งที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนแล้ว
ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
การทำสถิติเป็นผู้จัดการทีมคนแรกในประวัติศาสตร์ของทีมปีศาจแดง ที่ออกสตาร์ทการคุมทีมด้วยชัยชนะ 8 นัดรวด นำสปิริตกลับมาสู่ทีมและแฟนบอล และทำให้ทีมกลับมาเล่นเกมรุกแบบเร้าใจ เชื่อว่าชั่วโมงนี้ ไม่มีกุนซือคนไหนในลีกที่จะได้รับเสียงชื่นชมมากไปกว่าเขาแล้ว
อย่างไรก็ตาม บทพิสูจน์ของกุนซือชาวนอร์เวย์ที่แท้จริง อยู่ที่ช่วง 2 เดือนต่อจากนี้ ที่จะเจอโจทย์หินทั้งในลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ซึ่งถ้าหาก โซลชาร์ ยังพาทีมผ่านไปได้ด้วยดีอีก ตำแหน่งผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด แบบถาวร ต้องตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน