อย่างไรก็ตาม ในแง่ผลงานส่วนตัวของนักเตะแต่ละคน มีผู้เล่นจากหลายทีมนอกเหนือจากทัพเรือใบสีฟ้า ที่โชว์ฟอร์มสุดแจ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ยิงไม่หยุดให้ ลิเวอร์พูล จนนำโด่งเป็นดาวซัลโวด้วยผลงาน 12 ประตู
สำหรับ 11 นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน จากการคัดเลือกของทีมงาน Balltoro จะมีใครบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลย
นายด่านทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา คือผู้รักษาประตูที่เก็บคลีนชีตได้มากที่สุดในเดือนพฤศจิกายน เมื่อทำได้ถึง 3 นัด ด้วยกัน
แบ็กขวา : โจ โกเมซ (ลิเวอร์พูล)
ดาวรุ่งหงส์แดงวัย 20 ปี พัฒนาฟอร์มการเล่นขึ้นมาให้แน่นอนขึ้นมาก จนก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ 2 นัดเรียบร้อยแล้ว
เขาคือผู้เล่นที่เล่นได้เหนียวแน่นที่สุดในแนวรับ ลิเวอร์พูล วันที่เปิดบ้านเสมอ เชลซี 1-1 โดยทำสถิติเคลียร์บอลทิ้งรวมกัน 11 ครั้ง จากการลงเล่นตัวจริงในลีก 3 นัดในเดือนพฤศจิกายน
เซนเตอร์แบ็ก : ชโคดราน มุสตาฟี่ (อาร์เซน่อล)
7 นัดหลังสุดที่กองหลังทีมชาติเยอรมนีลงตัวจริงให้ทีมปืนใหญ่ในพรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล ไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว!!
มุสตาฟี่ ยังเป็นคนโขกประตูเบิกร่อง ในเกมสำคัญที่ทีมเปิดบ้านชนะ สเปอร์ส 2-0 ขณะที่นัดบุกพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 เขาไม่ได้ลงสนามเพราะมีอาการบาดเจ็บ
เซนเตอร์แบ็ก : เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ (เบิร์นลี่ย์)
นี่คือนักเตะที่มีสถิติบล็อคลูกยิงมากที่สุด (24 ครั้ง) และเคลียร์บอลอันตรายทิ้งมากเป็นอันดับ 2 (120 ครั้ง) ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทาร์คอฟสกี้ เคลียร์บอลอันตรายทิ้งไม่ต่ำกว่าเกมละ 7 ครั้ง ช่วยให้ทีมชนะ 3 นัด โดยไม่เสียประตูถึง 2 เกม
ถ้าหากไม่พลาดทำให้ทีมเสียจุดโทษในวินาทีสุดท้าย นัดพ่าย อาร์เซน่อล คาบ้าน 0-1 เขาแทบจะหาที่ติไม่ได้เลยทีเดียว
แบ็กซ้าย : แอชลี่ย์ ยัง (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
ไม่มีแบ็กซ้ายคนไหนที่จะผลงานโดดเด่นมากไปกว่า “อาจารย์ยัง” ที่จองตำแหน่งแบ็กซ้ายตัวจริงอย่างถาวรให้ทีมปีศาจแดงอีกแล้ว
ยัง มีส่วนกับประตูสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตลอด 3 นัดหลังสุดที่ทีมชนะรวด โดยครอสให้ คริส สมอลลิ่ง โขกพลิกขึ้นนำ นิวคาสเซิ่ล ก่อนถล่ม 4-1 จากนั้นยิงแฉลบ ลูอิส ดังค์ ให้ทีมเชือด ไบรท์ตัน 1-0
ก่อนที่จะมาระเบิดฟอร์มมาสเตอร์พีซในนัดล่าสุดที่บุกชนะ วัตฟอร์ด 4-2 ด้วยผลงาน 2 ประตูสุดคม และถือเป็นการทำประตูได้เป็นครั้งแรกในรอบปีครึ่งของเจ้าตัว
กองกลาง : ปอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
เห็นได้ชัดว่ารูปเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดีขึ้นกว่าเดิมมาก จนกวาด 9 คะแนนเต็ม จาก 3 นัดหลังที่ ป็อกบา หายเจ็บกลับมาลงเล่นได้ในพรีเมียร์ลีก
นัดแรกที่ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสรีเทิร์น เขา ยิง 1 จ่าย 1 พาทีมถล่ม นิวคาสเซิ่ล 4-1 จนคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์
ส่วนนัดล่าสุดก็โชว์การลากตะลุยจากแดนตัวเอง ขึ้นไปเรียกฟรีคิกให้ แอชลี่ย์ ยัง ซัดเข้าไปอย่างสุดสวย
กองกลางตัวรุก : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ติดทีมยอดเยี่ยมของเราเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยทำประตูในเกมลีกเดือนพฤศจิกายนได้ถึง 3 นัด และแอสซิสต์ให้ ราฮีม สเตอร์ลิง กดประตูชัยในวินาทีสุดท้าย พาทีมเฉือน เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1
โดยเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม ยังครองสถิติ สร้างโอกาสมากที่สุด ในลีกซีซั่นนี้ด้วย (43 ครั้ง)
กองกลางตัวรุก : ริชาร์ลิสัน (วัตฟอร์ด)
หากไม่นับบรรดาผู้เล่นดาวดังของทีมกลุ่มบิ๊กซิกซ์ ต้องบอกเลยว่าตัวรุกฝั่งซ้ายของทีมแตนอาละวาด คือผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้
ริชาร์ลิสัน ยิงประตูได้ในเกมพบ เอฟเวอร์ตัน และ เวสต์แฮม รวมถึงแอสซิสต์อีก 1 เม็ดในวันบุกถล่ม นิวคาสเซิ่ล 3-0
แม้จะโดน วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ประกบซะจนเล่นไม่ออกในเกมพ่าย แมนฯ ยูไนเต็ด 2-4 แต่ผลงานเดือนที่ผ่านมาของดาวเตะบราซิเลียน ถือว่าสุดยอดมากๆ แล้ว
ปีกขวา : ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
กดประตูชัยช่วงท้ายเกมมา 2 นัดติดต่อกัน ทำให้ทีมยังรักษาสถิติชนะรวดต่อไปโดยไม่โดนเบรก โดยสถิติระบุว่า ประตูของ สเตอร์ลิง ช่วยให้ทีมเรือใบสีฟ้าเก็บได้ถึง 9 คะแนนในฤดูกาลนี้
จากผลงานซัดไปแล้ว 13 ประตู รวมทุกรายการ ทำให้เจ้าตัวทำสถิติยิงใน 1 ฤดูกาลมากที่สุดตั้งแต่เริ่มอาชีพค้าแข้งเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่นี่ยังผ่านไปไม่ถึงครึ่งซีซั่นด้วยซ้ำ!!
กองหน้า : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)
เป็นตัวเต็งคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนชนิดนอนมา หลังทำผลงาน ยิงประตูทุกนัดในเดือนพฤศจิกายน กดรวมกันถึง 7 ลูก
ฟอร์มถล่มประตูแบบฉุดไม่อยู่ของดาวเตะทีมชาติอียิปต์ ทำให้เจ้าตัวนำดาวซัลโวเดี่ยวๆ ของพรีเมียร์ลีกด้วยผลงาน 12 ประตู ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง แฮร์รี่ เคน ถึง 2 ลูกด้วยกัน
ปีกซ้าย : เอแด็น อาซาร์ (เชลซี)
โดดเด่นจนคว้าตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ได้ถึง 2 นัด คือเกมบุกถล่ม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ที่เหมาซัด 2 ลูก และอีกเกมคือการโชว์ฟอร์มป่วนแนวรับ ลิเวอร์พูล ตลอดเกม และพาทีมบุกเสมอ 1-1
น่าเสียดายที่นัดล่าสุด ที่ทีมเฉือน สวอนซี ซิตี้ 1-0 อันโตนิโอ คอนเต้ พักเขาเป็นแค่ตัวสำรอง แล้วส่งลงแค่ช่วง 9 นาทีสุดท้าย ไม่อย่างนั้นอาจมีลุ้นเพิ่มสถิติประตูและแอสซิสต์ได้มากกว่านี้
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์ (ลิเวอร์พูล)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อาจทำสถิติชนะ 4 นัดรวดตลอดเดือน ทว่าทีมที่ทำผลงานในลีกออกมาดีที่สุดในเดือนพฤศจิกายน คือ ลิเวอร์พูล ของกุนซือจอมแอคชั่นชาวเยอรมันต่างหาก
คล็อปป์ พาทัพหงส์แดงชนะคู่แข่งด้วยสกอร์ขาดลอย 3 ประตูถึง 3 นัด ขณะที่นัดเสมอ เชลซี 1-1 ก็น่าจะคว้า 3 คะแนนเต็มได้ด้วย หากไม่โดนประตูปาฏิหาริย์ของ วิลเลี่ยน เข้าให้ในช่วงท้ายเกม