5 ประเด็นใหม่ดีๆ ที่ได้เห็นจากเกมอุ่นเครื่อง ทีมชาติไทย ชนะ เคนยา 1-0
จบลงไปแล้วสำหรับเกมนัดสุดท้ายของ ทีมชาติไทย ในปี 2017 ด้วยการเปิดบ้านอุ่นเครื่องเฉือน เคนยา ไป 1-0 จากการซัดประตูชัยของ ธีรศิลป์ แดงดา
และแน่นอนว่าการคว้าชัย 2 เกมรวดแบบนี้น่าจะส่งผลต่อฟีฟ่าแรงกิ้งทีเดียว และนี่คือสิ่งใหม่ๆ ที่เราได้เห็นจาก มิโลวาน ราเยวัช ในเกมนัดเมื่อคืนที่ผ่านมา!!
เกมอันทรงเกียรติของ “กัปตันโก้”
เป็นไปตามที่แฟนบอลไทยคาดไว้หลัง ดัสกร ทองเหลา สวมปลอกแขนกัปตันทีมลงเป็น 11 ตัวจริงในเกมนี้เพื่อฉลองการลงเล่นรับใช้ชาติครบ 100 นัดพอดีเป๊ะ
ซึ่งโดยรวมก็ถือว่า กัปตันโก้ ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดแถมมีจังหวะซัดฟรีคิกส่งท้ายช่วงนาที 27 อีกด้วยก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกในจังหวะหลังจากนั้น
แม้ว่าจะมีเวลาอยู่ในสนามไม่มากนัก แต่ต้องยอมรับเลยว่าการกลับมาของ มิดฟิลด์หมายเลข 7 รายนี้น่าประทับใจและโดนใจแฟนบอลไทยทั้งประเทศเหมือนกัน
เกมแรกของมานูเอล ทอม!!
ถือว่าเป็นเกมนัดแรกที่ มานูเอล ทอม เบียรห์ ได้รับโอกาสลงสนามในนามทัพช้างศึก ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์กับทีมมากทีเดียวในการรับมือลูกกลางอากาศ
ด้วยความแข็งแกร่งสไตล์ยุโรป และรูปร่างที่สูงใหญ่ แนวรับแข้งเทพ ช่วยทีมเคลียร์บอลได้มากสุดในทีมถึง 16 ครั้ง
และที่สำคัญการได้รับโอกาสอยู่ครบ 90 นาทีบางที ดาวเตะลูกครึ่งเยอรมันรายนี้ น่าจะเป็นตัวเลือกชั้นดีของ ราเยวัช ในครั้งต่อๆไปเลยก็ได้
โก๋อุ้มกลับมายืนแบ็กซ้าย!!
จากอาการบาดเจ็บของ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ในช่วงวอร์มร่างกายทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแผนด้วยการส่ง สรรวัชญ์ เดชมิตร ลงมาแทน และถอย ธีราทร บุญมาทัน ลงมาประจำการแบ็กซ้าย
ต้องถือว่าเป็นเกมแรกเลยที่ โก๋อุ้ม ได้ยืนแบ็กในยุคของ ราเยวัช หลังก่อนหน้านี้ทั้ง 5 เกมเจ้าตัวประจำการแดนกลางมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นปีก หรือมิดฟิลด์ก็ตาม
ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่านัดบุกชนะ เมียนมานั้น เจ้าอุ้ม สร้างโอกาสให้ทีมถึง 4 ครั้งพร้อมจัดอีก 1 แอสซิสต์
แต่เมื่อถูกถอยลงมาตำแหน่งเดิมการสร้างสรรค์เกมรุกแทบจะหายไปทั้งเกม จะมีเพียงจังหวะจ่ายบอลสั้น สลับยาว ตามถนัดอยู่บ้าง
เมื่อมองโดยรวมแล้วบางที ราเยวัช อาจจะมองเห็นแล้วว่า ธีราทร ในนามทีมชาติไทยน่าจะใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่มากกว่าในการทำเกมรุกหรือเปล่า??
โรลเลอร์ยังเป็นตัวเลือกเสมอ!!
นับตั้งแต่ ฟิลิป โรลเลอร์ ย้ายมาเล่นให้ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ในไทยลีก ชื่อของเขาก็ถูก ราเยวัช เรียกตัวติดชุดเเรกของทัพช้างศึกโดยตลอด
เริ่มตั้งแต่ศึกคิงส์คัพ 2017 ก็ถูกส่งลงสนามในช่วงท้ายเกมทั้ง 2 นัดแถมเป็นหนึ่งในมือสังหารจุดโทษช่วยไทย ดับ เบลารุสคว้าแชมป์ด้วย
ถัดมาใน 2 นัดสุดท้ายคัดบอลโลก แม้จะโดนตัดชื่อไปแต่ก็มีชื่อร่วมเดินทางไปเก็บตัวกับทีม
ก่อนที่ล่าสุดแม้จะไม่มีชื่อ แต่ก่อนลงสนามกับเคนยา 1 วัน ราเยวัช ก็ตัดสินใจเรียก แบ็กขวาลูกครึ่งไทย-เยอรมันเข้าทีมจนได้
และยังมีโอกาสลงสนามในช่วง 15 นาทีสุดท้ายด้วยแม้จะไม่ได้โชว์ฟอร์มอะไรมากนัก แต่แค่นี้ก็พอจะรู้แล้วว่านี้คือตัวเลือกต้นๆทางฝั่งขวาเหมือนกัน
ได้คู่หูรับมือลูกโด่ง??
จุดที่เกมรับเราโดนโจมตีมากเหลือเกินในการเจอกับทีมที่มีนักเตะสูงใหญ่ และแกร่งกว่านั่นคือลูกกลางอากาศ โดยเฉพาะกองหลังไทยนั้นก็ยากเหลือเกินที่จะหารูปร่างสู้กับทีมเหล่านั้นได้
แต่การลองใช้ พรรษา เหมวิบูลย์ มาจับคู่กับ มานูเอล ทอม ดูจะลงตัวพอทีเดียวในเรื่องลูกกลางอากาศ หลังทั้งคู่เก็บกินเรียบช่วยกันตัดบอลรวม 5 ครั้ง และช่วยกันเคลียร์อีกถึง 29 ครั้ง
ทำให้เกมกลางอากาศของเคนยา แทบจะไม่ได้สร้างความกดดันให้ไทยเลย แต่เรื่องความสัมพันธ์ในทีมการมาเล่นร่วมกันครั้งแรกทำให้มีบางจังหวะที่ขาดๆเกินๆอยู่
แต่โดยรวมแล้วถือว่าเยี่ยมเลย แถมยังมีทั้ง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว และ อดิศร พรหมรักษ์ อยู่ในทีมอีก บอกเลยว่าแนวรับไทยตอนนี้มีตัวเลือกเยอะทีเดียว
ผลงานปีแรกของ ทีมชาติไทย ในยุค มิโลวาน ราเยวัช ก็จบลงไปเรียบร้อยแล้ว เชื่อเหลือเกินว่าน่าจะถูกใจแฟนบอลไทยพอสมควรสำหรับฟอร์มโดยรวม
โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้แข้งหน้าใหม่ได้ติดทีมชาติ ในอนาคตสิ่งที่แฟนบอลคาดหวังขอแค่สู้กับทีมยักษ์ใหญ่เอเชียใหสูสีได้ก็มีความสุขแล้ว
ส่วนรายการใหญ่ปีหน้า เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ช่วงปลายปีเรามารอลุ้นกันดีกว่าว่า มิโลวาน ราเยวัช จะได้รับการต่อสัญญาเพื่อพาทีมป้องกันแชมป์ 3 สมัยได้หรือไม่??