1. ระบบทีมดีขึ้น
ต้องบอกก่อนเลยว่าการได้ มาซามิ ทากิ เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่นคนนี้เข้ามาคุมทีมทำให้ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เวอร์ชั่นใหม่มีระบบทีมที่ค่อนข้างชัดเจนขึ้นจริงๆ
ระบบทีมเชียงรายดีขึ้น
พวกเขามีจุดเด่นเรื่องการไล่บี้เพรสซิ่งสูง, เน้นการเล่นบอลกับพื้นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญความขยัน และใจสู้ที่โดดเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจน
โดยเฉพาะ ศิวกรณ์ เตียตระกูล ที่ดูจะพัฒนาฝีเท้าขึ้นมามากที่สุดในทีม “เฟย” กลายเป็นหัวใจแดนกลางของเชียงรายในการปั้นเกมขึ้นไปหน้า
ในปีนี้ ศิวกรณ์ รับบทบาทเหมือนตัวฟรีที่สามารถถอยลงไปเป็นตัวโฮลด์บอล, ขยับมาเป็นตัวกลางเพื่อเชื่อมเกม หรือแม้กระทั่งขึ้นไปเป็นจอมทัพในการสร้างสรรค์เกม ก็ทำได้ดีหมดทุกตำแหน่ง
และจากฟอร์มโดยรวมตอนนี้ก็คงจะเป็นคำตอบได้ดีว่าทำไม อากิระ นิชิโนะ ถึงชอบใช้เขาเหลือเกินในทีมชาติไทย
2. แนวรุกตื้อ
บิลล์ โรซิมาร์
ตลอดช่วงออกสตาร์ที่ผ่านมา เชียงราย มักเลือกใช้ บิลล์ โรซิมาร์ กับ ชัยวัฒน์ บุราญ เป็นสองคู่หูแดนหน้า โดยมีสลับใช้งาน อัครวินท์ สวัสดี และ มาอิลซอน อยู่บ้าง
ในรายของ ชัยวัฒน์ เขาก็ทำผลงานได้ไม่แย่นะ แม้จะถนัดเล่นเป็นตัวริมเส้นซะมากกว่า
หากมองในฟอร์มของ บิลล์ ก็ต้องบอกเลยว่ายังรักษามาตฐานได้ดีจริงๆ แต่การไม่มีตัวจี๊ดที่คอยซัพพอร์ตแบบ วิลเลี่ยม เอ็นริเก้ หรือ เอกนิษฐ์ ปัญญา นั่นทำให้เขาดูจะไปไม่สุดเหมือนกัน
ชัดเจนเลยว่ามีหลายจังหวะที่ บิลล์ พาบอลขึ้นไปได้ แต่เมื่อถึงจังหวะสุดท้ายจริงๆ เขาก็ทำอะไรได้ไม่มากนักเมื่อไร้ตัวช่วยแบบเดิม
ในรายของ เอกนิษฐ์ แม้ยังต้องรอดูอีกซักระยะเลยว่าจะหายกลับมาตอนไหน แต่ก็ยังมีแสงอ่อนๆ อยู่ว่าเขาก็ยังกลับมาแน่ๆ ที่น่าสนใจคือฝั่ง วิลเลี่ยม นี่สิ มาซามิ ทากิ จะหาใครมาแทน?
3. แนวรับมีปัญหา
กองหลัง เชียงราย
ตลอด 4 นัดที่ผ่านมาในศึกไทยลีก 2020 สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ยังไม่มีคู่เซนเตอร์ที่ไว้ใจได้เลยจริงๆ สักนัดเดียว แถมพวกเขายังมีการสลับใช้ระบบหลังสาม กับแบ็กโฟร์มาตลอด
และที่มากกว่านั้นคือตลอดทั้ง 4 นัดที่ว่ามา ยังไม่มีการเลือกคู่ซ้ำกันเลยสักครั้งเดียว
นัดที่ 1 : ชินภัทร์ ลีเอาะ, บรินเนอร์ เอ็นริเก้, ศราวุธ อินแป้น
นัดที่ 2 : ธนะศักดิ์ ศรีใส, บรินเนอร์ เอ็นริเก้, ศราวุธ อินแป้น
นัดที่ 3 : บรินเนอร์ เอ็นริเก้, ศราวุธ อินแป้น
นัดที่ 4 : บรินเนอร์ เอ็นริเก้, ธนะศักดิ์ ศรีใส
และจากรายชื่อที่บอกมามีเพียง บรินเนอร์ เอ็นริเก้ คนเดียวเท่านั้นที่รักษาตำแหน่งตัวเองได้ตลอดทั้ง 4 นัด และถ้าจะบอกว่าผลงานดีที่สุดหากนับเฉพาะกองหลังก็คงจะไม่ผิดนัก
ในรายของ ธนะศักดิ์ ปีนี้ดูเขาจะมีความโฉ่งฉ่าง และเล่นติดดาบมากไปหน่อย ซึ่งนั่นส่งผลให้เขามักสมาธิหลุดออกไปจากเกมบ่อยครั้ง
ด้าน ศราวุธ ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยแน่นอนเท่าปีที่แล้ว และมีจังหวะพลาดให้เห็นมากเกินไป
ขณะที่ ชินภัทร์ นับตั้งแต่ออกสตาร์ทตัวจริงนัดแรก เขาก็ไม่มีชื่อในทีมอีกเลย ไม่รู้ว่าเพราะอาการบาดเจ็บหรือเปล่า?
.
.
.
เอาเข้าจริงไทยลีก 2020 นี่ก็เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น ในแง่ของตารางคะแนน สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ยังมีโอกาสกลับมาได้แน่ๆ
น่าสนใจทีเดียวว่าหลังจากนี้ มาซามิ ทากิ จะมีวิธีจัดการยังไงกับจุดบกพร่องของ “กว่างโซ้งมหาภัย” ให้กลับมาคืนฟอร์มอีกครั้ง
เพราะนอกจากบอลลีกแล้วยังมี ACL, ช้าง เอฟเอ คัพ, โตโยต้า ลีกคัพ หรือฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรอาเซียนรออยู่ข้างหน้าด้วย…
