Fact หลังเกม : 5 ปัญหาใหญ่ทำ ทีมชาติไทย ไร้ชัยเหนือ บังกลาเทศ

Fact หลังเกม : 5 ปัญหาใหญ่ทำ ทีมชาติไทย ไร้ชัยเหนือ บังกลาเทศ
Fact หลังเกม : 5 ปัญหาใหญ่ทำ ทีมชาติไทย ไร้ชัยเหนือ บังกลาเทศ

5 ปัจจัยหลักที่ทำให้ ทีมชาติไทย ทำได้เพียงเสมอ บังกลาเทศ 1-1 ในนัที่สองของศึกเอเชียนเกมส์ 2018

เรียกได้ว่าเป็นเกมที่น่าผิดหวังสำหรับแฟนบอลเหมือนกันหลัง ทีมชาติไทย ทำได้เพียงไล่ตามตีเสมอ บังกลาเทศ 1-1 ในศึกเอเชียนเกมส์ 2018

ทั้งๆ ที่ภาพรวมทุกอย่างเราก็เหนือกว่าชัดเจน การคว้าได้เพียงแต้มเดียวในนัดนี้ส่งผลให้โอกาสเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมันดูน้อยมากขึ้นไปเหลือเกิน

และนี่คือ 5 ปัจจัยหลักๆ ที่น่าจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ ทัพช้างศึก ไม่สามารถคว้าสามแต้มมาครองได้ในเกมเมื่อวานนี้!!

แนวรับไม่น่าไหว!!

เป็นจุดสำคัญตั้งแต่เกมแรกแล้วสำหรับแผงแบ็กโฟร์ไทย แม้นัดนี้ “โค้ชโย่ง” จะเลือกใช้ ศฤงคาร พรหมสุภะ ลงมาเล่นแทนที่ของ ชินภัทร์ ลีเอาะ

แต่ทั้ง วรวุฒิ นามเวช และ ศฤงคาร กลับไม่สามารถหยุดยั้งเกมรุก บังกลาเทศ ได้เลย นอกจากนั้นยังมีจังหวะจ่ายบอลพลาด หรือเสียเองแบบง่ายๆ จนเกือบจะโดนยิงประตูเพิ่มไปมากกว่านี้ซะอีก

Fact หลังเกม : 5 ปัญหาใหญ่ทำ ทีมชาติไทย ไร้ชัยเหนือ บังกลาเทศ
Fact หลังเกม : 5 ปัญหาใหญ่ทำ ทีมชาติไทย ไร้ชัยเหนือ บังกลาเทศ

บางที โค้ชโย่ง น่ามองไปที่ชื่อของ ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ ดูบ้างก็ได้ และก็จุดเดิมเมื่อแบ็กซ้าย และขวา ยังไม่ใช่ตัวรับอาชีพ ก็ทำให้เสียของ แถมยังไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มรูปแบบในตำแหน่งที่รับผิดชอบ

โดยเฉพาะแบ็กซ้ายก็มีชื่อของ วันชัย จารุนงคราญ อยู่แท้ๆ กลับไม่ส่งลงและฝืนใช้ ชัยวัฒน์ บุราญ เป็นตัวรับทั้งๆ ที่ควรดันไปเล่นเกมรุกมันจะมีประโยชน์กว่านี้แน่นอน

ตัวฟอร์มดีไม่เอาลง

เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจเหมือนกันกับชื่อของ ศุภชัย ใจเด็ด ที่ลงมาเปลี่ยนเกมได้อย่างชัดเจนในนัดแรก แต่กลับยังต้องรอโอกาสที่ม้านั่งสำรอง

และเลือกใช้ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ประสบการณ์น้อยกว่าใครในทีมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงซะอย่างงั้น ทำให้ต้องมาเสียโควตาเปลี่ยนตัวโดยใช่เหตุตั้งแต่ครึ่งแรก

Fact หลังเกม : 5 ปัญหาใหญ่ทำ ทีมชาติไทย ไร้ชัยเหนือ บังกลาเทศ
Fact หลังเกม : 5 ปัญหาใหญ่ทำ ทีมชาติไทย ไร้ชัยเหนือ บังกลาเทศ

และกว่าจะเลือกใช้ “เจ้าอาร์ม” ก็ต้องรอจนทีมโดนนำไปก่อนอีกต่างหาก ซึ่งจากการจัดตัวไม่ดีแต่แรกก็ทำให้ ไทย ได้เปลี่ยนตัวเพื่อเกมรุกเพียงคนเดียวเท่านั้น

ชัดเจนเลยว่าการมี ศุภชัย อยู่ในสนามมันต่างกับเวลาก่อนหน้านั้นโดยสิ้นเชิงทั้งการกระตุ้นเพื่อน และความกระหายที่จะเอาชัยชนะ และหากลองคิดกลับไปแต่แรกบางทีถ้ารูปเกมเป็นเช่นนั้นตั้งแต่แรกเราอาจจะคว้าสามแต้มได้ก็ได้

ไม่โดนนำไม่เร่งเกม!!

ก่อนเกมหลายคนคงคิดว่า ทีมชาติไทย คงจะเน้นเกมรุกอย่างเต็มที่เพื่อเป้าหมาย 3 แต้มแรกของเอเชียนเกมส์ และประตูได้เสียก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะวัดเอาทีมเข้ารอบเหมือนกัน

แต่แล้วตลอดครึ่งแรก ทัพช้างศึก กลับเล่นกันอย่างเอื่อยเฉื่อย และไปเล่นตามเกม บังกลาเทศ ซะอย่างงั้น

Fact หลังเกม : 5 ปัญหาใหญ่ทำ ทีมชาติไทย ไร้ชัยเหนือ บังกลาเทศ
Fact หลังเกม : 5 ปัญหาใหญ่ทำ ทีมชาติไทย ไร้ชัยเหนือ บังกลาเทศ

หากใครได้ดูเกมเอาเข้าจริง บังกลาเทศ มีโอกาสจบสกอร์ที่น่าเป็นประตูดีกว่า ไทย เยอะมากก่อนที่จะได้ประตูขึ้นนำ

ตัดกลับมาที่ ไทย ขึ้นเกมรุกแต่ละทีก็ช้า มัวแต่ส่งกลับไป-กลับมา มีโอกาสทำเกมบุกแต่ละทีก็ไม่ค่อยขึ้นไปช่วยเพื่อนกัน

เพิ่งจะมาคึกคักเอาก็ช่วงตามหลัง 0-1 ทำให้เด็กเราต้องเร่งเครื่องอย่างหนัก และต้องรอไปจนถึงช่วง 10 นาทีสุดท้ายนู้นเลยกว่าจะตีเสมอได้

ส่งผลให้เวลาที่เหลือก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ ไทย แซงคว้าสามแต้มได้ ซึ่งหากคิดดูดีๆ ในเมื่อเราเหนือกว่าคู่แข่งเกือบทุกอย่าง หากไล่บี้ตั้งแต่ต้นเกมเราอาจจะไม่ต้องเหนื่อยหนักขนาดนี้ก็ได้

เจอรับแน่นแล้วแย่!!

บังกลาเทศ เน้นการตั้งรับอย่างเหนียวแน่นและลึก เพื่อป้องกัน ทีมชาติไทย ตั้งแต่เริ่มเกม และมันก็ได้ผลมากทีเดียว

เมื่อเด็กไทยไม่สามารถหาช่องได้เลย ทำได้เพียงถ่ายบอลไปมาในแนวรับ และการวางบอลยาวไปลุ้นข้างหน้าอย่างเดียว

Fact หลังเกม : 5 ปัญหาใหญ่ทำ ทีมชาติไทย ไร้ชัยเหนือ บังกลาเทศ
Fact หลังเกม : 5 ปัญหาใหญ่ทำ ทีมชาติไทย ไร้ชัยเหนือ บังกลาเทศ

ซึ่งตรงนี้ต้องยอมรับเลยว่า ทัพช้างศึก แทบจะทุกชุดจะมีปัญหาคล้ายๆ กันเมื่อเจอทีมที่เป็นรองมาตั้งรับแบบนี้

แต่จากทักษะ และความสามารถเฉพาะตัวของไทย ที่มีมากกว่าน่าลองปรับมาเล่นบอลกับพื้น ตามช่อง และขยับช่วยเพื่อนกันมากขึ้น

เพราะหากมีจังหวะแทงตามช่องสวยๆ ก็น่าจะทำให้โซนรับของ บังกลาเทศ แตกไปบ้างก็ได้ แต่กลายเป็นว่าเกมนี้พวกเขาคิดไรไม่ออกก็วางยาวทั้งๆ ที่คู่แข่งก็ไม่ได้ขึ้นมาบีบสูงขนาดนั้นเลย

พลาดตั้งแต่ตัดตัว

การไม่มีชื่อของ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ และ พิชา อุทรา เริ่มส่งผลให้เห็นชัดในเกมนี้แล้วหลังไม่มีตัวจี๊ดที่สามารถทะลุทะลวงบอลจากกลางขึ้นสู่หน้า และตัวเปลี่ยนเกมในเวลาคับขันได้เลย

แม้แต่ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา และ สุภโชค สารชาติ ที่ฟอร์มดีในนัดแรก เมื่อโดนรุมประกบก็เงียบหายไปซะอย่างงั้น บางทีการมีตัวเลือกแนวรุกที่ฟอร์มกำลังดีมากกว่านี้น่าจะตอบโจทย์เหมือนกัน

Fact หลังเกม : 5 ปัญหาใหญ่ทำ ทีมชาติไทย ไร้ชัยเหนือ บังกลาเทศ
Fact หลังเกม : 5 ปัญหาใหญ่ทำ ทีมชาติไทย ไร้ชัยเหนือ บังกลาเทศ

เช่นเดียวกับแนวรับที่ไม่มีแบ็กขวาอาชีพเลยสักคนเดียว แต่กลับใช้ รัตนากร ใหม่คามิ ไปยืน และหั่นชื่อ จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ ที่น่าจะทำผลงานตรงนี้ได้ดีกว่าไปซะอย่างงั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซ็นเตอร์มีเพียง ชินภัทร์ ลีเอาะ คนเดียวเท่านั้นที่มีเกมเล่นอย่างสม่ำเสมอในไทยลีก เพราะที่เหลืออีก 3 คนลงเล่นรวมกันยังไม่ถึง 10 นัดด้วยซ้ำ (ปวีร์ 6 นัด, วรวุฒิ 2 นัด, ศฤงคาร ยังไม่เคยลงเล่นไทยลีก)

บางทีหากมีชื่อของ มาร์โก บัลลินี่ หรือ นิรันดร์ มีมาก ที่มีเกมเล่นมาอย่างต่อเนื่องมาช่วยคุมแนวรับอาจจะดีกว่านี้ก็ได้ใครจะไปรู้

ซึ่งจุดนี้สำคัญเหลือเกินเพราะสองเกมที่ผ่านมาก็ชัดเจนแล้วว่าแนวรับเรามีปัญหามากจริงๆ

 

ต้องยอมรับเลยว่าการได้เพียง 1 คะแนนในเกมนี้เสียหายมากกับ ทีมชาติไทย เมื่อมองถึงโอกาสเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของเอเชียนเกมส์ 2018

เพราะต้องไม่ลืมว่าเกมสุดท้ายที่เราต้องการสามแต้มคือการพบกับ แชมป์เอเชีย U23 ทีมล่าสุดอย่าง อุซเบกิสถาน

แต่จากผลที่พวกเขาการันตีเข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่มอาจทำให้ อุซเบ พักตัวหลักมาเจอเรามากขึ้น

บวกกับการแข่งขันครั้งนี้ที่อันดับสามที่ดีที่สุดจะได้เข้ารอบไป 4 ทีม ทัพช้างศึก ก็ยังมีโอกาสอยู่เหมือนกันที่จะเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ได้!!