Fact หลังเกม : 5 ปัจจัยทำ บุรีรัมย์ บุกพ่าย อูราวะ ยับประเดิม ACL2019

รับรอโดนมากไป

น่าแปลกใจทีเดียวสำหรับ 11 คนแรกของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อออกสตาร์ทด้วยการยืนหลังต่ำ 5 คน

โดยใช้ ศุภชัย ใจเด็ด, ศศลักษ์ ไหประโคน และ รัตนากร ใหม่คามิ เป็นแผงกลาง แล้วให้ สุภโชค สารชาติ กับ เปโดร จูเนียร์ ยืนหน้าคู่ ซึ่งถือเป็นการจัดตำแหน่งลงเล่นที่แปลกเหลือเกิน

และด้วยการวางแผนมาเล่นรับทำให้นับตั้งแต่เสียงนกหวีดดังขึ้น ทีมแชมป์ไทยลีก แทบจะไม่ได้ทำเกมรุกเลย กลับกันดันเลือกรับต่ำมากเหลือเกิน และเน้นวางบอลยาวทิ้งไปข้างหน้าซะมากกว่า

ทำให้ อูราวะ มีพื้นที่ในการเล่นเกมรุกมากจริงๆ จนในที่สุดก็โดนประตูขึ้นนำไปช่วงต้นครึ่งหลัง ซึ่งนี่แหละคือจุดที่ทำให้พวกเขากลับมาเล่นเกมรุกบ้าง แต่ด้วยความเด็ดขาดนี่แหละเมื่อเราทำไม่ได้ สุดท้ายก็โดนไปอีกสองตุงช่วงท้ายเกม

ไร้ตัวทีเด็ด

การขาด ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต เริ่มส่งปัญหาต่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาเรื่อยๆ แล้วแม้ในไทยลีกจะยังไม่ชัดเจนนัก แต่การไร้ชัย 2 เกมติดก็น่าจะพิสูจน์ได้แล้วว่ามีผลจริงๆ

ยิ่งเกมเมื่อคืนชัดเลยว่าการไม่มี ดิโอโก้ มันขาดทั้งตัวทำเกมรุก, พาบอลขึ้นหน้า, สร้างโอกาสให้ทีม หรือแม้กระทั่งเรียกฟาล์วเพื่อให้ทีมได้ลุ้นจากลูกตั้งเตะ และที่สำคัญขาดคนที่กล้าเลี้ยง กล้ายิง

การมี เปโดร จูเนียร์ และ โมดิโบ ไมก้า ดูจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นักเพราะเราแทบไม่เห็นพวกเขาสร้างความแตกต่างให้ทีมได้เลย

บางทีหากแข้งนอกของ ทัพปราสาทสายฟ้า ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้แบบนี้ การเปิดโอกาสให้แข้งไทยคนอื่นก็อาจเป็นอีกตัวเลือกที่น่าบองเหมือนกัน

เสียบอลง่ายไป

เอาเข้าจริงการเน้นรับมากแบบนี้สิ่งสำคัญสุดคือความแน่นอน และการโต้กลับแบบรวดเร็ว และแม่นยำ

แต่ในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเลยว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่มีลูกโต้กลับให้แนวรับอูราวะ ได้ลำบากใจเลย

โดยเฉพาะอย่างยิงการจ่ายบอลขึ้นหน้าที่ผิดพลาดมากเหลือเกิน เหมือนเตะบอลคืนเจ้าถิ่นไปซะมากกว่า

และเมื่อ ทัพปราสาทสายฟ้า เสียบอลง่าย-เร็วแบบนี้ก็ทำให้ อูราวะ ได้ตั้งเกมบุกใหม่เพื่อโจมตีตลอดทั้งเกมอย่างที่เห็น

เซราะกราวขาดดวง

แม้โอกาสยิงประตูของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะมีเพียง 3 ครั้งเท่านั้นในเกมนี้ แต่ 2 จาก 3 คั้งนั้นควรจะได้ประตูอย่างยิ่ง

เริ่มตั้งแต่ต้นครึ่งหลังที่ กรกช วิริยอุดมศิริ ปั่นฟรีคิกโดนปลายมือนายทวารเจ้าถิ่นชนเสาเต็มๆ หากเข้าไปก็จะทำให้ ทัพปราสาทสายฟ้า ออกนำก่อนทันที

ตามมาด้วยลูกโขกจ่อๆ ของ อันเดรส ตูเญซ ที่ชนคานแบบน่าเหลือเชื่อก็พลาดที่จะเปลี่ยนเป็นลูกตีเสมออย่างรวดเร็วเหมือนกัน

ลองคิดดูเล่นๆ หากเราได้สองลูกนี้มาบางที บุรีรัมย์ มีลุ้นที่จะคว้าสามแต้มได้เหมือนกัน

มีปัญหาเรื่องยืนตำแหน่ง

เรื่องการยืนตำแหน่ง และประกบตัวเป็นอีกจุดสำคัญในเกมนี้ที่ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พลาดเสียประตูทั้งหมด

ลูกแรกชัดเจนเลยว่าการสับสนตัวประกบของ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม กับ ศุภชัย ใจเด็ด ทำให้ โมโมอากิ มาคิโนะ ได้โขกโล่งๆ เข้าไปอย่างง่ายดาย

ถัดมาในลูกที่สองจากการยืนตำแหน่งที่งงๆ ในแนวรับทำให้จังหวะยิงซ้ำของ ไดกิ ฮาชิโอกะ มาสับไกแบบไม่มีใครเข้ามาบล็อกเลย

และในลูกสุดท้ายการพลาดมองตัวประกบแว๊บเดียวของ กรกช วิริยอุมศิริ ก็ทำให้ ไดกิ ฮาชิโอกะ คนเดิมเติมมาชาร์จเข้าไปโล่งๆ เหมือนกัน

ต้องยอมรับเลยว่าสกอร์ที่แพ้เมื่อคืนนี้ค่อนข้างขาดเหลือเกิน อย่างไรก็ตามนี่มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น

ขอแค่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลับมาคืนฟอร์มเก่งให้ได้ และอีก 5 นัดที่เหลือยังมีเวลามากพอให้พวกเขาลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2019 ได้เหมือนกัน!!