Fact หลังเกม : 5 จุดเห็นชัดนัด บุรีรัมย์ แซงดับ แบงค็อก 2-1

Fact หลังเกม : 5 จุดเห็นชัดนัด บุรีรัมย์ แซงดับ แบงค็อก 2-1
Fact หลังเกม : 5 จุดเห็นชัดนัด บุรีรัมย์ แซงดับ แบงค็อก 2-1

5 ประเด็นที่ต้องพูดถึงไทยลีก 2018 ที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านแซง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-1

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับบิ๊กแมตช์ของศึกไทยลีก 2018 ประจำนัดที่ 21 โดยชัยชนะก็ตกเป็นของเจ้าบ้านอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่พลิกแซง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-1

ซึ่งผลจากเกมนัดนี้ทำให้ ทัพปราสาทสายฟ้า ทำคะแนนหนีผู้มาเยือนไปเป็น 4 แต้มด้วยทันที และนี่คือ 5 จุดที่ต้องพูดถึงหลังเกมที่สนามช้าง อารีน่า เมื่อคืนที่ผ่านมา!!

แข้งเทพจบไม่คม!!

หากใครได้ดูเกมเมื่อคืนนี้ต้องบอกเลยว่า ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด มีโอกาสยิงจ่อๆเยอะเหลือเกิน แต่สุดท้ายก็ยิงไม่ผ่านมือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน และยิงทิ้งยิงขว้างกันซะเยอะ

Fact หลังเกม : 5 จุดเห็นชัดนัด บุรีรัมย์ แซงดับ แบงค็อก 2-1
Fact หลังเกม : 5 จุดเห็นชัดนัด บุรีรัมย์ แซงดับ แบงค็อก 2-1

หากนับเฉพาะโอกาสจะแจ้งของ ร็อบสัน แฟร์นันเดส และ วานเดอร์ หลุยส์ รวมๆกันแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งที่ควรเป็นประตูอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะช่วงนาทีที่ 30 ที่ ร็อบสัน ตามซ้ำลูกยิงฟรีคิกของ ธีรเทพ วิโนทัย ซึ่งจังหวะนั้นดาวเตะชาวแซมบ้า แตะหลบกองหลังเจ้าถิ่นจนเหลือแต่ประตูโล่งๆ แล้ว

แต่ดันพลาดทำบอลลั่นหลุดออกหลังไปซะอย่างงั้น โดยถ้าเปลี่ยนเป็นประตูได้จะทำให้ แบงค็อก นำ 2-1 ก่อนจบครึ่งแรก และรูปเกมครึ่งหลังอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้

เซราะกราวขาดเพียบ!!

ต้องบอกเลยว่า บุรีรัมย์ วันนี้มาในสภาพที่ไม่ค่อยพร้อมเอาซะเลยหลังขนผู้เล่นมาทั้งทีมแค่ 16 คนเท่านั้นเอง

ซึ่งตัวสำรอง 5 คนที่มีชื่อนั้นก็แทบจะไม่มีใครลงมาเป็นตัวเปลี่ยนเกมได้เลย (ประตู 1 คน,ดาวรุ่ง 2 คน, กองหลัง 2 คน)

Fact หลังเกม : 5 จุดเห็นชัดนัด บุรีรัมย์ แซงดับ แบงค็อก 2-1
Fact หลังเกม : 5 จุดเห็นชัดนัด บุรีรัมย์ แซงดับ แบงค็อก 2-1

ยิ่งแมตช์แข่งขันช่วงนี้ก็เยอะเหลือเกินทั้งเกมลีก และบอลถ้วยอีก 2 รายการ ยิ่งน่าเป็นห่วงเรื่องอาการเหนื่อยล้าของแข้งหลักเหลือเกิน

โดยวันนี้ก็เห็นชัดเลยว่านักเตะบุรีรัมย์ หลายคนชักเร่งไม่ขึ้นในช่วงท้าย หลังวันพุธที่ผ่านมาเพิ่งลงเล่นไป 120 นาทีในเกมที่ชนะจุดโทษ แบงค็อก ในรอบ 64 ทีมสุดท้าย ช้าง เอฟเอ คัพ

น่าสนใจทีเดียวว่าในนัดต่อไป เซราะกราว จะทำยังไงกับการจัดทัพลงเล่น เพราะหากจะยึดชุดเดิมแบบนี้เรื่อยๆ บอกเลยว่ากรอบชัวร์!!

ต้องหาตัวแทนกัปตันกบ!!

การขาดแผงมิดฟิลด์ตัวหลักอย่าง จักรพันธ์ แก้วพรม ที่โดนแบน, สุภโชค สารชาติ ที่เพิ่งเจ็บไป รวมทั้ง รัตนากร ใหม่คามิ ที่หายไปนานจากอาการบาดเจ็บเช่นกัน

Fact หลังเกม : 5 จุดเห็นชัดนัด บุรีรัมย์ แซงดับ แบงค็อก 2-1
Fact หลังเกม : 5 จุดเห็นชัดนัด บุรีรัมย์ แซงดับ แบงค็อก 2-1

แถม ยู จุน-ซู ก็ถูกถอยลงไปยืนเป็นเซนเตอร์  ทำให้ สุเชาว์ นุชนุ่ม ต้องรับบทหนักเหลือเกินในแผงมิดฟิลด์ เมื่อ 10 เกมหลังสุดในไทยลีก เขาลงเล่นครบ 90 นาทีทุกนัด

และด้วยวัยที่ปาเข้าไป 35 ปีแล้ว แน่นอนว่าการยืนระยะก็ไม่เหมือนตอนหนุ่มๆ แถมไทยลีกเดี๋ยวนี้ก็เร็วขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ

ทำให้เห็นหลายจังหวะเลยในเกมนี้ที่ “กัปตันกบ” จ่ายบอลเสียเองง่ายๆ หรือไปเข้าช้าตัดฟาล์วจนถูกใบเหลืองไปในช่วงปลายครึ่งแรก

จนครึ่งหลังมีหลายจังหวะที่เสียวเขาจะโดนใบเหลืองที่สองเหมือนกัน ซึ่งถ้ามองกันตรงๆ ตอนนี้ บุรีรัมย์ น่าจะต้องหาตัวแทนไว้ได้แล้วล่ะ

บียูพลาดทีโดนลงโทษ

หากใครได้ดูเกมเมื่อคืนนี้ตลอดทั้ง 90 นาที คงจะเห็นว่า แบงค็อก มีโอกาสเข้าทำจะแจ้งได้มากกว่าเจ้าถิ่นซะอีก แต่กลับไม่เด็ดขาดซะเอง

กลับกันประตูตีเสมอของ บุรีรัมย์ ก็มาจากความผิดพลาดเองของ พุทธินันท์ วรรณศรี ที่ไม่ดูตัวประกบให้ดีจนถูก กรกช วิริยอุดมศิริ วิ่งตัดหน้าไปจิ้มบอลตุงตาข่ายเฉย

Fact หลังเกม : 5 จุดเห็นชัดนัด บุรีรัมย์ แซงดับ แบงค็อก 2-1
Fact หลังเกม : 5 จุดเห็นชัดนัด บุรีรัมย์ แซงดับ แบงค็อก 2-1

เช่นเดียวกับประตูชัยที่แนวรับแข้งเทพถึง 3 คนแต่กลับปล่อยให้ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ยกบอลให้ กรกช ตักบอลเข้ากลางง่ายๆ จนโดนลงโทษด้วยการยิงอย่างเยือกเย็นของ ศศลักษณ์ ไหประโคน นั่นเอง

ซึ่งเกมนี้ถ้าจะวัดกันจริงๆ แล้วความเด็ดขาดนี่แหละที่ทำให้ ทัพปราสาทสายฟ้า เก็บชัยไปครอง

ศศลักษณ์ ท็อปฟอร์ม

ถือว่าเป็นปีที่ยอดเยี่ยมของ ศศลักษณ์ ไหประโคน จริงๆ หลังประจำการวิงแบ็กขวาให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จนมีชื่อติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ไปแล้ว

เช่นเดียวกับเกมนี้ “เจ้าพี” ที่เริ่มต้นด้วยวิงแบ็ก ยังรักษาฟอร์มได้ดีทั้งขึ้นไปเติมเกมรุก และลงไปเล่นเกมรับแบบไม่มีข้อเสียเลยทีเดียว

Fact หลังเกม : 5 จุดเห็นชัดนัด บุรีรัมย์ แซงดับ แบงค็อก 2-1
Fact หลังเกม : 5 จุดเห็นชัดนัด บุรีรัมย์ แซงดับ แบงค็อก 2-1

ก่อนที่ครึ่งหลังจะถูกขยับไปเล่นเป็นกองหน้าตัวริมเส้นแทน ซึ่งยิ่งทำให้เขาแสดงศักยภาพได้ดียิ่งขึ้นอีก เรียกได้ว่าทำเกมรุกจน สถาพร แดงสี ต้องกุมขมัดเลยทีเดียว

โดยเฉพาะการยิงประตูชัยช่วงท้ายเกมช่วยให้ ทัพปราสาทสายฟ้า เก็บสามแต้มสำคัญ นอกจากนี้ประตูดังกล่าวยังเป็นการยิงประตูทีมเก่าอีกด้วย

และก็ไม่แปลกว่าทำไม แมน ออฟ ดอะ แมตช์ในเกมนี้ถึงตกเป็นของ ศศลักษณ์!!

 

เกมนัดนี้ต้องยกเครดิตให้นักเตะจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ช่วยกันเล่นจนแซงคว้าสามแต้มสำคัญมาได้จนทำแต้มทิ้งห่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ไป 4 คะแนนแล้ว

โดยเฉพาะ แข้งเทพ ที่ไร้ชัยสองนัดติดจนถูก การท่าเรือ เอฟซี ไล่จี้มาเหลือ 3 คะแนนแล้วด้วย และหากนับตอนนี้ยังมีเกมเหลืออีกตั้ง 13 นัด บอกเลยว่าแชมป์ไทยลีกปีนี้ลุ้นกันมันส์แน่นอน!!