5 ปัจจัยชี้ชัดที่ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ เซเรโซ่ โอซาก้า 2-0 ใน ACL 2018
จบลงไปแบบได้ใจแฟนบอลไทยทั้งประเทศจริงๆ สำหรับศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2018 เมื่อคืนนี้ที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด งัดฟอร์มเก่งเปิดบ้านอัด เซเรโซ่ โอซาก้า 2-0 แม้เหลือผู้เล่นในสนามเพียง 10 คนก็ตาม
จากชัยชนะเกมนี้ทำให้ แชมป์ไทยลีก 2017 ขยับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงกลุ่มจีทันที และนี่คือ 5 ปัจจัยสำคุญที่ทำให้ ทัพปราสาทสายฟ้า คว้าชัยแรกในถ้วยเอเชียปีนี้อย่างสวยงาม!!
แผนใหม่ได้ผลเยี่ยม!!
การขาด ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ทำให้ บุรีรัมย์ ต้องปรับมาใช้ เอ็ดการ์ บรูโน่ เป็นหน้าเป้าแทนในระบบ 3-4-2-1 โดยใช้ ประวีณวัช บุญยงค์ เป็นกลางรับที่คอยตัดเกมอยู่หน้ากองหลัง
กลายเป็นว่าแผนที่พวกเขาไม่ได้ใช้บ่อยนักกลับได้ผลอย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะ เจ้าบิ๊ก ที่คอยปัดกวาดจนแนวรับแทบจะไม่ได้พบกับงานยากเลย
อีกทั้งแดนกลางอย่าง รัตนากร ใหม่คามิ, จักรพันธ์ แก้วพรม และ สุภโชค สารชาติ ก็คุมเกมได้อย่างหมดจด จนทำให้เกมรุกไหลลื่น
ส่วน เอ็ดการ์ ก็ไม่น้อยหน้าหลังเขาเก็บบอลได้อย่างดีในแดนหน้า โดยเฉพาะจังหวะขึ้นโขกปิดกล่องให้ทีมในช่วงกลางครึ่งหลังนั่นเอง
เซเรโซ่สำรองเพียบ+เซราะกราวนำไว!!
ไม่รู้ เซเรโซ่ โอซาก้า คิดอะไรอยู่ถึงไม่มีชื่อสองดาวยิงตัวหลักอย่าง ซูกิโมโตะ, คาติตานิ ที่ปั่นป่วนเกมรับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ได้อย่างน่ากลัวในเจลีกสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อดูจากรายชื่อ 11 ตัวจริงเกมนี้ มีเพียง ทัตซุยะ ยามาชิตะ, คาซูยะ ยามามูระ และ ฮิโรฟูมิ ยามาอูชิ เพียง 3 คนเท่านั้นที่เป็นตัวหลักในเกมลีก
ที่เหลือล้วนเป็นดาวรุ่ง และสำรองในทีมทั้งนั้นซึ่งส่งผลชัดเจนตั้งแต่เริ่มเกม เมื่อพวกเขาโดน เซราะกราว กดดันจนได้ประตูขึ้นนำอย่างไว
และนั่นเองก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ บุรีรัมย์ เล่นแบบคลายความกดดัน และสามารถการคุมเกมได้หมด ด้วยประสบการณ์ที่ดีกว่าแข้งทีมเยือน อีกทั้งประตูขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกมนี้เองช่วยเรียกความมั่นในให้พวกเขา
จนในที่สุด ทัพปราสาทสายฟ้า ก็ทำเกมได้ดีกว่าจนคว้าสามแต้มแรกใน ACL2018 มาครองได้สำเร็จ
สายฟ้าทีเด็ดเซตพีซ!!
การเริ่มต้นด้วยลูกเตะมุมสองลูกติดของ กรกช วิริยะอุดมศิริ จนนำไปซึ่งประตูขึ้นนำของ บุรีรัมย์ ตั้งแต่ 2 นาทีแรก มันบ่งชี้ชัดเลยว่าพวกเขาเน้นลูกตั้งเตะจริงๆในเกมนี้
หลังจากนั้น กรกช คนเดิมก็มีจังหวะปั่นฟรีคิกเกือบมุดคานให้เห็น รวมทั้งการเปิดมุมที่โค้งเกือบเสียบคานอีกหลายลูกในเกมนี้
เช่นเดียวกับ รัตนากร ใหม่คามิ ที่รับหน้าที่เปิดมุมมฝั่งซ้าย ก็สามารถกดดันทีมเยือนได้ดีเหมือนกัน
หากจะบอกว่าวันนี้ ทัพปราสาทสายฟ้า มีเซตพีซเด็ดจนคว้าชัยได้ก็คงไม่ผิดนัก!!
แนวรับท็อปฟอร์ม
พรรษา เหมวิบูลย์ ยังคงรักษามาตรฐานได้ดีเหลือเกินหลังเก็บลูกกลางอากาศไปถึง 4 ครั้ง แถมเคลียร์บอลพ้นอันตรายอีก 7 ครั้ง เช่นเดียวกับ ยู จุน ซู นักเตะสารพัดประโยชน์ที่เข้าปะทะ บล็อคลูกยิง และตัดบอล ได้อย่างละ 1 ครั้ง
โดยเฉพาะ อันเดรส ตูเญซ ที่เกมนี้ท็อปฟอร์มสุดๆ หลัง เคลียร์บอล 8 ครั้ง เข้าตัดบอลสวยๆอีก 5 ครั้ง เอาอยู่ในการดวลตัวต่อตัว 7 หนแถมเอาชนะลูกกลางอากาศได้อีก 5 ครั้ง พร้อมโขกประตูไปอีก 1 เม็ด จนคว้า แมน ออฟ เดอ แมตช์ ไปแบบน่าชื่นชมจริงๆ
ส่วนอีกคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่เซฟจังหวะหลุดไปยิงจ่อๆของดาวยิง เซเรโซ่ 2 ครั้งซ้อน บอกเลยว่าหากโดนไปซักลูกท้ายเกม บุรีรัมย์ เหนื่อยอย่างหนักแน่นอน
เหลือ 10 คนแต่ไม่อุด!!
บุรีรัมย์ ตกอยู่ในสถานการณ์น่าห่วงเมื่อ 15 นาทีสุดท้ายพวกเขาเหลือผู้เล่น 10 คนหลัง จักรพันธ์ แก้วพรม เข้าบอลอันตรายเกินไปโดนใบแดงไล่ออกทันที
แต่กลายเป็นว่า โบชิดาร์ บันโดวิช เลือกที่จะส่ง ศศลักษณ์ ไหประโคน ลงมา สุภโชค สารชาติ เพื่อเล่นเกมโต้กลับซะอย่างงั้น
ซึ่งก็เป็นผลดีเหมือนกันเพราะแม้จะมีผู้เล่นน้อยกว่าและกลับไม่เล่นรับแบบอุด ทำให้ เซเรโซ่ ไม่กล้าที่จะบุกขึ้นมาอย่างเต็มรูปแบบ จนไม่สามารถไล่ตีไข่แตกได้สักที
ถือเป็นการคัมแบ็ก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2018 ได้อย่างสวยงามจริงๆ สำหรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำให้ตอนนี้พวกเขาหลับมามีลุ้นลุ้นเข้ารอบต่อไปอย่างเต็มตัวแล้ว
และในอีก 3 เกมที่เหลือเชื่อเหลือเกินว่าแฟนบอลไทยทั้งประเทศคงพร้อมแล้วที่จะส่งแรงเชียร์ให้ตัวแทนเดียวจากทีมชาติไทย ทะลุเข้ารอบต่อไปให้ได้!!
