Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม

Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม
Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม

5 จุดน่าประทับใจ หลังจากทีมชาติไทย เปิดบ้านชนะ ตรินิแดดและโตเบโก 1-0 เกมอุ่นเครื่องนัดล่าสุด

ถือว่าแฟนบอลไทยได้มีความสุขกันไปถ้วนหน้า หลังจาก ทีมชาติไทย ทำผลงานสุดยอดในเกมอุ่นเครื่องนัดล่าสุด ที่เอาชนะ ตรินิแดดและโตเบโก ชาติจากโซนคอนคาเคฟไป 1-0 ชนิดที่มีโอกาสทำประตูได้หลายลูก และถือเป็นการอำลาการรับใช้ชาติของ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ตำนานนายประตูจอมเก๋าลงอย่างยิ่งใหญ่ด้วย

จากการที่ทีมช้างศึกได้สิ่งที่ต้องการทั้งผลการแข่งขัน และฟอร์มการเล่นที่ดี จึงถือว่ามีเรื่องดีๆ ที่น่าพูดถึงหลายเรื่อง และนี่คือ 5 ประเด็นน่าประทับใจสำคัญๆ จากเมื่อคืนที่ผ่านมา

1. “ราเยวัช” มีแผนหลากหลาย

เกมนี้ มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมช้างศึก ปรับ 11 ตัวจริงมากถึง 9 ตำแหน่งจากนัดบุกชนะ ฮ่องกง 1-0 เมื่อวันพฤหัสบดี โดยเหลือเพียง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว เป็นตัวหลักในแนวรับ และ ชนานันท์ ป้อมบุปผา ที่ยังได้ลงเล่นในแนวรุกเท่านั้น

นักเตะดาวดังที่ไปค้าแข้งในเจลีกอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน และ ธีรศิลป์ แดงดา ได้ออกสตาร์ทกันอย่างพร้อมหน้า แต่ที่น่าสนใจก็คือการได้โอกาสลงตัวจริงในแดนกลางพร้อมกันของ 2 มิดฟิลด์จาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อย่าง ปกเกล้า อนันต์

และที่น่าสนใจอีกจุดก็คือนักเตะที่ตำแหน่งจริงๆ คือศูนย์หน้าได้ลงพร้อมกัน 3 คนคือ ธีรศิลป์ แดงดา, ชนานันท์ ป้อมบุปฝา และ อดิศักดิ์ ไกรษร

Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม
Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม

ระบบการเล่นมีการปรับเล็กน้อย จาก 4-2-3-1 ที่ ราเยวัช มักใช้ตลอดช่วงก่อนหน้านี้ มาเป็น 4-3-3 โดยบทบาทของ ปกเกล้า คือยืนต่ำสุด และวิ่งพล่านตัดเกม รวมถึงขยับทำเกม ขณะที่ สุมัญญา กับ ชนาธิป รับหน้าที่ปั้นเกมรุกคู่กัน

ส่วนแนวรุก ธีรศิลป์ ที่มีสกิลเก็บบอลดีที่สุด ยืนอยู่ตรงกลาง และถอยลงต่ำมาเชื่อมเกม เพื่อเปิดพื้นที่ให้ทั้ง ชนานันท์ และ อดิศักดิ์ ได้สอดเข้าทำในหลายๆ จังหวะ

ในครึ่งเวลาแรก แท็กติกนี้ทำให้ไทยสร้างโอกาสลุ้นทำประตูมากถึง 8 ครั้ง แม้จะยังไม่ได้ประตู แต่ก็ถือว่าเล่นได้อย่างวูบวาบ

Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม
Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม

จากนั้นในครึ่งหลัง กุนซือชาวเซอร์เบียปรับแท็กติกหลายตำแหน่งในช่วงหลังผ่านไป 15 นาที โดยเปลี่ยนรูปแบบโจมตี ที่จากครึ่งแรกไม่มีตัวริมเส้นอาชีพ ก็ส่งปีกที่มีความคล่องตัวสูงทั้ง ศศลักษณ์ ไหประโคน และ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ลงไป

อดิศักดิ์ ไกรษร ถูกขยับไปยืนปักหลักในกรอบเขตโทษมากขึ้นแทนที่ ธีรศิลป์ ที่ได้พัก ขณะที่ ชนาธิป ที่เล่นไม่ค่อยออก ถูกเปลี่ยนตัวให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ลงไปแทน และเปิดโอกาสให้ สุมัญญา ปุริสาย เป็นจอมทัพเต็มตัว แล้วเพิ่มความแน่นของกองกลางประเภท บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ มากขึ้น ซึ่งทำให้ไทยตัดบอลสวยๆ ได้หลายครั้ง และโจมตีเร็วด้วยความขยันวิ่งของกองกลาง บวกกับนักเตะแดนบน

สุดท้าย ช้างศึกก็ได้ประตูชัยจากความเหนือชั้นของ สุมัญญา ที่ตัดบอลในแดนตัวเอง ก่อนลากตะลุยขึ้นไปแล้วงัดไปยังพื้นที่ว่างให้ ฐิติพันธ์ วิ่งสุดแรงเกิดไปรับบอล และยิงตุงตาข่ายในที่สุด

ที่ผ่านมา มิโลวาน ราเยวัช มักถูกวิจารณ์พอสมควรว่ายึดติดกับแผนและนักเตะเดิมๆ แต่เกมนี้เขาแสดงให้เห็นแล้วว่า เขารู้จักศักยภาพของนักเตะไทยแต่ละคนดี มีแพลนหลากหลาย และสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่น โดยที่ประสิทธิภาพของเกมไม่ลดลงไปเลย

2. “กัปตันเหลิม” คุมหลังเจ๋งจริง

Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม
Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม

เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว นักเตะคนเดียวในแผงแบ็กโฟร์ที่ลงตัวจริงจากเกมบุกชนะ ฮ่องกง 1-0 และยังได้ออกสตาร์ทในเกมนี้ คว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง

ปราการหลัง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ยืนตำแหน่งได้แบบไร้ข้อผิดพลาด ไม่เปิดโอกาสให้ ตรินิแดดและโตเบโก หาจังหวะเข้าทำในพื้นที่อันตรายได้ถนัด และช่วยให้ทีมชาติไม่เสียประตูมา 2 เกมติด

และแม้ว่า มิโลวาน ราเยวัช จะสลับใช้งานนักเตะอย่าง พรรษา เหมวิบูลย์, มานูเอล ทอม รวมถึง สุพรรณ ทองสงค์ ในนัดนี้ แต่ “กัปตันเหลิม” ยังนิ่งไว้ใจได้เสมอ ไม่ว่าจะยืนคู่กับใครก็ตาม

คงไม่เป็นการพูดเกินเลยไป หากจะบอกว่า เฉลิมพงษ์ คนนี้ คือกองหลังอันดับหนึ่งของไทย ณ ตอนนี้อย่างแท้จริง

3. “เจ้าตั๊ก” แทน “เมสซี่เจ” ได้สบาย

Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม
Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม

หาก เฉลิมพงษ์ คือพระเอกในแนวรับ คนที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุดในการขับเคลื่อนเกมรุก คงหนีไม่พ้น สุมัญญา ปุริสาย กองกลางฟอร์มเด่นจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ดาวเตะวัย 31 ปีที่ยิงไปถึง 12 ประตูในศึก ไทยลีก 2018 นอกจากจะแอสซิสต์สุดเหนือชั้นให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ หลุดไปยิงประตูชัยแล้ว เขายังมีโอกาสทำประตูจากการยิงไกลหลายๆ ครั้ง และที่น่าประทับใจก็คือความขยันที่วิ่งขึ้นลงไม่มีหมดในเกมล่าสุด

จากการที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะพลาดช่วยทีมชาติไทยในภารกิจป้องกันแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ปีนี้ ถือว่า มิโลวาน ราเยวัช ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะขาดตัวปั้นเกมชั้นดีที่จะแทน “เมสซี่เจ” ในเมื่อ “เจ้าตั๊ก” กำลังเล่นอย่างมั่นใจ และระเบิดฟอร์มได้เนียนตาสุดๆ

4. คะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง เต็มๆ จาก 2 เกมล่าสุด

Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม
Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม

จากการที่เป็นการคว้าชัยเหนือ ตรินิแดดและโตเบโก ชาติอันดับ 90 ของโลก ซึ่งเหนือกว่าไทยถึง 32 อันดับ น่าจะช่วยให้ทีมช้างศึกได้ขยับแรงกิ้งฟีฟ่าได้แน่ หลังจากเกมก่อนหน้านี้ ที่บุกไปพบ ฮ่องกง (อันดับ 143 ของโลก) เราก็ไม่พลาดชัยชนะเช่นกัน

จากการที่คู่แข่งร่วมอาเซียนอย่าง ฟิลิปปินส์ ไม่ชนะมา 2 นัดติด (แพ้ ทาจิกิสถาน และเสมอ โอมาน) ส่วน เวียดนาม ก็ไม่ได้แข่งกับใครในเดือนนี้ ยิ่งต้องบอกเลยว่าผลการแข่งขันที่ดี 2 เกมหลังของไทย ยิ่งมีค่ามากขึ้นไปอีก

5. อำลา “สินทวีชัย” อย่างสมเกียรติ

Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม
Fact หลังเกม : 5 จุดน่าประทับใจ หลังไทยเชือดตรินิแดด อำลาพี่ตี๋สวยงาม

ความสำคัญของเกมพบกับ ตรินิแดดและโตเบโก ไม่ใช่เพียงการอุ่นเครื่องในช่วงฟีฟ่าเดย์ธรรมดาๆ แต่คือนัดอำลาให้กับตำนานผู้รักษาประตูที่รับใช้ทีมชาติมาอย่างยาวนานที่สุดอย่าง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล

สินทวีชัย ที่ได้ลงเฝ้าเสาเพียง 14 นาที ปิดฉาก 14 ปีที่อำลาทีมชาติ ด้วยจังหวะเซฟครั้งสุดท้าย ซึ่งโชว์การอ่านเกมอย่างยอดเยี่ยม เมื่อออกมาปิดมุมจนป้องกันจังหวะหลุดของ นาธาน ลูอิส ปีกตัวจี๊ดที่สุดของตรินิแดด ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกเพื่อรับเสียงปรบมือจากแฟนบอล สมกับคอนเซปต์ The Lasr Save ของเกมเกียรติยศนัดนี้อย่างน่าประทับใจสุดๆ

และการที่คนที่ลงไปแทนเขาอย่าง ฉัตรชัย บุตรพรม ช่วยให้ทีมชาติเก็บคลีนชีต ก็ถือเป็นการรับช่วงต่อรุ่นพี่ได้ดี และต่อจากนี้ แฟนบอลไทยก็คงหวังว่าไม่ว่าใครที่ลงไปพิทักษ์ประตูให้ทีมช้างศึก ก็จะทุ่มเทเต็มที่ และโชว์ฟอร์มได้ดีเหมือนที่ “ซูเปอร์ตี๋” ยืนระยะได้อย่างยาวนานแบบที่ผ่านๆ มา

ภารกิจที่รอ ทีมชาติไทย อยู่ต่อจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ และถ้วยใหญ่สุดของทวีปอย่าง เอเชียน คัพ ถือว่าสำคัญยิ่ง

และชัยชนะที่ได้มา ด้วยฟอร์มการเล่นที่สวยงาม คงทำให้แฟนบอลและทัพช้างศึกทุกคน มั่นใจก่อนทำศึกใหญ่ได้เป็นอย่างดี