อยากไปต่อต้องคว้าชัย!! 5 สิ่งห้ามพลาดชม ช้างศึก บู๊ บาห์เรน เย็นนี้ที่ยูเออี

อยากไปต่อต้องคว้าชัย!! 5 สิ่งห้ามพลาดชม ช้างศึก บู๊ บาห์เรน เย็นนี้ที่ยูเออี
อยากไปต่อต้องคว้าชัย!! 5 สิ่งห้ามพลาดชม ช้างศึก บู๊ บาห์เรน เย็นนี้ที่ยูเออี

5 ประเด็นสำคัญห้ามพลาดชม ทีมชาติไทย พบ บาห์เรน ชี้ชะตาลุ้นไปต่อในเอเชียน คัพ 2019

ศึกเอเชียน คัพ 2019 นัดที่ 2 ที่จะพบกับ บาห์เรน ในเย็นวันนี้ถือเป็นนัดที่สำคัญสุดๆ กับ ทีมชาติไทย เหลือเกิน หลังเปิดหัวพ่าย อินเดีย 1-4 ทำให้ทางเลือกของเราคือชนะเท่านั้นหากอยากจะลุ้นเข้ารอบต่อไป

ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งการเปลี่ยนโค้ช รวมทั้งระบบแท็กติคอะไรหลายๆ อย่างบวกกับคู่แข่งที่มีฟอร์มไม่ธรรมดาเหมือนกันในเกมแรกที่เกือบชนะ ยูเออี เจ้าภาพได้อยู่แล้ว

และนี่คือ 5 ประเด็นที่แฟนบอลไทยห้ามพลาดชมเกมสุดสำคัญนี้เด็ดขาด!!

ไร้ราเยวัชจะเป็นไง

เป็นจุดที่น่าสนใจสุดๆ หลัง “บิ๊กอ๊อด” สั่งปลด มิโลวาน ราเยวัช กลางทัวนาเมนต์แบบนี้ แล้วตั้ง “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เข้ามารับตำแหน่งชั่วคราวแทน

ซึ่งน่าติดตามเหลือเกินว่าการไร้เฮดโค้ชชาวเซอร์เบีย จะทำให้ ไทย มีรูปแบบการเล่นที่น่าสนใจขึ้นหรือเปล่า โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์ของ “โค้ชโต่ย” ที่เตรียมเปลี่ยนแท็กติกใหม่

ด้วยเป้าหมายที่ต้องการชัยชนะแน่นอนว่าเราอาจจะต้องเน้นรุกมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเกมรับก็ต้องแน่นให้มากกว่าเดิมด้วย

และที่สำคัญสุดๆ คือเขาจะรีดฟอร์มเก่งในเจลีกของ ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา หรือแม้กระทั่ง ธีราทร บุญมาทัน ออกมาได้หรือยัง เพราะบอกได้เลยว่าหากแข้งเหล่านี้ท็อปฟอร์ม ช้างศึก มีลุ้นยาวๆ แน่

งานหินช้างศึกไร้ชัยมา 38 ปี

จากสถิติการพบกันของ ทีมชาติไทย กับ บาห์เรน ตามที่ฟีฟ่าบันทึกทั้งหมด 7 นัด ทัพช้างศึก คว้าชัยไปได้เพียง 1 นัดเท่านั้น แต่แพ้ไป 2 นัด และเสมอไปถึง 4 นัดด้วยกัน

ชัยชนะเดียวของไทย เกิดขึ้นตั้งแต่การพบกันครั้งแรกในปี 1980 นู้นเลยในรายการเพรสซิเดนท์ คัพ โดยชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 และหากนับถึงตอนนี้ ทัพช้างศึก ไม่ชนะบาห์เรน มานานถึง 38 ปีเข้าไปแล้ว

ขณะที่ครั้งล่าสุดที่พบกันต้องย้อนกลับไปในปี 2015 ในนัดอุ่นเครื่องซึ่งตอนนั้นเสมอกันไป 1-1

ต้องยอมรับเลยว่านี่ไม่ใช่งานง่ายที่จะคว้าสามแต้ม แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะล้างอาถรรพ์ไร้ชัย 38 ปีลงไปสักที

 

สามแต้มเท่านั้นเพื่อไปต่อ

จริงอยู่ที่เอเชียน คัพ หนนี้ทีมอันดับสามที่ดีที่สุด 4 จาก 6 กลุ่มจะได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งเอาเข้าจริงคะแนนต้องมีไม่ต่ำกว่า 4 แต้มก็น่าจะเพียงพอต่อการเข้ารอบแล้ว

แต่จากผลที่พลาดท่าแพ้ในเกมแรกทำให้ ทีมชาติไทย ต้องหล่นไปเป็นบ๊วยของกลุ่มเอทันทีด้วยการไม่มีแต้ม และผลต่างก็โดนไปเยอะถึง -3

นั่นทำให้เกมวันนี้ ทัพช้างศึก คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคว้าสามแต้มจาก บาห์เรน ให้ได้ และที่สำคัญประตูได้ก็มีส่วนสำคัญมากด้วยเช่นกัน

ซึ่งหากสามารถชนะได้ก็จะไปวัดกับ ยูเออี ในนัดสุดท้ายว่าจะได้ไปต่อหรือไม่ แต่กลับกันหักวันนี้พลาดแพ้บาห์เรน ก็แทบจะเก็บของกลับบ้านได้เลยทันที

ต้องปรับรูปแบบทีม

กลายเป็นจุดบอดเลยก็ว่าได้ในเกมแดนกลางของ ทีมชาติไทย ในเกมแรกที่ไม่สามารถคุมเกม และไม่มีตัวตัดเกมอาชีพเลยสักคน

คืนนี้ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองกลางตัวรับคนเดียวของไทยในเกมนี้ก็ควรที่จะได้กลับมาลงสนาม แม้ฟอร์มจะยังไม่กลับมา แต่อย่างน้อยบอลระดับเอเชียแบบนี้ต้องมีกลางรับไว้สกรีนก่อนสักตัวก็ยังดี

ที่น่าสนใจคือเมื่อ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ผลงานยังไม่ค่อยดีเหมือนเดิมนักบางทีน่าลองให้โอกาส ปกเกล้า อนันต์ หรือ สุมัญญา ปุริสาย ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงบ้างหรือเปล่า??

เช่นเดียวกันกับตำแหน่งเซนเตอร์ที่ดูแล้วทั้ง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว และ พรรษา เหมวิบูลย์ ดูจะฟอร์มหลุดออกทะเลไปพอๆ กันเลย

โดยเฉพาะ “กัปตันเหลิม” ในวัย 32 ปีที่ดูจะโรยราลงไปเยอะกว่าช่วงขึ้นมาติดทีมชาติใหม่ๆ เหมือนกัน ซึ่งในตำแหน่งนี้เราก็ยังมีทั้ง อดิศร พรหมรักษ์, สุพรรณ ทองสงค์ รวมทั้ง มิก้า ชูนวลศรี ที่พร้อมจะทดทแนได้เหมือนกัน

และจุดที่ถูกวิจารณ์อย่าหนักคงหนีไม่พ้นผู้รักษาประตูที่ช่วงหลัง มิโลวาน ราเยวัช ดูจะชอบ ฉัตรชัย บุตรพรม เหลือเกิน เอาเข้าจริง “เจ้าบอย” ถือเป็นนายทวารที่ผลงานก็ดีอยู่ แต่ไม่รู้ทำไมในนามทีมชาติหลังๆ ดูจะเสียง่ายเกินไปซอย่างงั้น

กลับกัน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่มีประสบการณ์ลุย ACL มาอย่างต่อเนื่องก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย หากจะลองเปลี่ยนดูในช่วงเวลาที่ไร้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์

บาห์เรนชุดนี้ไม่ธรรมดา

จริงอยู่ที่ บาห์เรน จะเป็นทีมในโถสุดท้ายของการจับสลากแบ่งสาย เอเชียน คัพ 2019 และถึงแม้พวกเขาจะรั้งอันดับ 113 ของฟีฟ่าแรงกิ้งดีกว่าไทย เพียง 5 ขั้นเท่านั้น

แต่จากฟอร์มในนัดเปิดสนามที่พบกับเจ้าภาพ ยูเออี ต้องบอกเลยว่าทุกคนกำลังคิดผิด หลังพวกเขาครองเกมบุกได้ดี และดุดันเหลือเกิน และแทบจะคว้าสามแต้มได้ด้วยซ้ำ แต่ดันโชคร้ายเสียจุดโทษท้ายเกมโดนตีเสมอไปอย่างน่าเจ็บใจ

บาห์เรน ชุดนี้มีมิดฟิลด์กัปตันทีมจอมเก๋าอย่าง อับดุลวาห์อับ อัล-ซาฟี่ นำทีมมา แต่ที่น่าจับตามองคือดาวยิงหมายเลข 10 อย่าง อับดุลลา ยูซุฟ เฮลาล ที่เพิ่งถูก สลาเวีย ปราก ทีมดังจากลีกเช็ก คว้าตัวไปร่วมทีมในช่วงตลานักเตะมกราคมที่ผ่านมานี้เอง

แม้จะถูกปล่อยให้ โบฮีเมียนส์ 1905 ยืมไปแต่ก็ยังเป็นลีกสูงสุดของเช็กอยู่ดี ซึ่งบอกเลยว่าด้วยดีกรีระดับนี้ บวกกับฟอร์มนัดแรกที่สุดแจ่ม บาห์เรน ชุดนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ

ต้องยอมรับเลยว่าเย็นวันนี้เป็นงานที่โคตรหนัก และไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจาก ทีมชาติไทย ต้องชนะ เท่านรั้นเพื่อโอกาสในการลุ้นเข้ารอบต่อไป หรืออย่างแย่ที่สุดก็ต้องเสมอไว้ก่อนไปลุ้นนัดสุดท้าย

อย่างไรก็ตามด้วยศักยภาพของนักเตะตอนนี้เราก็ยังเชื่อว่าดีพอที่จะกลับมาสู่ฟอร์มเดิมได้แน่ ขอแค่จูนกันให้ติดเท่านั้นเอง

18.00 น. วันนี้เรามีนัดช่วยเชียร์ ทัพช้างศึกคว้าชัยเหนือ บาห์เรน ให้ได้เพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในเอเชียน คัพ 2019!!