ย้อนรอยคู่ชิง 2016!! 5 ปัจจัยเด็ด ช้างศึก น่าเปิดบ้านอัด อินโด

ย้อนรอยคู่ชิง 2016!! 5 ปัจจัยเด็ด ช้างศึก น่าเปิดบ้านอัด อินโด
ย้อนรอยคู่ชิง 2016!! 5 ปัจจัยเด็ด ช้างศึก น่าเปิดบ้านอัด อินโด

5 ปัจจัยชี้ชัด ทีมชาติไทย น่าเปิดบ้านชนะ อินโดนีเซีย ในนัดที่ 2 ของศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018

ทีมชาติไทย เตรียมลงเล่นเป็นนัดที่ 2 ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ช่วงเย็นวันนี้ด้วยการเปิดบ้านพบ อินโดนีเซีย คู่ชิงเมื่อครั้งที่แล้ว

จากผลงานเกมแรกของ ทัพช้างศึก ที่ทำผลงานได้อย่างสวยหรู ทำให้วันนี้ดูเราจะเป็นต่อมากเหลือเกิน และนี่คือ 5 ประเด็นไฮไลท์ที่ดูแล้วลูกทีม มิโลวาน ราเยวัช ไม่น่าพลาด 3 แต้ม!!

AK9 กำลังฮอต

เวลานี้คงไม่มีใครร้อนแรงไปกว่า อดิศักดิ์ ไกรษร ที่เพิ่งเป็นแข้งไทยคนแรกที่ยิงถึง 6 ประตูในเกมเดียวจากนัดเปิดสนามที่ไล่ถล่ม ติมอร์ เลสเต 7-0

ทำให้ตอนนี้ AK9 กลายเป็นเต็งจ๋าที่จะคว้าดาวซัลโวทั้งๆ ที่เพิ่งลงเล่นไปนัดเดียวเท่านั้น และด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ ทำให้เขาน่าจะถูกจับตามอง และโดนประกบติดมากขึ้นกว่าเดิมอีก

นอกจากนี้ “เจ้ากอล์ฟ” ขออีกแค่ประตูเดียวก็จะขึนแท่นนักเตะไทยที่ยิงในรายการชิงแชมป์อาเซียนสูงสุดเทียบเท่ากับ เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ ที่เคยทำไว้ที่ 7 ประตูตั้งแต่ครั้งแรกในปี 1996 นู้นเลย

อินโดแพ้ทีอาจหมดลุ้น

ด้วยสถานการณ์ของสายบี ที่ค่อนข้างจะสูสีในตอนนี้มีถึง 4 ทีมที่มีแต้มเท่ากัน โดยแตกต่างกันเพียงประตูได้-เสีย และจำนวนนัดที่แข่งมากกว่ากัน

ทำให้ อินโดนีเซีย ที่มี 3 คะแนนจากการลงเล่นไปแล้ว 2 นัด มีโอกาสร่วงสูงเหมือนกันหากเกิดแพ้ ทีมชาติไทย เพราะนัดสุดท้ายก็ต้องไปเจอกับทีมแกร่งอย่าง ฟิลิปปินส์ อีก

ต่างจาก ทัพช้างศึก ที่นัดนี้เกิดคว้า 3 แต้มมาครองได้โอกาสเข้ารอบต่อไปก็ดูสดใสมากกว่าชาติอื่นเยอะเหลือเกิน

ราเยวัช คุมไทยไร้พ่ายทีมต่ำกว่า

หากนับช่วงที่ มิโลวาน ราเยวัช เข้ามารับงานคุมทีมชาติไทย ประมาณ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ทัพช้างศึก มีเกมอุ่นเครื่อง รวมทั้งรายการสำคัญๆ ที่ดวลกับทีมที่แข็งแกร่งกว่ามาโดยตลอด

และก็แน่นอนว่ามีทั้งผลแพ้ ชนะ หรือ เสมอ ปะปนกันไป แต่อย่างไรก็ตามเมื่อดูเฉพาะเกมที่ ทีมชาติไทย เจอกับคู่แข่งที่มีอันดับแรงกิ้งต่ำกว่า เฮดโค้ชชาวเซอร์เบียก็พาทีมกำชัยได้หมด

ไล่มาตั้งแต่อุ่นเครื่องชนะ เมียนมา 3-1, อุ่นเครื่องชนะ ฮ่องกง 1-0 และล่าสุดก็ถล่ม ติมอร์-เลสเต 7-0

ทำให้แฟนบอลน่าจะสบายใจได้อย่างนึงว่า ลุงวัช ยังไม่เคยพาทีมเพลี่ยงพล้ำเมื่อดวลกับทีมที่มีมาตรฐานต่ำกว่าเลยสักนัดเดียว

 

ช้างศึกในบ้านโคตรแกร่ง

ทีมชาติไทย มีผลงานการเล่นในบ้านที่แข็งแกร่งเหลือเกินในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เพราะตั้งแต่มีรายการนี้มาในปี 1996

ทัพช้างศึก ได้เล่นในประเทศไทย ไปแล้ว 24 นัดซึ่งเคยแพ้แค่นัดเดียวเท่านั้นในรอบชิงชนะเลิศปี 2008 ต่อ เวียดนาม 1-2

เพราะนอกจากนั้นอีก 22 นัดเป็นชัยชนะต่อหน้าแฟนบอลไทยถึง 19 เกมเต็มๆ ที่สำคัญ อินโดนีเซีย ยังไม่เคยบุกมาคว้าชัยถึงไทยได้เลยสักหนเดียวในรายการนี้ และคืนนี้หากไม่มีอะไรผิดพลาด ทีมชาติไทย ก็น่าจะรักษาสถิตินี้ไว้ได้อีกต่อไป!!

H2H ข่มมิด

จากสถิติการพบกันทั้งหมดที่ฟีฟ่าทำการบันทึกไว้ 66 ครั้ง ทีมชาติไทย เป็นฝ่ายที่เหนือกว่าอย่างชัดเจนเมื่อชนะไปถึง 31 ครั้ง เสมอ 17 ครั้ง และแพ้ไปเพียง 18 นัดเท่านั้น

และหากเอาเฉพาะในรายการชิงแชมป์อาเซียนตั้งแต่ในปี 1996 จนถึง ครั้งล่าสุดทั้งสองทีมเจอกันมาแล้ว 11 ครั้ง

ทัพช้างศึก ก็ยังเหนือกว่าด้วยการชนะไปถึง 8 ครั้ง และเป็น อินโดนีเซีย ชนะไปแค่ 3 ครั้งเท่านั้น ต้องยอมรับเลยว่า ไทย ค่อนข้างจะเหนือกว่าทีมเยือนอยู่มากมายทีเดียว

และที่สำคัญแฟนบอลอินโดคงจำได้ดีว่า 5 ครั้งที่พวกเขาทำได้เพียงพระรองในรายการนี้ เป็นการพ่ายแพ้ ไทย ไปถึง 3 ครั้งเลยทีเดียว

ไม่เพียงแต่สถิติการพบกัน แต่เมื่อลองดูถึงรายชื่อผู้เล่นแล้ว ถ้าเทียบกันตำแหน่งต่อตำแหน่งก็น่าจะเป็นแชมป์เก่าที่ดูจะเหนือกว่าแบบทุกตำแหน่งเลยก็ว่าได้

ด้วยผลงานในนัดประเดิมสนามของ ทีมชาติไทย บวกกับศักยภาพในทีมดูจะเหนือกว่า อินโดนีเซีย อยู่เกือบทุกอย่าง

แต่อย่างไรก็ตามห้ามประมาทเด็ดขาด เมื่อในปี 2014 ที่ ไทยขนชุดใหญ่ไปเต็มสูบ ก็เคยโดน อินโด ก็เปิดบ้านชนะมาแล้ว

สุดท้ายวันนี้เวลา 18.30 น. อยากจะเชิญชวนแฟนบอลไทยไปพบกันที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน เพื่อร่วมส่งใจเชียร์ ทัพช้างศึก คว้าชัยเหนือทีมเยือน และก้าวไปสู่แชมป์ซูซูกิ คัพ 2018 ให้ได้!!