ผีแพ้ไม่ได้แล้ว!! 5 ประเด็นน่าจับตา บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ แมนฯ ยู ปะทะ อาร์เซน่อล

ผีแพ้ไม่ได้แล้ว!! 5 ประเด็นน่าจับตา บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ แมนฯ ยู ปะทะ อาร์เซน่อล
ผีแพ้ไม่ได้แล้ว!! 5 ประเด็นน่าจับตา บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ แมนฯ ยู ปะทะ อาร์เซน่อล

5 ประเด็นน่าจับตา เกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ อาร์เซน่อล

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังจะเข้าสู่ครึ่งทางของฤดูกาล และกลางสัปดาห์นี้ก็มีบิ๊กแมตช์ที่น่าสนใจ เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมขวัญใจมหาชนที่ฟอร์มเอาแน่เอานอนไม่ได้ จะต้องเปิดบ้านพบกับ อาร์เซน่อล ทีมอันดับ 4 ที่ฟอร์มกำลังสุดยอด ไร้พ่ายมา 19 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ

แม้จะเป็นเกมที่เตะกันดึกมาก แต่ก็ถือเป็นนัดที่น่าติดตามสุดๆ อยู่ และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจ ก่อนทั้งคู่จะหวดกันที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในคืนนี้

 

ถ้าผีแดงแพ้ อดไปลุย UCL แน่!!

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหลือความหวังเพียงริบหรี่ ในการจะทำอันดับให้ติดท็อปโฟร์ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

เพราะนอกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ที่ยังแรงไม่ตก และน่าจะลุ้นแชมป์กันไปยาวๆ แล้ว บรรดาทีมจากลอนดอนทั้ง เชลซี, อาร์เซน่อล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็ทำผลงานในระดับสูง และต่างนำห่างทีมอันดับ 6 กันไม่ต่ำกว่า 7 คะแนน ก่อนลงเตะนัดที่ 15

ทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ มีแต้มตามหลัง อาร์เซน่อล ซึ่งรั้งอันดับ 4 อยู่ถึง 8 แต้ม แต่ถ้าหากเกมนี้ชนะได้ ช่องว่างจะลดเหลือ 5 แต้ม ถือว่ายังพอมีความหวังพลิกสถานการณ์แซงคว้าโควตา UCL ได้อยู่บ้าง

แต่หากผีแดงต้องแพ้คาบ้าน ช่องว่างจะโดนถ่างออกเพิ่มเป็น 11 แต้ม (ซึ่ง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็น่าจะชนะได้ และนำห่าง 11 แต้มเช่นกัน) เรียกได้ว่าแทบจะเป็นงานที่เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ที่จะพลิกสถานการณ์ทำอันดับให้ดีกว่าทีมดังจากลอนดอนในช่วงโปรแกรมที่เหลือต่อจากนี้

ในขณะเดียวกัน นัดนี้ก็ยังเป็นบทพิสูจน์ของ อาร์เซน่อล เช่นกัน ว่าดีพอที่จะลุ้นแย่งแชมป์จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือไม่ หลังจากเมื่อคืนนี้ที่ทีมเรือใบสีฟ้าบุกชนะ วัตฟอร์ด 2-1 ทำให้ทำแต้มนำทีมปืนใหญ่ไกลเป็น 11 แต้มแล้ว

 

“เอเมรี่” ลุ้นล้างอาถรรพ์

หากดูจากสถิติเก่าๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะเหนือกว่า อาร์เซน่อล อยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามได้เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับมือในเกมลีก

ครั้งสุดท้ายที่ทีมปืนใหญ่ บุกเก็บ 3 แต้มได้จากถิ่นปีศาจแดง ต้องย้อนไปไกลถึงเดือนกันยายนปี 2006 ที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ยิงประตูชัยช่วงท้ายเกม พา อาร์เซน่อล บุกชนะ 1-0

หลังจากนั้นมา แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้ “เดอะ กันเนอร์ส” คาบ้านในพรีเมียร์ลีก นานถึง 11 นัดติดต่อกัน (ชนะ 8 เสมอ 3) โดยการเจอกันหนล่าสุด มารูยาน เฟลไลนี่ ก็โขกประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ให้ทีมปีศาจแดงเปิดบ้านชนะไป 2-1

อย่างไรก็ตาม สถิติทั้งหมดที่กล่าวมา คือเรื่องที่เกิดขึ้นในยุคที่ อาร์แซน เวนเกอร์ เป็นกุนซือทีมปืนใหญ่ แต่ ณ เวลานี้ที่ อูไน เอเมรี่ เข้ามาคุมทีมแทน อาร์เซน่อล กลายเป็นทีมที่ดีกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแล้ว

 

3 หนหลังเล่นเกมลีกกลางสัปดาห์ ปืนใหญ่แพ้รวด!!

อีกสถิติเลวร้ายของ อาร์เซน่อล ที่ เอเมรี่ จะต้องหยุดลงให้ได้ หากยังหวังลุ้นแชมป์ คือความย่ำแย่ในการลงเตะเกมพรีเมียร์ลีกนัดกลางสัปดาห์ของทีมปืนใหญ่

อาร์เซน่อล แพ้รวด 3 เกมหลังสุด เมื่อต้องลงเตะเกมพรีเมียร์ลีกในคืนวันอังคาร, พุธ หรือพฤหัสบดี แถมโดนยิงแต่ละนัดไม่ต่ำกว่า 3 ประตูด้วย (แพ้สวอนซี, แมนฯ ซิตี้ และ เลสเตอร์)

โดยคืนนี้ จะเป็นครัั้งแรกที่กุนซือชาวสเปน จะพาทีมปืนใหญ่ลงเตะเกมลีกนัดกลางสัปดาห์ด้วย น่าจับตาดูว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร

 

ผีหลังรั่ว “เด เคอา” จะช่วยไหวไหม?

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมเดียวในกลุ่มบิ๊กซิกซ์ ที่เสียประตูมากกว่ายิงได้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (ยิงได้ 22 แต่เสีย 23 ประตู) และนอกจาก 5 อันดับสุดท้ายของตารางแล้ว ก็ไม่มีทีมไหนที่เสียประตูเยอะกว่าทีมปีศาจแดงอีกด้วย

ดาบิด เด เคอา เก็บคลีนชีตในเกมลีกซีซั่นนี้ได้แค่ 2 นัด ซึ่งนอกจากความเหนียวหนึบที่ลดลงแล้ว ยังเป็นเพราะแนวรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้ไว้ใจไม่ได้อย่างชัดเจน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คืนนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ จะต้องขาดกองหลังอาชีพทีเดียวหลายคน ตัวเลือกตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กทั้ง ฟิล โจนส์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, คริส สมอลลิ่ง และ เอริก ไบยี่ ต่างมีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งหมด เหลือเพียง มาร์กอส โรโฮ ที่สภาพความฟิตก็ยังไม่เข้าที่นัก ที่พร้อมลงสนามตั้งแต่นาทีแรก

มีโอกาสที่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เนมานย่า มาติช จะต้องถูกถอยไปยืนเป็นกองหลังในระบบหลัง 3 เหมือนเมื่อวันเสาร์ แต่เราก็เห็นกันไปแล้วว่า การโดน เซาธ์แฮมป์ตัน นำก่อนถึง 2-0 ฟ้องชัดว่านั่นไม่ใช่ทางออกในการแก้ปัญหาแนวรับ

ไม่ใช่แค่ตำแหน่งเซนเตอร์ แต่ฟูลแบ็กอย่าง อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ ลุค ชอว์ ก็บาดเจ็บ และน่าจะไม่พร้อมเล่นเช่นกัน ส่วน แอชลี่ย์ ยัง ก็ดันมาติดโทษแบนในเกมนี้ซะอีก ทำให้ ดีโอโก้ ดาโลต์ แบ็กดาวรุ่งชาวโปรตุกีส น่าจะได้ลงตัวจริงในเกมลีกเป็นครั้งแรกในเกมสำคัญคืนนี้

น่าเป็นห่วงสำหรับแฟนผีแดงเหลือเกิน ที่แนวรับอยู่ในสภาพพิการ ในการเจอกับ อาร์เซน่อล ที่เกมรุกสุดอันตราย และยิงประตูได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีก รองจากจ่าฝูงอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงทีมเดียวเท่านั้น

 

ปืนใหญ่จะเทพเฉพาะครึ่งหลังอีกหรือไม่

น่าแปลกที่พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ผ่านมาแล้ว 14 นัด แต่ อาร์เซน่อล ยังไม่เคยจบครึ่งแรก ด้วยการมีสกอร์นำคู่แข่งได้สักครั้ง (จบครึ่งแรก โดนนำ 5 ครั้ง เสมอ 10 ครั้ง)

สถิติบอกว่า หากพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ แข่งกันเฉพาะ 45 นาทีแรก ทีมปืนใหญ่จะต้องอยู่ในโซนตกชั้น แต่กลับกัน หากแข่งเฉพาะครึ่งหลัง พวกเขาคือเต็งแชมป์ทีเดียว

12 นัดหลังสุดในเกมลีก ที่ อูไน เอเมรี่ พาทีมไม่แพ้เลยนั้น อาร์เซน่อล ได้ประตูในครึ่งหลังมากถึง 24 ประตู และฤดูกาลนี้ มีถึง 10 นัด ทีทีมปืนใหญ่ยิงประตูในครึ่งหลังได้มากกว่าคู่แข่ง

โดยเกมล่าสุดที่ อาร์เซน่อล เพิ่งเปิดบ้านแซงชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปแบบสุดมันส์ 4-2 พวกเขาก็โดนไก่เดือยทองนำก่อนในครึ่งแรก 1-2 แต่ก็รัวยิงถึง 3 ลูกในครึ่งหลัง บ่งบอกถึงความเทพในการแก้เกมของ เอเมรี่ ได้เป็นอย่างดี

 

เกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ อาร์เซน่อล จะฟาดแข้งกันในคืนวันพุธ (เช้าตรู่วันพฤหัสบดี) เวลา 03.00 น. ซึ่งแม้จะจบเอาเกือบเช้า แต่เชื่อว่าแฟนบอลตัวจริง ต้องยอมอดหลับอดนอนลุ้นกันแน่!!