I am Liverpool!! หงส์โคตรสู้ โดนสาลิกาตีเจ๊า 2 หน ยังคว้าชัย 3-2 “ซาลาห์” เจ็บ

I am Liverpool!! หงส์โคตรสู้ โดนสาลิกาตีเจ๊า 2 หน ยังคว้าชัย 3-2
I am Liverpool!! หงส์โคตรสู้ โดนสาลิกาตีเจ๊า 2 หน ยังคว้าชัย 3-2 "ซาลาห์" เจ็บ

ลิเวอร์พูล บุกชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-2 กลับไปนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

พรีเมียร์ลีก แมตช์วีก 37

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-3 ลิเวอร์พูล

สนาม : เซนต์ เจมส์​ พาร์ค

เกมคู่สำคัญ ซึ่งลงเตะเป็นคู่ดึกสุดของคืนวันเสาร์ ลิเวอร์พูล มีลุ้นทวงตำแหน่งจ่าฝูงคืนจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถ้าบุกชนะเกมนี้ได้ ส่วนทางด้าน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด รอดตกชั้นไปหลายสัปดาห์แล้ว แค่ลงเล่นให้ครบโปรแกรมเท่านั้น

ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือทีมสาลิกาดง ซึ่งจะได้เจอทีมเก่า จัดทัพในระบบ 5-4-1 วาง ซาโลมอน รอนดอน ค้ำหน้าเป้า โดยมี อาโยเซ่ เปเรซ และ คริสเตียน อัตซู เดินเกมริมเส้น

ขณะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่หงส์แดง เจอข่าวร้าย เมื่ออดใช้งาน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้นัดนี้ต้องส่ง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ลงยืนหน้าเป้าแทน

นาทีที่ 13 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว เมื่อมาได้เตะมุมฝั่งขวา แล้วเป็น เทรนท์​ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดเข้าไปให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โถมเข้าโหม่งโล่งๆ ส่งบอลจมตาข่ายเข้าไป

แต่นาทีที่ 20 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ตามตีเสมอเป็น 1-1 เมื่อครอสบอลจากฝั่งขวาข้ามฟากไปถึงเขตโทษฝั่งซ้าย แล้ว เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โหม่งสกัดไม่ดีไปเข้าทาง แม็ตต์ ริทชี่ ได้เอาบอลลง แล้วตั้งป้อมซัดเน้นๆ ไปติด อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่เจตนายกแขนขึ้นมาป้องกัน แต่บอลเข้าทาง คริสเตียน อัตซู ตวัดยิงซ้ำโล่งๆ ไม่พลาด ทำให้ทีมสาลิกาดงตีเสมอ และทำให้แบ็กขวาหงส์แดงรอดจากการโดนใบแดง

นาที 26 นิวคาสเซิ่ล เกือบจะพลิกแซงนำได้ เมื่อสาดบอลขึ้นหน้าแล้วกองหลังหงส์แดงโหม่งสกัดออกมาไม่พ้นอันตราย อาโยเซ่ เปเรซ วิ่งสปีดตามไปเอาบอล แล้วเดาะขึ้นมาก่อนตวัดยิงด้วยขวาในเขตโทษ บอลพุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

อย่างไรก็ตาม นาที 28 ลิเวอร์พูล แซงนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากลูกทุ่มฝั่งขวา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทุ่มให้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ หาเหลี่ยมตอกส้นคืนให้ เทรนท์ เปิดจากขวาเข้าไปหน้าประตูให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตวัดยิงตามน้ำเข้าไป เป็นประตูที่ 22 ของ ซาลาห์ ในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้แล้ว

นาที 32 ทีมหงส์แดงเกือบหนีห่างไปอีก จากการประสานงานกันได้สวยระหว่าง ซาดิโอ มาเน่ กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์​ เมื่อ มาเน่ ฝากบอลไว้กับ ซาลาห์ ก่อนที่ดาวเตะทีมชาติอียิปต์จะดึงจังหวะจ่ายทะลุช่องคืนให้ มาเน่ หลุดเดี่ยวไปซัดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ว่ายิงไปติด มาร์ติน ดูบราฟก้า ที่ออกมาปิดมุมได้ทัน

จบครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล ตามหลัง ลิเวอร์พูล 1-2

ครึ่งหลังเปิดฉากมาเพียง 10 นาที นิวคาสเซิ่ล ตามตีเสมออีกครั้งเป็น 2-2 จากจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ที่กองหลังลิเวอร์พูลโหม่งสกัดออกมาไม่ดีนัก ฆาเบียร์ มานกีโย่ จึงเติมขึ้นมาโหม่งตั้งกลับเข้าไปในเขตโทษ แล้ว ซาดิโอ มาเน่ กะจังหวะตัดบอลพลาด ทำให้บอลกระดอนพื้นเลยไปถึง ซาโลมอน รอนดอน วอลเลย์ด้วยซ้าย ส่งบอลพุ่งเข้าตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด

ช่วงนาที 72 ลิเวอร์พูล เจอข่าวร้าย เมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตัวรุกคนสำคัญของทีมบาดเจ็บที่ศีรษะจากการปะทะกับ มาร์ติน ดูบราฟก้า นายทวารของเจ้าถิ่นจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องส่ง ดิว็อค โอริกี้ ลงสนามแทน

อย่างไรก็ตาม ทีมหงส์แดงยังฮึดสู้ จนมาได้ประตูออกนำอีกครั้งเป็น 3-2 ในนาที 86 เมื่อมาได้ฟรีคิกทางฝั่งขวา เซอร์ดาน ชากิรี่ ตัวสำรอง เปิดโค้งเข้าไปหน้าประตูแล้วเป็น ดิว็อค โอริกี้ ตัวสำรองอีกรายขึ้นโหม่งเสียบตาข่ายเข้าไป

และนั่นกลายเป็นประตูชัยของ ลิเวอร์พูล ทำให้ทีมหงส์แดงแซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับขึ้นไปนำจ่าฝูงอีกครั้ง โดยทิ้งทีมเรือใบสีฟ้า 2 แต้ม ก่อนที่ แมนฯ ซิตี้ จะเปิดบ้านพบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในคืนวันจันทร์นี้

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (5-4-1) : มาร์ติน ดูบราฟก้า – ฆาเบียร์​ มานกีโย่, ฟาเบียน ชาร์ (โยชิโนริ มุโต้ น.90+1), จามาล ลาสเซลส์ (กัปตันทีม), พอล ดัมเม็ตต์, แม็ตต์ ริทชี่ – อาโยเซ่ เปเรซ, กี ซอง-ยอง, อิซัค เฮย์เด้น, คริสเตียน อัตซู – ซาโลมอน รอนดอน

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน (เจมส์ มิลเนอร์ น.84), เฟอร์จิล ฟาน ไดค์,​ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (กัปตันทีม), ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (เซอร์ดาน ชากิรี่ น.66) – โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ดิว็อค โอริกี้ น.73), แดเนียล สเตอร์ริดจ์, ซาดิโอ มาเน่

ผู้ตัดสิน : อันเดร มาร์ริเนอร์