ผีแดงห่วยไม่เลิก!! เจ๊าทีมบ๊วย ชวดตั๋ว UCL, เชลซีดุ อัดแตน 3-0 แซงไก่ขึ้นที่ 3

ผีแดงห่วยไม่เลิก!! เจ๊าทีมบ๊วย ชวดตั๋ว UCL, เชลซีดุ อัดแตน 3-0 แซงไก่ขึ้นที่ 3
ผีแดงห่วยไม่เลิก!! เจ๊าทีมบ๊วย ชวดตั๋ว UCL, เชลซีดุ อัดแตน 3-0 แซงไก่ขึ้นที่ 3

เชลซี ชนะ วัตฟอร์ด 3-0 ขึ้นสู่อันดับ 3 ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แค่บุกเสมอ ฮัดเดอร์สฟิลด์ 1-1 อดไปเล่น UCL แน่นอนแล้ว

พรีเมียร์ลีก แมตช์วีก 37

เชลซี 3-0 วัตฟอร์ด

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

เกมสำคัญหัวค่ำวันอาทิตย์ เชลซี ต้องการชัยชนะ เพื่อแซงหน้า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ส่วนทีมเยือน วัตฟอร์ด ไม่มีลุ้นอะไร แค่เล่นให้ครบตามโปรแกรมเท่านั้น โดยนัดนี้ เชลซี สวมชุดเหย้ารุ่นใหม่ ที่จะใช้ในฤดูกาลหน้าลงสนามด้วย

เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือเจ้าถิ่น ยังเน้นกับเกมนี้ แม้จะมีเกม ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ รออยู่ในช่วงกลางสัปดาห์ก็ตาม โดยส่ง เปโดร โรดริเกซ, กอนซาโล่ อิกวาอิน และ เอแด็น อาซาร์ ประสานงานกันในแดนหน้า

ทางด้าน ฆาบี กราเซีย กุนซือทีมเยือน ก็ยังส่งชุดที่ดีที่สุดลงเล่น วาง เคราร์ด เดวโลเฟว จับคู่กับ ทรอย ดีนี่ย์ ในแดนหน้า และยังมีกองกลางตัวหลักอย่าง โรเบร์โต้ เปเรย์ร่า และ อับดูลาย ดูกูเร่ ออกสตาร์ท

นาทีที่ 10 เชลซี ต้องเจอข่าวร้าย เมื่อ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางตัวสำคัญ บาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ต้องลงมาแทน

ครึ่งแรก ทั้งสองทีมไม่ค่อยมีจังหวะลุ้นจะแจ้งนัก จึงยังเสมอกัน 0-0 เมื่อเข้าช่วงพักครึ่ง

แต่ครึ่งหลังเปิดฉากมาแค่ 3 นาที เชลซี ขึ้นนำ 1-0 เมื่อมาได้เตะมุมฝั่งขวา แล้ว เอแด็น อาซาร์ เล่นชิ่งสั้นๆ กับเพื่อน ก่อนหาจังหวะครอสด้วยซ้ายไปเสาไกล แล้วเป็น รูเบน ลอฟตัส-ชีค โขกจ่อๆ เข้าไป

นาที 51 สกอร์ของ เชลซี ไหลไปเป็น 2-0 จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวา เอแด็น อาซาร์ เปิดไปหน้าประตูให้ ดาวิด ลุยซ์ โขกเหน่งๆ ตุงตาข่าย

นาที 75 เชลซี หนีห่างไปเป็น 3-0 เมื่อ เปโดร โรดริเกซ บรรจงไหลบอลทะลุช่องให้ กอนซาโล่ อิกวาอิน หลุดเข้าเขตโทษไปตวัดยิงตามน้ำ ส่งบอลข้ามตัว เบน ฟอสเตอร์ เข้าไปเป็นประตูปิดท้าย

จบเกม เชลซี ชนะ วัตฟอร์ด 3-0 ทำให้ทีมสิงโตน้ำเงินคราม ขยับแซง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ขึ้นไปรั้งอันดับ 3 โดยมีคะแนนมากกว่าทีมไก่เดือยทอง 1 แต้ม

 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า – เซซาร์​ อัซปิลิกวยต้า (กัปตันทีม), อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ดาวิด ลุยซ์ (แกรี่ เคฮิลล์ น.89), มาร์กอส อลอนโซ่ – เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (รูเบน ลอฟตัส-ชีค น.10), จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช – เปโดร โรดริเกซ, กอนซาโล่ อิกวาอิน (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.79), เอแด็น อาซาร์

วัตฟอร์ด (4-2-2-2) : เบน ฟอสเตอร์ – กีโก้ เฟเมเนีย, เอเดรียน มาริอัปป้า, เคร็ก แคธคาร์ท, โฮเซ่ โฮเลบาส – เนธาเนียล ชาโลบาห์ (ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ น.67), อับดูลาย ดูกูเร่ – วิลล์ ฮิวจ์ส, โรเบร์โต้ เปเรย์ร่า – เคราร์ด เดวโลเฟว (อิซัค ซัคเซสส์ น.83), ทรอย ดีนี่ย์ (กัปตันทีม) (อันเดร เกรย์ น.83)

ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์

___________________________________

ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 1-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สนาม : จอห์น สมิธส์ สเตเดี้ยม

เกมในบ้านนัดสุดท้ายของ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทีมบ๊วยที่ตกชั้นไปก่อนนานแล้ว พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 6 ที่ต้องชนะสถานเดียว หากยังต้องการรักษาความหวังลุ้นไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าต่อไป

โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมปีศาจแดง ขาดตัวหลักที่มีอาการบาดเจ็บหลายราย โดยเกมนี้ให้โอกาส อเล็กซิส ซานเชซ ลงตัวจริง ประสานงานกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในแนวรุก โดย ดาบิด เด เคอา ยังได้โอกาสลงเฝ้าเสาต่อไป แม้จะก่อความผิดพลาดบ่อยในช่วงหลัง

เกมผ่านไปแค่ 8 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว เมื่อกองหลังเจ้าถิ่นสกัดบอลพลาดไปเข้าทาง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เติมขึ้นมาฉกบอล แล้วหาเหลี่ยมซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเข้ากรอบแล้ว โยนาส ลอสเซิล กะจังหวะรับพลาด ส่งบอลทะลักเข้าตุงตาข่าย

จากนั้น จบครึ่งแรก ฮัดเดอร์สฟิลด์ ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1

ครึ่งหลังนาทีที่ 60 กลายเป็น ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ตามตีเสมอซะอย่างนั้น จากจังหวะที่โต้กลับเมื่อป้องกันลูกเตะมุมไว้ได้ แล้ว โยนาส ลอสเซิล นายประตูเปิดยาวขึ้นหน้าให้ อิซัค เอ็มเบนซ่า หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดลอดขา ดาบิด เด เคอา ตุงตาข่าย

ช่วงเวลาที่เหลือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสได้ประตูขึ้นนำอีกหลายครั้ง แต่ก็เจาะประตูไม่สำเร็จ จึงทำได้แค่เสมอกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 1-1 และพลาดโอกาสจบฤดูกาลใน 4 อันดับแรกแน่นอนแล้ว ต้องไปเล่นใน ยูโรปา ลีก ฤดูกาลหน้าแทน

 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ (4-3-3) : โยนาส ลอสเซิล – เอริค ดวร์ม, คริสโตเฟอร์ ชินด์เลอร์ (กัปตันทีม), เทเรนซ์ ค็องโกโล่, คริส เลิฟ – อารอน มอย, จูนินโญ่ บาคูน่า, โจนาธาน ฮ็อกก์ – อิซัค เอ็มเบนซ่า (อดาม่า ดิยาคาบี้ น.90+1), คาร์ลัน แกรนท์, อเล็กซ์​ พริตชาร์ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-3-1-2) : ดาบิด เด เคอา – แอชลี่ย์ ยัง (กัปตันทีม), วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ (ดีโอโก้ ดาโลต์ น.83), ฟิล โจนส์, ลุค ชอว์ – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เนมานย่า มาติช (อันเดร์ เอร์เรร่า น.53), ปอล ป็อกบา – ฆวน มาต้า – มาร์คัส แรชฟอร์ด, อเล็กซิส ซานเชซ (ทาฮิธ ชอง น.54)

ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน