เซราะกราวห้ามแพ้!! 5 ปัจจัยต้องดู บุรีรัมย์ เปิดบ้านบู๊ ชนบุค นัดสอง ACL2019

เซราะกราวห้ามแพ้!! 5 ปัจจัยต้องดู บุรีรัมย์ เปิดบ้านบู๊ ชนบุค นัดสอง ACL2019
เซราะกราวห้ามแพ้!! 5 ปัจจัยต้องดู บุรีรัมย์ เปิดบ้านบู๊ ชนบุค นัดสอง ACL2019

5 ปัจจัยทำไมต้องดู บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบ ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส นัดสอง ACL 2019

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตรียมลงเล่นศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2019 เป็นนัดที่ 2 ด้วยการเปิดบ้านรับ ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ทีมแกร่งจากเกาหลีใต้ ที่มีดีกรีเป็นแชมป์รายการนี้ 2 สมัย (2006, 2016)

จากผลนัดแรกที่ ทัพปราสาทสายฟ้า บุกแพ้ อูราวะ เรด ไดมอนด์ส ขาดลอย 0-3 ทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นในวันนี้นอกจากเก็บชัยให้ได้ หรืออย่างน้อยๆ ต้องมีแต้มเพื่อโอกาสในการลุ้นเข้ารอบต่อไป

และนี่คือ 5 ปัจจัยเด็ดที่แฟนบอลไทยต้องดูเกมถ้วยใหญ่ของเอเชียเย็นนี้ให้ได้!!

 

เพิ่งชนะในลีกทั้งคู่

แม้ผลงานในนัดแรกของ ACL 2019 จะต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่หากดูที่เกมลีกของทั้งสองทีมมีผลงานที่คล้ายคลึงกันอยู่เหมือนกัน

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพิ่งจะคว้าสามแต้มแรกในศึกไทยลีก 2019 ได้สำเร็จจากการชนะ พีที ประจวบ 2-0 ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังสองเกมแรกเสมอมาหมดเลย

เช่นเดียวกับ ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ที่เพิ่งจะคว้าชัยแรกในศึกเคลีก 2019 เหมือนกันด้วยการบุกถล่ม ซูวอน บลูวิงส์ 4-0 หลังเกมแรกเสมอ แดกู ไป 1-1

ทำให้ตอนนี้ทั้งสองทีมน่าจะอยู่ในช่วงที่มีความมั่นใจอีกครั้ง อยู่ที่ว่าเย็นวันนี้ใครจะพลาดน้อยกว่ากันก็มีโอกาสคว้าสามแต้มไปครองแน่ๆ

 

ทีมนี้เขี่ยบุรีรัมย์ร่วงปี 2018

หากใครจำได้ดี ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ทีมนี้แหละคือผู้ที่เขี่ย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ACL 2018 ที่ผ่านมานี้เอง

ย้อนกลับไปในปีที่แล้ว ทัพปราสาทสายฟ้า ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบแบ่งกลุ่ม ทะลุเข้าสู่รอบน็อกเอาท์เป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์สโมสร

แถมในเลกแรกก็โชว์ฟอร์มเทพเฉือนคว้าชัยไปได้ 3-2 (โดนยิงลูกที่สองช่วงทดเจ็บ) ก่อนบุกไปพ่ายในเลกสอง 0-2 ร่วงตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

และหากย้อนกลับไปนานกว่านั้นอีกใน ACL 2012 ทั้งคู่ก็เคยอยู่ร่วมสายเดียวกันมาแล้ว และก็เป็น ชนบุค ที่เอาชนะได้ได้เหย้า และเยือน  ก่อนจะกอดคอตกรอบไปด้วยกันทั้งคู่

หากจะบอกว่านี่คือทีมคู่แค้นในบอลเอเชียของ บุรีรัมย์ ก็คงไม่ผิดนัก และเย็นวันนี้แหละน่าดูเหลือเกินว่าจะเป็นการล้างแค้น หรือย้ำแค้นกันแน่??

 

ดวลทีมเคลีกสถิติไม่ค่อยดี

นับตั้งแต่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้ามาเล่น ACL รอบแบ่งกลุ่มได้ 6 ครั้งที่ผ่านมา พวกเขามีโอกาสพบทีมจากเกาหลีใต้มาแล้วถึง 14 นัด

แต่สถิติต้องบอกเลยว่าน่าเป็นห่วงพอสมควรเพราะ ทัพปราสาทสายฟ้า เอาชนะไปได้แค่ 3 นัดเท่านั้น และแพ้ไปถึง 8 นัดด้วยกัน (เสมอ 3 นัด)

อย่างไรก็ตามแม้สถิติจะเป็นรองแต่จากการดวลกับทีมเคลีก 4 นัดหลังสุด บุรีรัมย์ มีผลงานที่ไม่เลวทีเดียว ชนะ 2 แพ้ 2

โดยเฉพาะการพบ ชนบุค เมื่อซีซั่นที่แล้วในรอบ 16 ทีมแม้จะแพ้ไปในสกอร์รวม แต่พวกเขาก็สามารถคว้าชัยที่ ช้าง อารีน่า ได้เหมือนกัน

 

ระบบเดิมไม่เวิร์คแน่

ย้อนกลับไปในเกมนัดแรกที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกไปแพ้ อูราวะ เรด ไดมอนด์ส 0-3 โบซิดาร์ บันโดวิช เลือกใช้ระบบยืนต่ำ 5-3-2 แบบที่แทบไม่เคยเห็นพวกเขาใช้มาก่อน

ซึ่งตลอดทั้งครึ่งแรกแทบไม่เห็นการเติมของวิงแบ็กอย่าง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และ กรกช วิริยอุมศิริ

โดยเฉพาะแดนกลางที่ให้ รัตนากร ใหม่คามิ คอยคุมเกมร่วมกับ ศศลักษณ์ ไหประโคน และ ศุภชัย ใจเด็ด และให้ สุภโชค สารชาติ กับ เปโดร จูเนียร์ ค้ำในตำแหน่งกองหน้าซึ่งต้องบอกเลยว่าไม่เวิร์ค

เมื่อพวกเขาเลือกรับต่ำ แต่ดันไม่มีการไล่เพรสซิ่งแดนบนทำให้คู่แข่งมีพื้นที่เล่นเกมรุกมากเหลือเกิน และเปรียบเสมือนการเล่นรอโดน จนในที่สุดก็มาโดนรัวยับในครึ่งหลัง

กลับกันเมื่อ บุรีรัมย์ กลับมาเล่นเกมรุกแบบถนัดก็ทำให้มีโอกาสยิง อูราวะ ขึ้นเยอะเหมือนกัน

และแน่นอนเกมวันนี้ขออย่างเดียวอย่าเล่นระบบ และแท็กติกเดิม ยิ่งตอนนี้ต้องการแต้มด้วย บางทีการเล่นในแผนที่ถนัดน่าจะทำให้นักเตะในทีมทำผลงานได้ดีเหมือนเดิมไม่ยาก

 

แพ้ทีแทบบ๊ายบาย

หลังจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พลาดท่าแพ้ในเกมนัดแรกต้องบอกเลยว่าตอนนี้อยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วงพอสมควร

เพราะหากเกมนี้พวกเขาแพ้อีก แล้วอีกคู่เป็น อูราวะ เรด ไดมอนด์ เอาชนะ ปักกิ่ง กั๋วอัน ไปได้ จะทำให้แชมป์ไทยลีกจะมีแต้มตามอันดับเข้ารอบไปถึง 6 แต้มเต็มๆ

โดยครั้งเดียวที่ บุรีรัมย์ ประเดิม ACL แพ้ 2 นัดติดต้องย้อนกลับไปในปี 2016 ซึ่งตอนนั้นถือเป็นปีที่พวกเขามีผลงานแย่สุดตั้งแต่เล่นถ้วยใหญ่ของเอเชียมา หลังเก็บไปเพียงแต้มเดียวจากการลงเล่น 6 นัดตกรอบแรกไปแบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

กลับมาในปี 2019 หาก ทัพปราสาทสายฟ้า มีแต้มในเกมวันนี้ก็จะทำให้โอกาสเข้ารอบของทีมจากไทยดูสดใสขึ้นเยอะแน่นอน

ต้องบอกเลยว่าหาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังอยากผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์เกมวันนี้ต้องห้ามพลาดแพ้เด็ดขาด และที่น่าสนใจคือผลงานของพวกเขาในปีนี้มีผลต่อโควตาลุย ACL ของไทยซะด้วย

เพราะฉะนั้นหากคุณคือแฟนบอลไทยยังไงวันนี้ก็ต้องเชียร์ ทัพปราสาทสายฟ้า อย่างสุดใจแน่นอน!!