5 ปัจจัยชี้ชัด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด น่าบุกชนะ การท่าเรือ เอฟซี ในเกมไทยลีก 2018 คืนนี้
ศึกไทยลีก 2018 เดินทางมาถึงนัดที่ 26 กันแล้ว และที่สำคัญนี่จะเป็นนัดสุดท้ายก่อนพักเบรกให้ ทีมชาติไทย ไปลุยเอเชียนเกมส์ ที่อินโดนีเซีย ราวๆ 1 เดือนเลยทีเดียว
แน่นอนว่าบิ๊กแมตช์สัปดาห์นี้อยู่ที่ การท่าเรือ เอฟซี เปิดบ้านพบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งจะเป็นการพบกันครั้งที่สองในรอบ 5 วันอีกด้วย
และนี่คือ 5 ปัจจัยชี้ชัดว่าเกมนี้ ทัพปราสาทสายฟ้า น่าคว้าสามแต้มเหลือเกิน!!
เจ้าท่าไร้ชัย 4 ปี
จากการคุ้ยสถิติการพบกันทั้งหมด 17 ครั้งรวมทุกรายการ บุรีรัมย์ เหนือกว่าเพียบ หลังคว้าชัยไปถึง 11 นัด เสมอไป 3 และแพ้แค่ 3 นัดเท่านั้นเอง ซึ่งการพบกัน 3 ครั้งหลังสุดเรียกได้ว่า เซราะกราว คว้าชัยรวด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทัพปราสายสายฟ้า ก็เพิ่งบุกมาถล่มถึงถิ่น 3-1 เขี่ย การท่าเรือ ตกรอบ ช้าง เอฟเอ คัพ ไปอย่างช้ำใจ
และที่มากไปกว่านั้นคือชัยชนะครั้งสุดท้ายของ การท่าเรือ เอฟซี ต้องย้อนกลับไปนานกว่า 4 ปี ตั้งแต่สมัยไทยลีก 2014 เมื่อ สิงห์ท่าเรือ (ในสมัยนั้น) เปิดบ้านเฉือนไป 1-0
ถึงตอนนี้ ลูกทีมมาดามแป้ง ไม่สามารถคว้าชัยเมื่อดวลกับ บุรีรัมย์ ได้เลยตลอด 7 เกมหลังสุดที่พบกัน ส่วนเกมวันนี้พวกเขาจะล้างอาถรรพ์ได้หรือไม่รอชมกัน!!
เซราะกราวแรงจัด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยู่ในช่วงที่กำลังคึกสุดๆ หลังรวมทุกรายการชนะมา 11 นัดติดต่อกันแล้ว พร้อมมีลุ้นแชมป์ครบทั้งไทยลีก, โตโยต้า ลีกคัพ และ ช้าง เอฟเอ คัพ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟอร์มของ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ที่ยิงไม่พักซัดในลีก 24 เม็ด นำดาวซัลโวอยู่แบบหายห่วง
นอกจากนี้แข้งใหม่อย่าง ออสวัลโด้ ก็เริ่มดีวันดีคืน เช่นเดียวกับตัวหลักคนอื่นในทีมก็ฟอร์มไม่มีตก
แถมตัวสำรองก็ยังขึ้นมาทดแทนกันได้อีกต่างหาก ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างตอนนี้หากจะบอกว่า ทัพปราสาทสายฟ้า คือทีมที่ดีที่สุดของไทยในเวลานี้ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกนัก
ท่าเรือมีปัญหานักเตะ
เซอร์เด็จ ต้องปวดหัวอีกแล้วเมื่อเกมกลางสัปดาห์ เซร์คิโอ ซัวเรซ ยอดแนวรุกตัวเก่งของทีมมีอาการบาดเจ็บจนเล่นได้เพียง 45 นาทีเท่านั้น
เพราะต้องยอมรับเลยว่า ซัวเรซ คือนักเตะความหวังของทีมในปีนี้เหลือเกินดูจากสถิติลงสนามไทยลีก 17 นัดซัดไป 14 ลูก จากการลงช่วยทีม 12 นัด ก็พอจะการันตีความยอดเยี่ยมได้แล้ว
ไหนจะ ปัณณ์พันธุ์พงษ์ ปิ่นกอง ที่เจ็บแบบหวาดเสียวในช่วงท้ายเกมที่ต้องรอดูอาการกันต่อไปว่าจะหนักแค่ไหน
ต่างกับทีมเยือนที่เรียกง่ายๆ ว่าเต็มสูบ จะขาดแค่ ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่บาดเจ็บอยู่คนเดียวเท่านั้น แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ลงแทนได้
เอาแค่ตอนฟูลทีมหากวัดกันแล้ว การท่าเรือ ก็น่าจะเป็นรองอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ยิ่งไปกันใหญ่ และนี่น่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ ทัพปราสาทสายฟ้า ดูเหนือกว่าอยู่พอสมควร