เกมนี้มีแต่ได้!! 5 เรื่องน่าดู ทีมชาติไทย ประเดิมคิงส์คัพบู๊ กาบอง

เกมนี้มีแต่ได้!! 5 เรื่องน่าดู ทีมชาติไทย ประเดิมคิงส์คัพบู๊ กาบอง
เกมนี้มีแต่ได้!! 5 เรื่องน่าดู ทีมชาติไทย ประเดิมคิงส์คัพบู๊ กาบอง

5 เรื่องน่าดู ทีมชาติไทย ประเดิมบู๊ กาบอง ในศึกคิงส์คัพ ครั้งที่ 46

ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 เตรียมลงประเดิมสนามกันแล้วในรอบรองชนะเลิศ เย็นวันนี้โดยคู่แรกจะเป็น สโลวาเกีย พบ ยูเออี เวลา 16.30 น.

ก่อนที่เวลา 19.30 น. จะเป็นเวลาที่แฟนบอลไทยทุกคนรอคอยเมื่อ ทีมชาติไทย จะลงเล่นพบยอดทีมจากทวีปแอฟริกาอย่าง กาบอง

และนี่คือ 5 เรื่องสุดเด็ดที่น่าจะทำให้พวกคุณอยากดูเกมนัดนี้มากยิ่งขึ้น!!

 

1. ช้างศึกประเดิม 2018!!

เกมนี้นี้ถือว่าเป็นเป็นนัดประเดิมปี 2018 ของ ทีมชาติไทย หลังเกมระดับนานาชาติล่าสุดต้องย้อนกลับไปราว 5 เดือนที่แล้วนู้นเลย กับการเปิดบ้านชนะ เคนยา ในนัดอุ่นเครื่องที่เปิดบ้านชนะไป 1-0

ซึ่งแน่นอนว่าเกมแรกของปีแบบนี้ แฟนบอลไทยต่างหวังให้เริ่มต้นด้วยชัยชนะกันทุกคน จุดนี้ก็อยู่ที่ว่า มิโลวาน ราเยวัช จะเลือกแท็กติกไหนพบกับ กาบอง

ที่สำคัญ ทัพช้างศึก ไม่แพ้ใครมาถึง 5 เกมติดต่อกันแล้ว ในรายการคิงส์คัพ และเรามารอลุ้นกันว่าคืนนี้ ไทยจะประเดิมปี 2018 ด้วยผลการแข่งขันเช่นไร??

 

2. ไร้โอบา แต่มีเลอมิน่า!!

น่าเสียดายจริงๆที่ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ดาวยิงคนดังจาก อาร์เซน่อล ไม่สามารถร่วมทีม กาบอง มาได้ หลังคุณยายเสียชีวิตกะทันหัน ทำให้เจ้าตัวจำเป็นต้องขอถอนตัวออกจากทีมชุดมาคิงส์คัพก่อนแข่งเพียงวันเดียวเท่านั้น

แต่เอาเข้าจริง ทีมเสือดำชุดนี้ยังมีแข้งระดับชั้นนำบนลีกดังยุโรปอย่าง มาริโอ เลอมิน่า มิดฟิลด์จาก เซาธ์แธมป์ตัน ซึ่งเคยได้แชมป์ เซเรีย อา 2 สมัยกับ ยูเวนตุส รวมทั้ง ดิดิเย่ร์ เอ็นด็อง กองกลางจาก วัตฟอร์ด มาร่วมทัพด้วย

แม้ กาบอง ชุดนี้จะยังไม่ใช่ชุดใหญ่แบบเต็มสูบนัก แต่ด้วยคุณภาพของทีมตอนนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นทีมระดับต้นๆ ของแอฟริกาอีกทีม

และที่สำคัญการได้ดวลกับนักเตะร่างใหญ่ และแข็งแกร่งแนวนี้ รับรองว่าเป็นประโยชน์กับ ทีมชาติไทย อย่างแน่นอน

 

3. ชนะทีแรงกิ้งพุ่ง!!

จากผลการจัดอันดับแรงกิ้งฟีฟ่าล่าสุด ทีมชาติไทย ยังคงอยู่ที่ 129 ของโลกมาติดต่อกัน 3 เดือน เช่นเดียวกับ กาบอง ที่ยังรั้งที่ 95 ของโลกเท่าเดิมเป๊ะ

ทำให้เกมนี้ซึ่งถูกจัดให้เป็นเกมระดับเอคลาส แถมอยู่ในช่วงฟีฟ่าเดย์ จึงสำคัญเหลือเกิน เพราะหาก ทัพช้างศึก สามารถเอาชนะทีมเยือนได้น่าจะทำให้ได้คะแนนเพิ่มพอสมควรเลยทีเดียว

และจุดนี้เองที่จะเป็นตัวช่วยให้แรงกิ้งฟีฟ่าของ ทีมชาติไทย ขยับสักที เพราะอันดับโลกจะมีผลมากทีเดียวกับการจับสลากแบ่งสาย เอเชียนคัพ 2019 ในช่วงต้นปีหน้าด้วย

 

4. แกนหลักครบหนแรกของราเยวัช

หากลองดูรายชื่อจริงๆ แล้ว นี่จะเป็นครั้งแรกที่ มิโลวาน ราเยวัช จะได้ใช้นักเตะแกนหลักที่ไปค้าแข้งต่างแดนอย่าง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน แบบพร้อมเพรียงกัน

เพราะนับตั้งแต่กุนซือชาวเซอร์เบียย้ายมาคุม ทัพช้างศึก แข้งหลักเหล่านี้ก็ผลัดกันเจ็บบ้าง ถอนตัวบ้างจนไม่เคยได้เต็มสูบเลยสักครั้งเดียว

ทำให้น่าสนใจทีเดียวว่าเมื่อ ราเยวัช มีอาวุธให้เลือกใช้แบบครบมือ แน่นแทบทุกตำแหน่งขนาดนี้ เขาจะงัดแผนไหนมาจัดการ กาบอง

แต่สุดท้ายก็น่าเสียดายที่ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ไม่เช่นนั้นเราน่าจะได้เห็น ทีมชาติไทย แบบฟูลทีมจริงๆ สักที

 

5. ลุ้นแข้งหน้าใหม่เปิดซิง

จากการประกาศรายชื่อ 23 นักเตะทีมชาติไทยชุดนี้ ปรากฏว่ามีชื่อของหน้าใหม่ที่ไม่เคยร่วมงานกับ มิโลวาน ราเยวัช ติดเข้ามา 3 คน ประกอบไปด้วย ฉัตรชัย บุตรพรม, ชินภัทร์ ลีเอาะ และ นิติพงษ์ เสลานนท์

โดยเฉพาะสองรายหลังนี่คือการติดทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในชีวิตด้วย โดยที่ผ่านมา ราเยวัช เปิดโอกาสให้นักเตะหน้าใหม่อย่าง สุภโชค สารชาติ, เควิน ดีรมรัมย์ หรือแม้กระทั่ง สุพจน์ จดจำ ได้ลงรับใช้ชาติไปแล้วในยุคของเขา

และดูเหมือนว่าเกมนัดนี้ นิติพงษ์ ก็มีโอกาสเปิดซิงก่อนใครเพื่อน หลังตำแหน่งแบ็กขวาตอนนี้ขาดตัวหลักไปเพียบ

 

ถือว่าเป็นการเปิดศักราชใหม่ของ ทีมชาติไทย ที่น่าติดตามเหลือเกิน หลังได้ดวลกับยอดทีมจากแอฟริกาอย่าง กาบอง

และคืนนี้เรามาตามลุ้นกันว่า ทัพช้างศึก จะสามารถทะลุเข้าไปป้องกันแชมป์คิงส์คัพ เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันได้หรือไม่??