สิงโตแผ่วปลาย!! อัศวินสีส้ม ต่อเวลาแซงอัด 3-1 ลิ่วชิง เนชั่นส์ ลีก ชนฝอยทอง

สิงโตแผ่วปลาย!! อัศวินสีส้ม ต่อเวลาแซงอัด 3-1 ลิ่วชิง เนชั่นส์ ลีก ชนฝอยทอง
สิงโตแผ่วปลาย!! อัศวินสีส้ม ต่อเวลาแซงอัด 3-1 ลิ่วชิง เนชั่นส์ ลีก ชนฝอยทอง

ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ต่อเวลาชนะทีมชาติอังกฤษ 3-1 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ

เนเธอร์แลนด์ 3-1 อังกฤษ
(เสมอกันใน 90 นาที 1-1)

สนาม :  เอสตาดิโอ ดี.อัลฟองโซ่ เอนริเกส (กิมาไรส์, โปรตุเกส)

เกมรอบตัดเชือกคู่บิ๊กแมตช์ของศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เพื่อหาผู้ชนะเข้าไปชิงชนะเลิศกับเจ้าภาพอย่าง โปรตุเกส เป็นการเจอกันระหว่าง เนเธอร์แลนด์ ที่สามารถปราบทั้งแชมป์โลก 2 หนหลังสุดอย่าง ฝรั่งเศส และ เยอรมนี ในรอบแบ่งกลุ่ม พบกับ อังกฤษ ทีมอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งกำลังเน้นสร้างทีมชุดใหม่ที่เน้นแข้งพลังหนุ่ม

โรนัลด์ คูมัน กุนซือทีมอัศวินสีส้มจัดทีมในระบบ 4-3-3 นำมาโดย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังตัวเก่งกัปตันทีมจาก ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์ยุโรปทีมล่าสุด ขณะที่แนวรุกวาง เมมฟิส เดอ ปาย รับบทกองหน้าตัวเป้า

ทางด้าน แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมสิงโตคำราม ใช้หมาก 4-3-3 ด้วยเช่นกัน เกมนี้ยังไม่ใช้ แฮร์รี่ เคน หัวหอกกัปตันทีมที่ยังไม่ฟิตสมบูรณ์ โดยให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยืนกองหน้าตัวเป้าแทน ขณะที่ปลอกแขนกัปตัน ตกเป็นของ ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกตัวจี๊ดจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้

นาทีที่ 30 อังกฤษ มาได้จุดโทษ เมื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด สปีดเข้าไปในเขตโทษ แล้วโดน มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ ที่ถึงบอลช้ากว่าเตะล้มลง ก่อนที่ แรชฟอร์ด จะลุกขึ้นมาสังหารเองเข้าไปไม่พลาด พาสิงโตคำรามขึ้นนำ 1-0 ในนาที 32

จบครึ่งแรก เนเธอร์แลนด์ จึงตามหลัง อังกฤษ อยู่ 0-1

ครึ่งหลัง นาที 54 อังกฤษ น่าได้ประตูที่ 2 สุดๆ เมื่อ ฟาเบียน เดลฟ์ บรรจงครอสจากฝั่งซ้ายไปหน้าประตูให้ จาดอน ซานโช่ เทกตัวโขกเหน่งๆ แต่ไปตรงตัว ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น อย่างน่าเสียดาย

ถัดจากนั้นไม่ถึงนาที เนเธอร์แลนด์ มีโอกาสบ้าง เมื่อ ไคล์ วอล์คเกอร์ เล่นยาก พยายามจะกระชากหนี เมมฟิส เดอ ปาย บริเวณหน้าเขตโทษ แล้วโดนแย่งบอลไปได้ แต่ว่า เมมฟิส ซัดไปติดเซฟของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ทำให้ทีมกังหันลมยังตีเสมอไม่สำเร็จ

นาที 73 เนเธอร์แลนด์ ตีเสมอเป็น 1-1 จนได้ เมื่อมาได้เตะมุมฝั่งขวา แล้วเป็น เมมฟิส เดอปาย ที่เปิดไปที่เสาแรกให้ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ โถมเข้าโขกกดจมตาข่ายเข้าไป

นาที 84 อังกฤษ สามารถส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้ เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิง ไขว์คืนหลังให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายทะลุช่องให้ เจสซี่ ลินการ์ด ตัวสำรองหลุดเดี่ยวไปแปตุงตาข่าย แต่ถูกจับล้ำหน้าซะก่อน ทีมสิงโตคำรามจึงอดได้ประตู

จบ 90 นาที สกอร์ยังเสมอกัน 1-1 จึงต้องต่อเวลาพิเศษกันอีก 30 นาที

ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 97 เนเธอร์แลนด์ แซงนำเป็น 2-1 เมื่อ จอห์น สโตนส์ ครองบอลหน้าประตูตัวเองนานเกินไป จึงโดน เมมฟิส เดอปาย ใช้ความเร็วฉกบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปซัดในเขตโทษ แม้ว่า จอร์แดน พิคฟอร์ด จะล้มตัวเซฟได้ แต่บอลยังเข้าทาง ควินซี่ โพรเมส ปรี่เข้ายิงซ้ำจ่อๆ โดยจังหวะสุดท้าย บอลไปโดน ไคล์ วอล์คเกอร์ เข้าประตูไป

ครึ่งหลังของช่วงต่อเวลา นาที 114 เนเธอร์แลนด์ มาได้ประตูย้ำชัยไปอีกจาก ควินซี่ โพรเมส ยิงเข้าไปง่ายๆ ทำให้จบเกม ทีมอัศวินสีส้มชนะไป 3-1 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ โปรตุเกส คืนวันอาทิตย์นี้

 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เนเธอร์แลนด์ (4-3-3) : ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น – เดนเซล ดัมฟรีส์, มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (กัปตันทีม), ดาลี่ย์ บลินด์ – มาร์เท่น เดอ รอน (ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค น.68), เฟรงกี้ เดอ ยอง (เควิน สตรอทมัน น.114), จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม – สตีเว่น เบิร์กไวจ์น (ดาวี่ พร็อปเปอร์ น.91), เมมฟิส เดอปาย, ไรอัน บาเบิล (ควินซี่ โพรเมส น.68)

อังกฤษ​ (4-3-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, เบน ชิลเวลล์ – เดคแลน ไรซ์ (เดเล่ อัลลี่ น.106), ฟาเบียน เดลฟ์ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.77), รอสส์ บาร์คลี่ย์ – จาดอน ซานโช่ (เจสซี่ ลินการ์ด น.61), มาร์คัส แรชฟอร์ด (แฮร์รี่ เคน น.46), ราฮีม สเตอร์ลิง (กัปตันทีม)

ผู้ตัดสิน : เกลม็องต์ ตูร์กแป็ง (ฝรั่งเศส)