9 ประเด็นไฮไลท์ 3 บิ๊กแมตช์ศึกไทยลีก 2018 ประจำนัดที่ 11
ศึกไทยลีก 2018 กลับมาลงสนามกันอีกครั้งเป็นนัดที่ 11 หลังพักเบรกให้ช่วงสงกรานต์ไปราวๆ 1 สัปดาห์
ที่น่าสนใจคือสัปดาห์นี้มีบิ๊กแมตช์ใหญ่ถึง 3 คู่ 3 วัน ดูกันยาวๆ ตั้งแต่คืนวันศุกร์ จนถึงวันอาทิตย์เลยทีเดียว
และนี่คือ 9 ประเด็นที่น่าสนใจเกมยักษ์ใหญ่บู๊กัน รับรองว่ามันส์แน่นอน!!
บางกอกกล๊าส เอฟซี พบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
วันที่ 20 เมษายน 2018 เวลา 20.00 น.
แข้งไทยบียูกำลังฮอต
นักเตะไทยเวลานี้คงไม่มีใครร้อนแรงไปกว่า สุมัญญา ปุริสาย ที่ซัดให้ แข้งเทพ ไปแล้ว 6 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ แถมมีทีเด็ดฟรีคิกไปแล้วอีก 2 เม็ดด้วย ทั้งที่เล่นตำแหน่งกองกลาง
นอกจากนั้น สรรวัชญ์ เดชมิตร ก็กำลังกลับสู่ช่วงมั่นใจอีกครั้งหลังเพิ่งจัดไป 2 แอสซิสต์ในเกมล่าสุดที่เปิดบ้านชนะ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 2-0
เช่นเดียวกับ ธีรเทพ วิโนทัย กองหน้าจอมเก๋าที่ปีนี้ยึดตัวหลักให้กับทีมอย่างต่อเนื่องก็ยิงไป 1 จ่ายไป 2 แล้วด้วย
ต่างกับ บางกอกกล๊าส ที่ใช้เงินมากถึง 30 ล้านบาทกระชาก ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มาเสริมแดนกลางแต่เหมือนพวกเขาจะใช้งานไม่ตรงจุดมากนัก ทำให้ เจ้านิว ยังไม่อยู่ในฟอร์มที่พีคเหมือนเดิม
แถมล่าสุดมีข่าวว่า แมตต์ สมิธ, โตติ และ ฐิติพันธ์ ยังต้องรอเช็คอาการบาดเจ็บก่อนลงสนามด้วย
บียูกำลังคัมแบ็ก
เป็นการโคจรมาพบกันในช่วงเวลาที่ดีสำหรับ แบงค็อก จริงๆ หลังพวกเขาชนะมา 2 เกมติดต่อกัน พร้อมขึ้นไปรั้งที่ 3 ของตารางแล้ว
ต่างกับเจ้าถิ่น บางกอกกล๊าส ที่ยังคงรักษาฟอร์มให้คงเส้นคงวาไม่ได้เลยหลัง 5 นัดหลัง ชนะ 1 แพ้ 2 เสมอ 2 จนค่อยๆ หล่นกลับไปอยู่ที่ 13 ของตาราง ห่างโซนตกชั้นแค่ 2 แต้มแล้ว
แม้ดูหลายๆ อย่าง กระต่ายแก้ว จะเป็นรอง แข้งเทพ มากมาย แต่ต้องไม่ลืมว่า เจ้าบ้านก็เคยล้ม การท่าเรือ เอฟซี ที่ฟอร์มแรงๆ สุดๆ ในช่วงต้นซีซั่นมาแล้ว ที่ ลีโอ สเตเดี้ยม แห่งนี้
บีจีแพ้ในบ้านครั้งเดียว
จากสถิติการพบกันของทั้งสองทีมบนเวทีไทยลีก 14 ครั้ง ถือว่าสูสีทีเดียวเพราะ บางกอกกล๊าส ชนะไป 6 ครั้ง ส่วน แบงค็อก คว้าชัยไป 5 ครั้ง และลงเอยด้วยการเสมอกันไป 3 ครั้ง
แต่ที่น่าสนใจคือ กระต่ายแก้ว เคยแพ้คาบ้านต่อแข้งเทพไปเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้นในปี 2016 จากการยิงของ เจย์ซี จอห์น ที่ตอนนี้ย้ายไปอยู่กับ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี แล้ว
และเมื่อดูจากผลการแข่งขันทั้งหมดแล้วมีถึง 9 ครั้ง ที่ทีมที่เล่นเป็นเจ้าบ้าน จะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะได้ ทำให้เกมนี้ไม่ง่ายเหมือนกันที่ แข้งเทพ จะบุกคว้าสามแต้มกลับไปง่ายๆ
ชลบุรี เอฟซี พบ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
วันที่ 21 เมษายน 2018 เวลา 19.00 น.
เมืองทองไร้พ่าย 5 นัด ตั้งแต่ “โค้ชใหม่” คุม
กลับเจ้าสู่ช่วงที่มีความมั่นใจอีกครั้งแล้วสำหรับ เมืองทอง หลังพวกเขาไม่แพ้ใครติดต่อกัน 5 เกมแล้วนับตั้งแต่บุกพ่าย พีที ปะจวบ เอฟซี 1-6 ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ที่สำคัญการคว้า 11 คะแนนจาก 5 นัด ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชใหม่” สันติ ไชยเผือก ทำให้ กิเลนผยอง ขยับจากกลางตารางขึ้นมาติดท็อป 4 ได้สองสัปดาห์แล้ว
ดูเหมือนว่า เมืองทองฯ ตอนนี้จะลงตัวขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเพิ่งสะดุดเสมอ สุพรรณบุรี ไป แต่เมื่อดูผลงานโดยรวมช่วงหลังแล้ว บอกเลยว่ากิเลนกำลังคัมแบ็ก!!
ฉลามชลยังน่าห่วง
ชลบุรี เอฟซี ยังคงฟอร์มแกว่งอย่างต่อเนื่อง แม้จะเปลี่ยนโค้ชใหม่แล้วก็ตาม หลังล่าสุดการบุกแพ้ พัทยา ยูไนเต็ด ในศึกดาร์บี้แมตช์เมืองชล ทำให้พวกเขา ชนะ-แพ้ สลับๆ กัน 4 นัดติดต่อกันแล้ว
ที่สำคัญแนวรุกปีนี้ก็ดูจะไม่ค่อยเด็ดเท่าไรด้วย หลังยิงไปเพียงแค่ 9 ประตู มากกว่าแค่ แอร์ฟอร์ซ (6 ประตู) และ ราชนาวี (5 ประตู) เพียง 2 ทีมเท่านั้น
แถมนัดนี้ต้องเจอศึกหนักในเกม “เอลกลาซิโก้เมืองไทย” ด้วย แม้จะเล่นในบ้านแต่บอกเลยว่า หากดูจากฟอร์มตอนนี้ ฉลามชลรอดยากเหลือเกิน
เฮแบร์ตี้คือทีเด็ด
เฮแบร์ตี้ แฟร์นันเดส กลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และน่ากลัวอีกครั้งหลังซัดประตูมาติดต่อกัน 5 นัด รวม 6 ประตู 3 แอสซิสต์ ในช่วงดังกล่าว
แถมลูกฟรีคิกทีเด็ด ก็กลับมาแผลงฤทธิ์อีกครั้งถึง 2 เม็ดแล้ว บอกเลยว่าตอนนี้ ดาวยิงแซมบ้ารายนี้คือตัวรุกที่อันตรายที่สุดของ เมืองทอง อย่างเต็มตัว
บวกกับ ทริสตอง โด ที่ปัจจุบันถูกดันจากแบ็กขวาขึ้นมาเล่นตัวรุก จนยิงให้ทีมไปแล้ว 3 ประตู มากที่สุดในการเล่นไทยลีกของตัวเขา เทียบเท่าปี 2017 จึงยิ่งทำให้แนวรุกทีมเยือน ยิ่งน่ากลัวมากขึ้นไปอีก
หาก ฉลามชล ไม่สามารถเล่นเกมรับได้แบบท็อปฟอร์มในเกมนี้ได้ บอกเลยมีโอกาสสูงที่จะไร้แต้มเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
วันที่ 22 เมษายน 2018 เวลา 18.00 น.