หนึ่งในทีมที่น่าจับตามองที่สุดในประเทศ ณ ขณะนี้ คือ พีทีที ระยอง เจ้าของสถิติยังไม่แพ้ใครนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล
ศึก เอ็ม 150 แชมเปี้ยนชิพ 2017 ที่เปิดฉากมาแล้ว 13 นัด แม้ว่าช่องว่างระหว่างทีมในกลุ่มลุ้นเลื่อนชั้นจะยังไม่หากนัก แต่จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า มีอยู่ทีมหนึ่งที่ผลงานโดดเด่นเสมอต้นเสมอปลายมากกว่าใครเพื่อน
“ทีมนี้ต้องตาม” ที่เราขอยกพื้นที่ให้ในครั้งนี้ ได้แก่ทัพ “พลังเพลิง” พีทีที ระยอง ที่รั้งจ่าฝูงมานานหลายสัปดาห์ พร้อมกับครองสถิติสุดเทพ ยังไม่แพ้ใครเลย ตั้งแต่เปิดฤดูกาล!!
จ่อรีเทิร์นไทยลีก ชี้ผลงานออกสตาร์ท เทียบเท่าปีที่เลื่อนชั้น ต้องบอกเลยว่า นับตั้งแต่ตกชั้นจากไทยลีกเมื่อปี 2014 นี่คือปีที่ พีทีที ระยอง ออกสตาร์ทด้วยฟอร์มร้อนแรงที่สุดเลยทีเดียว
หนสุดท้ายที่พลพรรคพลังเพลิง แพ้ใครไม่เป็นในการออกสตาร์ท 13 นัดแรกลีกระดับ 2 ของไทย คือปี 2013 ที่ทำผลงาน ชนะ 7 เสมอ 6 เหมือนซีซั่นนี้เป๊ะๆ ก่อนเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ
หนึ่งในสามทีมจากทั่วประเทศ ที่ยังไร้พ่าย
อีก 2 ทีมที่เหลือได้แก่ ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด จ่าฝูง T4 โซนภาคอีสาน และ น่าน เอฟซี ทีมรองจ่าฝูง T4 โซนภาคเหนือ
แม้ 2 ทีมดังกล่าวจะทำผลงานน่าชื่นชม แต่ต้องบอกเลยว่าทีมพลังเพลิงสุดยอดยิ่งกว่า เพราะเล่นในลีกที่ต้องเจอกับคู่ปรับทั่วทุกภูมิภาค แถมยังผ่านรอบคัดเลือก โตโยต้า ลีก คัพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ศรีสะเกษ และ น่าน ทำไม่ได้อีกด้วย
สนามแข่งได้มาตรฐานสากล
พีทีที สเตเดี้ยม มาบข่า เป็นสนามฟุตบอลของแท้ที่ไม่มีลู่วิ่ง จุผู้ชมได้ทั้ง 4 ด้าน โดยทุกด้านมีหลังคา รองรับคนเข้าสนามได้มากถึง 12,161 ชีวิต
รังเหย้าของทัพพลังเพลิงแห่งนี้ ตั้งอยู่ใน ศูนย์สมุนไพรมาบข่า แถมยังอยู่ใกล้กับชายทะเล เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คที่เหมาะกับแฟนบอลผู้รักการท่องเที่ยวเลยทีเดียว
ขุมกำลังมากประสบการณ์จากลีกสูงสุด
ทีมพลังเพลิงมีนักเตะไทยประสบการณ์สูงอย่าง อาทิตย์ สุนทรพิธ, เจษฎากร เหมแดง, อภิภู สุนทรพนาเวส บวกกับพลังหนุ่มจาก อดิศักดิ์ หาญเทศ และ สหรัฐ กันยะโรจน์
ส่วนแข้งต่างชาติยิ่งเด็ดดวงเข้าไปใหญ่ เดนนิส มูริลโล่ ดาวยิงบราซิเลียน เพิ่งย้ายเข้ามาแล้วซัดไปแล้วถึง 9 ลูก จนลุ้นคว้าดาวซัลโว ส่วน วู กึน-ยอง ก็ยิงไปไม่น้อยถึง 6 ประตู
สุดยอดกุนซือหนุ่มไฟแรง
ผลงานการพา เชียงราย ยูไนเต็ด ติดครึ่งบนของตารางไทยลีกได้ 3 ปีติดต่อกัน ในวัยไม่ถึง 40 ปี ถือว่าเป็นผลงานไม่ธรรมดาของโค้ชไฟแรงคนนี้ และประสบการณ์โชกโชนบนลีกสูงสุด ทำให้เขาทำงานในลีกระดับ 2 ของไทยได้แบบสบายๆ
“ชุดแข่งรักโลก”
ชุดแข่งของ พีทีที ระยอง 2017 ถูกออกแบบโดย ซักกา สปอร์ต เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ความพิเศษอยู่ที่ปีนี้มีเสื้อชุดเยือนรุ่นพิเศษสีดำ เพื่อร่วมรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9
ที่สำคัญชุดปีนี้ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิลจากขวดพลาสติกเปล่า 3 ขวด มาหลอมและถักทอออกมาเป็นเสื้อแข่ง 1 ชุด
นอกจากนี้ยังใช้สีที่มีส่วนผสมจาก Water-Based ลดการใช้สารเคมี ซึ่งมีความคงทน สามารถยืดหยุ่นได้ดี และมีความบางเป็นพิเศษแฝงไปด้วยมาตรฐานที่เทียบเท่าเสื้อแข่งระดับท็อปๆ เลยทีเดียว
ส่วนราคาเสื้ออยู่ที่ 550 บาท สมาชิกของสโมสร สามารถจับจองได้ในราคาเพียง 499 บาท เท่านั้น และเป็นสินค้าที่หาซื้อได้ไม่ยาก เมื่อไปซื้อได้ทั้งที่สนาม พีทีที สเตเดี้ยม, ตึก ปตท. สำนักงานใหญ่, รถจำหน่ายสินค้าของทีม และช่องทางที่สะดวกสุดๆ คือการสั่งสินค้าผ่านทาง Line Shop
พีทีที ระยอง ถือเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลเก่าแก่ของประเทศ และจากปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมา ต้องบอกเลยว่าทีมชุดนี้คู่ควรกับเวทีลีกสูงสุด มากกว่า เอ็ม 150 แชมเปี้ยนชิพ อย่างแท้จริง
นอกจากผลงานเด่นเกินใครในศึก เอ็ม 150 แชมเปี้ยนชิพ แล้ว เมื่อกวาดสายตาไล่ดูผลงานของ 126 ทีม จากทั่วประเทศ ตั้งแต่ไทยลีกไปจนถึง T4 พวกเขายังติดหนึ่งใน 3 ทีมที่ยังรักษาสถิติแพ้ใครไม่เป็น ในเกมลีกอีกด้วย
เบื้องหลังผลงานสุดแหล่ม คือการได้ลงฟาดแข้งในสนามฟุตบอลเกรดดี แถมสโมสรยังเป็นเจ้าของเอง โดยตอนนี้ พีทีที ระยอง ครองสถิติ ทำผลงานในบ้านดีที่สุด (ชนะ 5 เสมอ 2) ร่วมกับ ลำปาง เอฟซี
ถือว่าขุมกำลังของ พีทีที ระยอง 2017 อยู่ในระดับที่เหนือกว่าทุกทีมใน เอ็ม 150 แชมเปี้ยนชิพ ก็ว่าได้ เมื่อเต็มไปด้วยนักเตะที่มีประสบการณ์ในไทยลีกมาแล้วเพียบ
เบื้องหลังผลงานเสมอต้นเสมอปลายของ พีทีที ระยอง คือการได้ “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น เข้ามาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนในปีนี้