ดิโอโก้-สุมัญญา ทำทัพ!! รวม 11 แข้งสุดเจ๋งไทยลีก 2018 เลกแรก By Balltoro

11 นักเตะยอดเยี่ยมไทยลีก 2018 เลกแรก By Balltoro

หลังจากตอนนี้ศึก ไทยลีก 2018 เลกแรกจบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีนักเตะหลายคนทีเดียวที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม

วันนี้ทีมงาน Balltoro ขอลองจัด 11 ตัวจริงที่พวกเราคิดว่าน่าจะโหดสุดๆ ในช่วงครึ่งทางของฤดูกาลนี้ ภายใต้กฎโควตานักเตะต่างชาติ 3+1 (ต่างชาติ 3 คน+ เอเชียหรืออาเซียน 1 คน) ในระบบ 4-3-1-2 ให้ชมกัน!!

ผู้รักษาประตู : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (สุพรรณบุรี เอฟซี)

ใครจะไปคิดว่าใน 17 เกมแรกของฤดูกาลนี้ สุพรรณบุรี จะเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดบนลีกสูงสุด ด้วยผลงานของ พี่ตี๋ ที่ตอนนี้เก็บคลีนชีตไปแล้ว 8 นัด มากที่สุดเหนือนายทวารทุกคนบนลีก

น่าเสียดายที่ สินทวีชัย เลิกเล่นทีมชาติไปแล้ว เพราะบอกเลยตอนนี้ผู้รักษาประตูที่ฟอร์มแรงๆ อย่าง ฉัตรชัย บุตรพรม (เสีย 13 ประตู) ของ เชียงราย หรือแม้แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (เสีย 14 ประตู) ที่อยู่กับทีมใหญ่อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็โดนยิงประตูมากกว่าจอมหนึบวัย 36 ปีทั้งนั้น

แบ็กขวา : ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

เดิมทีตำแหน่งถนัดของ ศศลักษณ์ จะอยู่ทางกราบซ้าย แต่การที่ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ได้รับบาดเจ็บพักไปสักระยะ ทำให้ เจ้าพี ถูกโยกมาเล่นวิงแบ็กฝั่งขวาแทน

แต่ดาวเตะวัย 22 ปีกลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งเกมรุก และเกมรับ ช่วยเติมเต็มเกมริมเส้นของ บุรีรัมย์ ให้แข็งแกร่งได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

ล่าสุดเจ้าตัวมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรกในชีวิตไปแล้ว และจากฟอร์มโดยรวมตอนนี้บอกเลยหาก เจ้าต้น จะกลับมาแย่งตัวจริงคืนไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน

กองหลัง : พรรษา เหมวิบูลย์ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ถ้าจะบอกว่านี่คือเป็นกองหลังไทยที่ฟอร์มดีที่สุดตั้งแต่ปีที่แล้วก็คงไม่ผิดนัก ด้วยผลงานที่สม่ำเสมอกับ บุรีรัมย์ มาโดยตลอด แถมปีนี้ขึ้นไปทำประตูให้ทีมได้แล้วด้วย 1 ลูก

ทำให้ พรรษา คือแนวรับที่ทีมขาดไม่ได้ซะแล้ว ด้วยความสูงถึง 191 ซ.ม. ทำให้เจ้าตัวโดดเด่นเหลือเกินเรื่องลูกกลางอากาศ

นอกจากนั้นแล้ว ทั้งที่เล่นในตำแหน่งตัวรับแบบนี้แต่เขากลับโดนใบเหลืองเพียง 1 ใบเท่านั้น นั่นแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาไว้ใจได้แค่ไหน

แถมประสบการณ์ที่มากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำให้ เจ้าโย่ง ดูจะพัฒนาตัวเองได้ดีจนตอนนี้แฟนบอลหลายคนต่างเชียร์ให้ออกไปค้าแข้งต่างแดนได้แล้ว

กองหลัง : วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

แม้จะย้ายมาอยู่กับ กว่างโซ้งมหาภัย แต่เขาก็ยังมีผลงานการทำประตูได้อย่างต่อเนื่องจริงๆ หลังตอนนี้ คาร์โดโซ่ คือดาวซัลโวของทีมโดยซัดไปแล้ว 6 ประตู แม้เล่นในตำแหน่งกองหลัง

และด้วยความสูงถึง 197 ซ.ม. คาร์โดโซ่ ช่วยทีมจัดการเรื่องลูกกลางอากาศได้อย่างอยู่หมัดเพราะจาก 18 ประตูที่เสียไป มีเพียง 3 ลูก เท่านั้นที่ เชียงราย โดนคู่แข่งทำประตูจากลูกโหม่ง

แบ็กซ้าย : กรกช วิริยอุดมศิริ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ถือว่าปีนี้เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของ กรกช สุดๆ หลังเลกแรกยิงไปแล้ว 2 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ โดยเฉพาะจุดเด่นเรื่องลูกตั้งเตะที่เป็นเบอร์ต้นๆของไทยลีกไปแล้ว

แถมเรื่องเกมรับ เจ้ามิงค์ ก็พัฒนาขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยผลงานโดยรวมจนกลับมามีชื่อติดทีมชาติไทยอย่างต่อเนื่องในระยะหลัง ก็การันตีได้ดีว่าเป็นแบ็กซ้ายที่ดีสุดในไทยลีกตอนนี้ก็คงไม่ผิดมากนัก

กองกลางตัวรับ : ยู จุน-ซู (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

เป็นการดึงตัวเข้ามาแทน โก ซุล-กี ที่โคตรคุ้มค่าจริงๆ เพราะ ยู จุน-ซู เป็นนักเตะที่สารพัดประโยชน์สุดๆ ลงเล่นได้หมดทั้งกองกลาง, กองหลัง หรือกองหน้า

แต่เอาเข้าจริงดาวเตะเกาหลีใต้รายนี้ถนัดในการยืนเป็นแผงมิดฟิลด์มากที่สุด ซึ่งเขาก็ทำได้ดีเสมอเมื่อได้รับโอกาสลงเล่นในแผงกลาง

แถมผลงานเลกแรก ยู จุน-ซู ก็ช่วยทีมทำไปแล้วถึง 3 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ บอกเลยผลงานแบบนี้ บุรีรัมย์ น่าใช้งานได้ยาวๆ

กองกลาง : วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี)

ไทยลีก 2018 เป็นปีที่ เจ้ายิม ท็อปฟอร์มมากที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ หลังตอนนี้ซัดไปแล้ว 7 ประตู กับอีก 17:00 ครองดาวซัลโว ฉลามชล อยู่แบบหล่อๆ ที่สำคัญจาก 7 ประตูที่ทำได้ ยังเป็นประตูชัยถึง 5 เกมด้วย

แถม วรชิต ยังเป็น 1 ใน 2 นักเตะชลบุรี ที่ลงสนามครบทุกนัดในเลกแรกเท่ากับ คิม คยอง-มิน บอกเลยด้วยฟอร์มตอนนี้หากรักษาผลงานไว้ได้ต่อเนื่อง การก้าวไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน

กองกลาง : จักรพันธ์ แก้วพรม (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

เรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่อายุมากขึ้นก็ยิ่งมีความเก่งเพิ่มขึ้นจริงๆ สำหรับ จักรพันธ์ ที่ปีนี้เจ้าตัวรับบทคุมเกมแดนกลางของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะขึ้นไปยืนหน้าต่ำคอยทำเกมหลังคู่หน้า หรือถอยลงมาเป็นคู่กลางคอยบัญชาแดนกลาง และโฮลด์บอลให้ทีมก็ตาม

แม้ปีนี้เขาจะมีส่วนร่วมกับประตูไม่เยอะนัก (ยิง 2 แอสซิสต์ 2) แต่ต้องยอมรับเลยว่า บุรีรัมย์ ตอนนี้ขาด เจ้าโน๊ต ไม่ได้ซะแล้ว

เพลย์เมกเกอร์ : สุมัญญา ปุริสาย (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

“เจ้าตั๊ก” เป็นนักเตะไทยที่ฟอร์มยอดเยี่ยมที่สุดในปีนี้ แถมยังยิงประตูได้มากที่สุดของนักเตะไทยในซีซั่นปัจจุบัน หลังซัดไปแล้ว 8 เม็ด และยังแอสซิสต์ไปอีก 5 ครั้ง

โดยเฉพาะลูกฟรีคิกที่เด็ดแบบสุดๆ ซัดไปแล้ว 3 ลูก งามๆ ทำให้ชื่อของ สุมัญญา กลับมาติดทีมชาติไทยอีกครั้ง ตามคำเรียกร้องของแฟนบอลได้สักที

กองหน้า : ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ในเวลานี้คงไม่มีดาวยิงคนไหนที่ยอดเยี่ยมไปกว่า ดิโอโก้ แล้ว เมื่อเจ้าตัวซัดให้ บุรีรัมย์ ไปถึง 16 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์ จากการลงเล่นในเลกแรก

โดยช่วงต้นซีซั่น ดาวยิงชาวแซมบ้าเพิ่งสร้างสถิติใหม่ยิงต่อเนื่อง 10 นัดนานสุดตลอดกาลไทยลีก (ปลายซีซั่นที่แล้ว 6 นัดต่อเนื่องเปิดซีซั่นนี้อีก 4 นัด)

อีกทั้งเจ้าตัวยังมีความครบเครื่องเพิ่มมากขึ้นหลังสามารถยิงประตูได้หมดทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น เท้าซ้าย, เท้าขวา, โหม่ง หรือลูกฟรีคิกก็ตาม

ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงอย่างงี้บอกเลย ดิโอโก้ คือตัวเต็งที่จะซิวดาวซัลโวปีนี้ไปครอง

กองหน้า : โจนาธาน รีส (พีที ประจวบ เอฟซี)

เจ้าของดาวซัลโว T2 ในฤดูกาลที่แล้ว ยังรักษาฟอร์มร้อนแรงได้อย่างยอดเยี่ยม หลังตอนนี้เขาซัดให้ทีมน้องใหม่อย่าง “ต่อพิฆาต” ไปแล้วถึง 13 ประตู เป็นรองดาวซัลโวตามหลัง ดิโอโก้ แค่ 4 ประตูเท่านั้น

จุดเด่นของ รีส อยู่ที่เท้าซ้ายสุดคมที่พร้อมยิงประตูได้หมดทุกรูปแบบ และซัดใส่ทีมใหญ่มาหมดแล้วทั้ง เมืองทอง, บางกอกกล๊าส และ เชียงราย บอกเลยถ้าฟอร์มแบบนี้มีลุ้นแย่งดาวซัลโวกันยาวๆ แน่นอน

ตัวสำรอง :
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
กรกช วิริยอุดมศิริ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ทริสตอง โด (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
มานูเอล ทอม เบียห์ร (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
อันเดรส ตูเญซ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ เอฟซี)
อ่อง ธู (โปลิศ เทโร เอฟซี)
ลอนซาน่า ดูมบูย่า (พีที ประจวบ เอฟซี)
อมร ธรรมนาม (พีที ประจวบ เอฟซี)
เฮแบร์ตี้ แฟร์นันเดส (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
เนลสัน โบนีญา (สุโขทัย เอฟซี)