ช้างศึกพร้อมดับมังกร!! 5 จุดต้องดู ทีมชาติไทย ลุ้นคว่ำ จีน เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย

ซึ่งจากรายงานข่าวที่ผ่านมาก็ระบุว่า “โค้ชโต่ย” จะใช้หลังสามเหมือนเดิมโดยจะรอดูอาการ มิก้า ก่อนแต่หากเจ้าตัวไม่ไหว แผนสำรองคือการถอย ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ลงไปยืนแทนแบบที่เคยเล่นในยุคของ “โค้ชซิโก้” นั่นเอง

ซึ่งนั่นก็อาจจะทำให้แผงมิดฟิลด์มีปัญหาได้แน่ เพราะเราไม่มีกลางรับอาชีพมาทดแทนได้เลย เย็นวันนี้จึงน่าติดตามอย่างยิ่งว่า “โค้ชโต่ย” จะเลือกจัดการกับปัญหานี้ยังไง??

2. จีนอาจไร้ตัวเทพ

น่าจะเป็นขุดที่ทำให้ ทีมชาติไทย เจองานเบาลงไปเยอะเลยก็ว่าได้เมื่อดาวยิงซูเปอร์สตาร์ตัวเก่งอย่าง หวู เหล่ย มีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่ ชนิดที่ว่าเหมือนกระดูกผิดรูปเลยก็ว่าได้

แต่อย่างไรก็ตามทาง จีน ก็ยังไม่ส่งเจ้าตัวกลับประเทศ แต่เลือกที่จะให้ทีมแพทย์บินมารักษาอาการถึงยูเออี เพื่อลุ้นลงเล่นในรอบนี้ให้ได้

ย้อนกลับไปตลอด 10 นัดหลังสุดที่ หวู เหล่ย ลงเล่น เขายิงไปถึง 6 ประตู มากกว่าใครทุกคนในทีมชาติจีนชุดนี้ ต้องยอมรับเลยว่าฝีเท้าของเขาเข้าขั้นตัวท็อปเอเชียเลย หลังได้รับการยกย่องว่ามีดีพอไปลุยยุโรปได้สบาย

และกลับกันถ้าเกิด หวู เหล่ย ไม่สามารถลงสนามช่วยทีมแดนมังกรได้ ทัพช้างศึก ก็มีโอกาสดีที่จะคว้าชัยได้เหมือนกัน

3. แม้ H2H เป็นรอง แต่ 5 นัดหลังสถิติเท่าเป๊ะ

จากสถิติที่เคยพบกันของทั้งสองทีม 25 ครั้ง ทีมชาติจีน ชนะไปได้ถึง 17 ครั้ง เสมอกันไป 3 ครั้ง และเป็น ทีมชาติไทย คว้าชัยไปแค่ 5 ครั้งเท่านั้น

แม้สถิติโดยรวมต้องบอกว่าเราเป็นรองมากพอสมควร แต่หากนับเฉพาะ 5 นัดหลังสุดที่พบกัน กลายเป็นว่าทุกอย่างออกมาเท่ากันเป๊ะๆ ด้วยผลชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 นัด และที่สำคัญยิงไปทีมละ 9 ประตูเท่ากันอีกต่างหาก

นั่นทำให้พอจะสรุปได้คร่าวๆ ว่าในระยะหลัง ทัพช้างศึก ก็ไม่ได้เป็นรองขุนพลแดนมังกรแบบสู้ไม่ได้ซะขนาดนั้น และบางทีไม่แน่เหมือนกันวันนี้เราอาจจะได้เฮกันทั้งประเทศก็ได้

4. จีน 10 นัดหลังสุดชนะไม่ถึงครึ่ง

แม้ ทีมชาติจีน จะยกระดับทีมขึ้นมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นหนึ่งในทีมยักษ์ใหญ่ของเอเชียระดับ Top 10 ในเวลานี้

แต่เมื่อลองย้อนดูผลงานของพวกเขาในช่วงนี้ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนัก โดย 10 เกมหลังสุดรวมทุกรายการที่ลงเล่น จีน คว้าชัยไปได้แค่ 3 นัดเท่านั้น (เสมอ 4 แพ้ 3)

ซึ่ง 4 จาก 7 นัดที่เหลือ ไม่นับ 3 เกมในรอบแบ่งกลุ่มศึก เอเชียน คัพ ปีนี้ พวกเขากลับทำได้เพียงเสมอกับทีมที่มีมาตรฐานน้อยกว่าพวกเขาทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น บาห์เรน, อินเดีย, ปาเลสไตน์ และ จอร์แดน

กลับกันอีก 3 นัดที่พวกเขาแพ้ ก็เป็นการพ่ายต่อทีมระดับเดียวกันทั้งหมด นั่นแสดงให้เห็นแล้วว่ามาตรฐานของ จีน ชุดนี้ก็ไม่ได้โดดไปมากกว่า ทีมชาติไทย เท่าไรนัก

หากเราวางแผนกันดีๆ มีความเชื่อลึกๆ เหมือนกันว่า เราจะคว่ำจีนเข้าไปสร้างประวัติศาสตร์ได้อีกครั้งใน เอเชียน คัพ

5. มังกรของชอบ AK9

หากเราลองดูถึงทีมชุด เอเชียน คัพ 2019 ของทั้งสองทีมในตอนนี้ มีแข้งไทยที่เคยยิง ทีมชาติจีน ได้ถึง 3 คนที่ติดทีมชุดนี้มาด้วย นั่นก็คือ ชนาธิป สรงกระสินธ์, ปกเกล้า อนันต์ และ อดิศักดิ์ ไกรษร

กลับกันแข้งจีนมีเพียง หวู เหล่ย เท่านั้นที่เคยยิงประตูไทย ได้ แต่ก็ด้วยอาการบาดเจ็บตอนนี้ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะลงได้หรือเปล่า

โดยเฉพาะในรายของ “AK9” ที่บอกเลยว่า จีน นี่แหละของชอบเขาสุดๆ เพราะหากนับ 2 เกมล่าสุดที่ เจ้ากอล์ฟ ลงพบ จีน เขายิงไปถึง 4 ประตู

เริ่มตั้งแต่ซัด 2 ลูกในนัดอุ่นเครื่องที่บุกถล่ม 5-1 ในปี 2013 ต่อด้วยเหมาอีก 2 ประตูพาทีมชนะ 2-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เอเชียนเกมส์ 2014

และด้วยสถิติเก่าที่กล่าวมาก็คงจะไม่แปลกนักถ้าบอกว่า อดิศักดิ์ เป็นคนที่ชอบยิงทีมชาติจีนเหลือเกิน และไม่แน่เหมือนกันว่าคืนนี้ AK9 จะแผลงฤทธิ์พาทัพช้างศึก คว่ำมังกรอีกครั้งนึงก็ได้

จริงอยู่ที่มาตรฐานทุกอย่างตอนนี้ ทีมชาติไทย จะเป็นรอง ทีมชาติจีน อยู่ในระดับนึง แต่ด้วยปัจจัยอะไรหลายๆ อย่างที่มันเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน เราก็เชื่อนะว่า ทัพช้างศึก จะมีโอกาสคว้าชัยได้ในคืนวันนี้

อย่าพลาดเด็ดขาด 21.00 น. คืนนี้ เรามีนัดเชียร์ ทีมชาติไทย ล้ม มังกร สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในเอเชียน คัพ 2019 ร่วมกัน….