คัมแบ็กทีคู่ใหญ่เพียบ!! 9 จุดที่ต้องดูบิ๊กแมตช์ไทยลีกนัดกลางสัปดาห์

คัมแบ็กทีคู่ใหญ่เพียบ!! 9 จุดที่ต้องดูบิ๊กแมตช์ไทยลีกนัดกลางสัปดาห์
คัมแบ็กทีคู่ใหญ่เพียบ!! 9 จุดที่ต้องดูบิ๊กแมตช์ไทยลีกนัดกลางสัปดาห์

9 เรื่องทีเด็ดจาก 3 บิ๊กแมตช์ของศึกไทยลีก 2018 นัดที่ 27

กลับมาลงสนามกันอีกครั้งสำหรับศึก ไทยลีก 2018 หลังเบรกให้ ทีมชาติไทย ไปลุยเอเชียนเกมส์ ที่อินโดนีเซีย มาราวๆ 1 เดือนเต็ม

โดยคืนนี้ก็จะเป็นการลงฟาดแข้งกันนัดที่ 28 แล้วซึ่งบอกเลยว่าทุกคะแนนมีผลต่อโซนลุ้นโควตาลุยถ้วยเอเชีย และโซนหนีตกชั้นเหลือเกิน

ที่น่าสนใจคือ เกมวันนี้มีบิ๊กแมตช์มาให้ชมกันถึง 3 คู่ 3 เวลา ที่มาจากครบทุกโซนในตารางคะแนน

และนี่คือ 9 ประเด็นต้องดูในเกมที่ยักษ์ใหญ่เขาบู๊กัน รับรองความมันส์ทะลักแน่นอน

 

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ บางกอกกล๊าส เอฟซี : เวลา 18.00 น.

H2H เท่ากันเป๊ะ!!

จากสถิติการพบกันของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี บนเวทีไทยลีกทั้งหมด 15 ครั้งปรากฎว่าเท่ากันอย่างน่าเหลือเชื่อ

เมื่อ บียู ชนะไป 6 เสมอ 3 และเป็นบีจีที่ชนะไป 6 ครั้ง นั่นหมายความว่าการพบกันของคู่น่สามารถออกได้ทุกหน้าเลยทีเดียว

แต่ที่น่าสนใจคือการพบกัน 2 ครั้งหลังสุดเป็น แข้งเทพ ที่ชนะได้อยู่ฝ่ายเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถิติการลงเล่นที่ มธ.รังสิต ของ ทัพบลูแมชชีน น่าห่วงสุดๆ

เพราะ บางกอกกล๊าส ลงเล่นเป็นทีมเยือนที่สนาม มธ. รังสิต ไปแล้ว 8 นัดหลังสุด (นาน 8 ปี) รวมทุกถ้วยแพ้รวด ตั้งแต่ เพื่อนตำรวจ ใช้ยาวจนมาถึง แบงค็อก ใช้ไม่เว้นแม่แต่เกมนัดพิเศษกับ เซเรโซ่ โอซาก้า ก็แพ้เรียบ

 

บีจีพักนานเป๋ไหม??

บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมชนะรวด 3 นัดขยับหนีโซนตกชั้นขึ้นไปอยู่ที่ 11 ของตารางทิ้งห่างโซนแดงถึง 3 คะแนนเข้าไปแล้ว

แต่ที่น่าสนใจคือฟอร์มแรงของพวกเขาถูกหยุดด้วยการพักเบรกเอเชียนเกมส์ไปราวๆ 1 เดือน ซึ่งดูแล้วอาจจะส่งผลทีเดียว แถมต้องมาเจอกับศึกหนักแบบนี้ด้วย ต้องมาตามชมกันแล้วว่าลูกทีมของ “โค้ชจุ่น” จะยังรักษาฟอร์มเทพไว้ได้ต่อเนื่องหรือไม่

 

แข้งเทพกำลังเคว้ง

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มร้อนแรงมาตั้งแต่ปลายเลกแรกยาวจนสามารถแซง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นรั้งจ่าฝูงได้ทันทีที่ลงเล่นนัดที 19 ของซีซั่นนี้

แต่กลายเป็นว่าหลังจากนั้นอีก 7 เกม พวกเขาเก็บชัยได้แค่ 2 นัดเท่านั้น (เสมอ 3 แพ้ 2) ทำให้จากมีลุ้นแชมป์อยู่ดีๆ ต้องตามจ่าฝูงไปไกลถึง 9 แต้มเต็ม

หากคิดในแง่ดีการได้พักมานานๆ แบบนี้ น่าจะเป็นผลดีกับ บียู ที่ มาโน่ โพลกิ้ง จะได้แก้ไขจุดบกพร่องให้ถูกจุด แต่กลับกันหากเกมนี้ยังพลาดอีกบางทีโควตา ACL ปีหน้าที่แน่ๆ อาจหลุดมือไปก็ได้

 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด : เวลา 19.00 น.

เซราะกราวขออีก 5 นัด

จากตารางคะแนนตอนนี้ที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำรองจ่าฝูงไปไกลถึง 9 แต้มกับเกมการแข่งขันที่เหลือในมืออีกเพียง 8 นัดเท่านั้น แถมยังมีประตูได้เสียที่มากกว่าถึง 13 ลูก

นั่นหมายความว่า ทัพปราสาทสายฟ้า ขออีกแค่ 15 คะแนน หรือชนะรวดอีก 5 นัดต่อไปนี้ก็จะการันตีแชมป์ลีกสมัยที่ 6 อย่างเป็นทางการทันที

หรือไม่หาก แบงค็อก เกิดพลาดท่าซะเองงานฉลองก็อาจจะเลื่อนเข้ามาไวกว่าเดิมอีก และด้วยเหตุผลแบบนี้แหละที่จะทำให้นักเตะในทีมวิ่งกันแบบลืมเหนื่อย พร้อมเดินหน้าคว้าชัยเพื่อป้องกันแชมป์ให้ได้ไวๆ แน่นอน

 

ดิโอโก้ไม่ยิงกว่างโซ้งนานเกือบ 3 ปี!!

ถึงตอนนี้คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต คือดาวยิงที่อันตรายสุดในไทยลีก 2018 หลังซัดไปแล้ว 26 นัดจาก 27 นัดแรกจ่อคว้าดาวซัลโวแบบชิวๆ

นอกจากนั้นเขายังยิงมาแล้วติดๆ 5 นัดหลังสุด แต่ที่น่าสนใจคือเมื่อพบกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

ดาวยิงบราซิเลี่ยนรายนี้ไม่มีสกอร์มาแล้วเกือบ 3 ปีจาก 6 เกมหลังสุดที่เจอกัน แม้ในเลกแรกที่ว่าฟอร์มโหดๆ เขายังไม่สามารถพังประตูทีมกว่างโซ้งได้เลย

นัดแรก และนัดเดียวที่ ดิโอโก้ ยิงได้ต้องย้อนไปเลกสอง ไทยลีก 2015 ที่ซัดแฮตทริกพาทีมถล่ม 6-0 นู้นเลย

 

กว่างโซ้งป้อแป้!!

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มแจ่มสุดๆ ในบอลถ้วยทั้ง ช้าง เอฟเอ คัพ และ โตโยต้า ลีกคัพ หลังพวกเขาทะลุเข้ารอบตัดเชือกได้ทั้งคู่

แต่กลับกันในเกมลีก 3 นัดหลังสุดไม่ชนะเลย (เสมอ 2 แพ้ 1) ทำให้ร่วงไปอยู่ที่ 6 และเริ่มโดนทีมบนๆ ทิ้งออกไปซึ่งส่งผลให้การลุ้นโควตา ACL ปีหน้ายากเหลือเกิน

แต่ที่น่าสนใจคือ กว่างโซ้ง เพิ่งปลดล็อคครั้งใหญ่ล้ม บุรีรัมย์ ในบอลลีกได้เป็นครั้งที่สองของประวัติศาสตร์ในเลกแรกทีผ่านมา

หลังก่อนหน้านี้ เชียงราย ชนะได้แค่ครั้งเดียวตั้งแต่เลื่อนชั้นมาปี 2011 นู้นเลย แต่ในเกมเยือนพวกเขายังไม่เคยชนะ บุรีรัมย์ ได้เลย ทำให้คืนนี้คงต้องลุ้นอย่างหนักแน่!!

 

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ ชลบุรี เอฟซี : เวลา 20.00 น.

กิเลนแย่หนัก!!

ถือเป็นฤดูกาลที่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มีผลงานไม่ดีเอาซะเลยหลังผ่าน 26 นัดเก็บไปเพียง 45 คะแนนเท่านั้น

ที่สำคัญยังเสียไปถึง 37 ประตูแล้ว ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมาด้วย

นอกจากนี้ กิเลนผยอง ชนะได้เพียงเกมเดียวเท่านั้นจาก 6 เกมหลังสุด และจากฟอร์มตอนนี้มีโอกาสสูงทีเดียวที่ซีซั่นนี้จะจบลงด้วยคะแนนที่ต่ำสุดตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมา (ต่ำสุดปี 2011 : 60 คะแนน)

 

ฉลามชลไม่ต่างกัน!!

ถ้าจะบอกว่า เมืองทอง ฟอร์มแย่แล้ว ชลบุรี เอฟซี ก็ไม่ได้ดีกว่าไปมากนักหลังพวกเขาไม่ชนะใครมา 5 เกมติดต่อกันแล้ว (เสมอ 2 แพ้ 2)

แถมร่วงตกรอบบอลถ้วยหมดทั้งสองใบด้วย ที่สำคัญการทำแต้มหล่นบ่อยๆ แบบนี้ทำให้พวกเขามีแต้มห่างโซนตกชั้นเหลือแค่ 3 คะแนนเท่านั้น

ที่สำคัญเกมนี้ ชลบุรี จะยังไม่มีนายทวารมือ 1-3 ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด รวมทั้ง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ก็ยังไม่สมบูรณ์แถม สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ ก็โดนแบนอีก

น่าสนใจทีเดียวว่า ฉลามชล ที่ขาดตัวหลักเยอะขนาดนี้จะเอาตัวรอดได้หรือไม่ และถ้าแพ้บอกเลยโดนโซนแดงบี้แน่ๆ

 

ปีนี้เป็นของฉลาม!!

หากนับเฉพาะการพบกันในบอลลีกต้องยอมรับว่า เมืองทอง เหนือกว่าแบบมิดชนะไปถึง 10 ครั้ง เสมอ 6 และแพ้ไปเพียง 3 เกมเท่านั้น

แต่ที่น่าสนใจคือ 2 เกมที่พบกันในปีนี้เป็น ชลบุรี ที่เหนือกว่าด้วยผลงานชนะ 1 เสมอ 1 โดยเฉพาะล่าสุดเพิ่งถล่ม กิเลนผยอง 5-1 เขี่ยร่วงถ้วย โตโยต้า ลีกคัพ ไปอย่างยอดเยี่ยม และด้วยฟอร์มทั้งคู่ตอนนี้บอกเลยออกได้เลยว่าออกได้ทั้ง 3 หน้า