Fact หลังเกม : 5 จุดที่ต้องพูดถึงเกม เซราะกราว บุกยำ กิเลน 3-0

Fact หลังเกม : 5 จุดที่ต้องพูดถึงเกม เซราะกราว บุกยำ กิเลน 3-0
Fact หลังเกม : 5 จุดที่ต้องพูดถึงเกม เซราะกราว บุกยำ กิเลน 3-0

5 เรื่องที่ต้องพูดถึงเกมที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกถล่ม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 3-0 ในนัดที่ 30 ศึกไทยลีก 2018

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับคู่ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ไทยลีก 2018 ที่ เอสซีจี สเตเดี้ยม

ต้องยอมรับเลยว่าผลการแข่งขันค่อนข้างขาดลอยไปเหมือนกันเมื่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกถล่ม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มากถึง 3-0

นั่นทำให้ ทัพปราสาทสายฟ้า ขออีกเพียง 3 คะแนนกับ 4 เกมที่เหลือก็จะคว้าแชมป์สมัยที่ 6 มาครองได้ทันที และนี่คือ 5 ประเด็นที่ต้องพูดถึงหลังเกม กิเลนผยอง พังคาถิ่นเมื่อคืนที่ผ่านมา!!

กรกช-ยู ตัวแสบกิเลน

ต้องยอมรับเลยว่าปีนี้ กรกช วิริยอุมศิริ และ ยู จุน-ซู คือสองทีเด็ดในเกมพบกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อย่างแท้จริง

Fact หลังเกม : 5 จุดที่ต้องพูดถึงเกม เซราะกราว บุกยำ กิเลน 3-0
Fact หลังเกม : 5 จุดที่ต้องพูดถึงเกม เซราะกราว บุกยำ กิเลน 3-0

หลัง “เจ้ามิงค์” เป็นคนซัดประตูเปิด และ ดาวเตะเกาหลีใต้ก็ลงมาช่วงท้ายเกมพร้อมกับซัดประตูปิดเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา

แต่หากใครจำกันได้ดีในเลกแรกที่ ทัพปราสาทสายฟ้า เปิดบ้านอัดมา 4-0 ยู จุน-ซู นี่แหละเป็นคนรยิงประตูขึ้นนำ และก็เป็น กรกช อีกนั่นแหละที่ยิงประตูปิดท้าย

และหากจะบอกว่าปีนี้เขาสองคนคือตัวแสบของ กิเลนผยอง มากซะยิ่งกว่า ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ก็คงไม่แปลกนัก

เจ้าพีแกร่งจริง

Fact หลังเกม : 5 จุดที่ต้องพูดถึงเกม เซราะกราว บุกยำ กิเลน 3-0
Fact หลังเกม : 5 จุดที่ต้องพูดถึงเกม เซราะกราว บุกยำ กิเลน 3-0

ศศลักษณ์ ไหประโคน โชคร้ายได้รับบาดเจ็บจากจังหวะปะทะกับเพื่อนร่วมทีมเก่าอย่าง ชาช่า จนถึงขั้นหัวแตกตั้งแต่นาทีที่ 9 ของเกม

แต่ใครจะไปคิดว่าแผลบนหัวเขานั้นไม่ได้ส่งผลต่อการเล่นเลย เมื่อ “เจ้าพี” ยังรักษาฟอร์มเทพได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งเกมรุก และเกมรับ

โดยเฉพาะจังหวะลากเลื้อย และครองบอลทำเกมรุกก็มีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง อย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะอย่างงั้น

กิเลนเปลี่ยนหลังมีปัญหา

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มีปัญหาแนวรับตั้งแต่กลางครึ่งแรกเมื่อ นาอาโอกิ อาโอนามะ ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม หลังปะทะกับ วัฒนา พลายนุ่ม ก่อนจะฝืนเล่นต่อไม่ไหว

Fact หลังเกม : 5 จุดที่ต้องพูดถึงเกม เซราะกราว บุกยำ กิเลน 3-0
Fact หลังเกม : 5 จุดที่ต้องพูดถึงเกม เซราะกราว บุกยำ กิเลน 3-0

ทำให้ ราโดวาน เคอร์ซิซ ตัดสินใจเปลี่ยนระบบใหม่ดัน อีโฮ ไปเล่นกลางรับ และถอย วัฒนา ลงมาเป็นเซนเตอร์คู่กับ อดิศร พรมรักษ์ แทน

และมันก็เกิดปัญหาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อ “เจ้าไมค์” ก็ไม่ใช่เซนเตอร์อาชีพ แถมแทบจะไม่เคยมาจับคู่กับ “เจ้าเก่ง” อีกต่างหากจึงทำให้โดนเจาะตรงคู่หลังบ่อย

โดยเฉพาะ 2 ประตูหลังนี่ชัดเลยตั้งแต่การแทงตัดหลังคู่เซนเตอร์ของ จักรพันธ์ แก้วพรม จน ออสวัลโด้ หลุดเดี่ยวไปซัดนิ่มๆ

รวมทั้งประตูปิดกล่องที่ กรกช วิริยอุดมศิริ เปิดข้าม อดิศร มาให้ ยู จุน-ซู โขกตัดหน้า วัฒนา เข้าไปอย่างง่ายดายนั่นเอง

เฮแบร์ตี้บอดโทษ

Fact หลังเกม : 5 จุดที่ต้องพูดถึงเกม เซราะกราว บุกยำ กิเลน 3-0
Fact หลังเกม : 5 จุดที่ต้องพูดถึงเกม เซราะกราว บุกยำ กิเลน 3-0

ช่วงท้ายเกมในขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กำลังนำอยู่ 2-0 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็มีลุ้นตีตื้นในช่วงนาทีสุดท้ายจากลูกจุดโทษ

แต่แล้ว เฮแบร์ตี้ แฟร์นันเดส ก็ยิงไปติดเซฟ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เต็มๆ ทำให้เขาไม่สามารถทำประตูที่ 100 บนเวลทีไทยลีกได้สักที

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากลูกนี้เข้าไปสกอร์ก็จะขยับไปเป็น 1-2 พร้อมกับช่วงทดเวลาบาดเจ็บอีก 5 นาที

ไม่แน่เหมือนกันว่า กิเลนผยอง อาจมีแรงฮึดเพื่อเอา 1 คะแนนให้ได้และที่สำคัญผลการแข่งขันคงจะไม่ได้จบลงที่สกอร์ 0-3 อย่างแน่นอน

ปีนี้กิเลนเละสุด

หากนับเฉพาะบอลลีกที่ลงเล่นใน เอสซีจี สเตเดี้ยม อย่างเดียว เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไม่เคยแพ้ให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยช่องว่างที่เกิน 1 ประตูเลย

Fact หลังเกม : 5 จุดที่ต้องพูดถึงเกม เซราะกราว บุกยำ กิเลน 3-0
Fact หลังเกม : 5 จุดที่ต้องพูดถึงเกม เซราะกราว บุกยำ กิเลน 3-0

ทำให้เกมเมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นสถิติใหม่ที่ กิเลนผยอง แพ้ให้กับ เซราะกราว ขาดลอยที่สุดตั้งแต่เคยพบกันมา

นอกจากนี้หากนับรวมสกอร์เหย้า-เยือน นี่ก็เป็นปีแรกเช่นกันที่การพบกันของทั้งสองทีมขาดลอยถึง 7-0

ก่อนหน้านี้ครั้งที่ขาดลอยที่สุดคือปี 2016 ที่ เมืองทอง ชนะทั้งเหย้าเยือนสกอร์รวม 6-2

 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขานี่แหละคือทีมที่ดีที่สุดของ ไทยลีก 2018 ด้วยตารางคะแนนตอนนี้พวกเขาขออีกแค่ 3 คแนนจาก 4 เกมสุดท้ายก็จะการันตีคว้าแชมป์ทันที

ส่วน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็ต้องยอมรับว่าปีนี้พวกเขามีอะไรหลายๆ อย่างที่ต้องแก้ไขจริงๆ

สุดท้ายไม่ว่าทั้งสองทีมนี้จะอยู่อันดับไหนของตาราง แต่การพบกันทุกครั้งมันดุเดือด และมีศักดิ์ศรีเป็นเดิมพัน เพราะนี่แหละคือสองทีมที่ดีที่สุดในไทยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา!!