5 เรื่องเด็ดที่ต้องพูดถึงหลังเกมคิงส์คัพ ที่ ทีมชาติไทย ชนะจุดโทษ กาบอง 4-2
ทีมชาติไทย ประเดิมสนามฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะต้องมาลุ้นกันในช่วงดวลจุดโทษถึงจะสามารถชนะ กาบอง ได้สำเร็จ 4-2 หลังเสมอกันในเกม 0-0
และด้วยภาพรวมการเล่นในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมาถือว่า ทัพช้างศึก ของ มิโลวาน ราเยวัช ก็ได้รับคำชื่นชมจากแฟนบอลพอสมควรเลยทีเดียว และนี่คือ 5 จุดที่น่าพูดถึงสุดๆในเกมนัดนี้!!
กองหลังยังท็อปฟอร์ม
ในเวลานี้คู่กองหลัง ทีมชาติไทย ยังไงก็ต้องเป็น พรรษา เหมวิบูลย์ และ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว เท่านั้นหากไม่มีอาการเจ็บป่วย
เกมกับ กาบอง เมื่อคืนนี้ทั้งสองคนโชว์ให้เห็นแล้วว่าสามารถรับมือแนวรุกของทีมเยือนได้อย่างอยู่หมัด โดยเฉพาะการดักตัดบอลสวยๆในครึ่งแรกก็มีให้เห็นกันไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง
ที่สำคัญทั้ง เฉลิมพงษ์ และ พรรษา ยังผลัดกันเข้า ผลัดกันซ้อน แบบไม่มีข้อผิดพลาด พร้อมมีลูกวางบอลยาวแบบคมๆ ให้เห็นตลอดทั้งเกมด้วย
นอกจากนี้จังหวะที่ไทยน่าออกนำที่สุดในเกมนี้ก็มาจากการยิงไกลเต็มข้อของ “เจ้าโย่ง” ที่บอลพุ่งเป็นจรวดชนคานสนั่นไปทั้งสนาม แถม พรรษา นี่แหละที่เป็นมือสังหารจุดโทษคนสุดท้ายพาไทย เข้าชิงได้สำเร็จ
ถึงตอนนี้หากจะบอกว่าสองคนนี้คือกองหลังที่ดีที่สุดของ ทัพช้างศึก ก็คงไม่แปลกนัก!!
กวินทร์ยังไว้ใจได้เสมอ
แม้ตลอด 90 นาที กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ จะไม่ค่อยได้ออกแรงเซฟแบบยากๆให้หนักใจเลย แต่ที่เห็นได้ชัดเลยคือจังหวะตัดบอลกลางอากาศดูเหมือนว่าการกลับมาจาก เบลเยียมครั้งนี้ จะทำให้เขาพัฒนาขึ้นเยอะทีเดียว
ที่สำคัญเป็นสมัยที่สามติดต่อกันแล้วที่ เจ้าตอง สวมบทฮีโร่ในช่วงดวลจุดโทษให้ ทีมชาติไทย ในศึกคิงส์คัพ ด้วยความมั่นใจ และเด็ดขาดทำให้เขาพุ่งเซฟได้แบบเต็มๆในสองจุดโทษของกาบองเมื่อคืนนี้
ในเวลานี้ไม่ว่าผู้รักษาประตูคนอื่นจะฟอร์มดีแค่ไหนในไทยลีก แต่สุดท้ายแล้ว กวินทร์ ก็ยังเหมาะสมทุกอย่างกับการเป็นมือหนึ่งทัพช้างศึกต่อไป
ยังไงก็ต้องมีฐิติพันธ์
หาก กวินทร์ คือนักเตะที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นฮีโร่ในช่วงดวลจุดโทษ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ก็สมควรได้รับว่าเป็นนักเตะไทยที่เล่นดีสุดตลอด 90 นาทีเลยก็ว่าได้
เจ้านิว ลงเล่นในบทบาทมิดฟิลด์เชิงรับที่ต้องวิ่งขึ้น-ลงตลอดทั้งเกมได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง และเพราะเขานี่แหละที่ทำให้กองหลังงานไม่หนักมาก หลังกองกลางบางกอกกล๊าส ช่วยไล่ตัดบอลได้สวยๆ เพียบ
นอกจากนี้ในเกมรุก ฐิติพันธ์ ก็ช่วยขึ้นไปเติมเกมจนมีจังหวะส่องไกลให้เห็นอยู่เหมือนกัน และเมื่อดู ทัพช้างศึก มาตลอดทุกนัดในยุคราเยวัช บอกเลยว่ากองกลางสไตล์ Box to Box แบบนี้แหละที่เราขาดหายไปนาน
น่าลองแบ็กใหม่
เป็นจุดที่น่าแก้ไขมากที่สุดของทีมชุดนี้เลยก็ว่าได้หลัง แบ็กทั้งสองข้างอย่าง พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา และ ฟิลิป โรลเลอร์ ที่ตอนนี้น่าจะไม่ใช่ช่วงที่ดีนักของพวกเขาจริงๆ
นัดเจอกาบอง มีจังหวะหลายครั้งเหมือนกันที่ เจ้าบาส หลุดตำแหน่งจนถูกทีมเยือนโต้กลับมาฝั่งซ้าย แถมการเติมเกมรุกก็ดูจะไม่ค่อยเข้าขากับเพื่อนเหมือนเดิมนัก
เช่นเดียวกับ โรลเลอร์ ที่เมื่อวานนี้ดูเขาจะเกร็งๆ ไปซะหน่อยจนมีจังหวะโดนแข้งกาบอง พลิกหลบให้เห็นหลายทีเหมือนกัน
บางทีเมื่อพวกเขายังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้เต็มที่ ชื่อของ 2 สตาร์การท่าเรือเอฟซี อย่าง เควิน ดีรมรัมย์ หรือ นิติพงษ์ เสลานนท์ ก็น่าสนใจเหมือนกันในเกมนัดชิง
3 แข้งเจลีกยกระดับ
การกลับมาลงสนามพร้อมกันของ ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน และ ธีรศิลป์ แดงดา เห็นได้ชัดเลยว่าช่วยยกระดับ ช้างศึก ได้ดีทีเดียว
โดยเฉพาะจังหวะที่ทั้ง 3 คนเล่นด้วยกันดูจะไหลลื่น และเข้าขากันดีเหลือเกิน แถมการกลับมาของ เมสซี่เจ หนนี้ดูเขาจะมีความมุ่งมั่น ขยัน มากกว่าเดิมมากเลยทีเดียว
เห็นได้ชัดเลยว่าจังหวะที่ เจ ไล่กดดันทีมเยือนก็ทำให้เราได้บอลกลับคืนมาได้บ่อยเลย
ขณะที่ โก๋อุ้ม ดูแล้วในยุคราเยวัช น่าจะลงเล่นเป็นแนวรุกไปตลอดแน่ๆ หลังมีจังหวะสลับไปมากับ ชนาธิป ให้เห็นทั้งเกมและด้วยจุดเด่นการจ่ายบอลคมๆ ก็ทำให้ไทยมีอาวุธที่น่ากลัวมากขึ้นทีเดียว
ด้าน เทพมุ้ย จริงอยู่ที่เขามีทั้งความแข็งแกร่ง, พาบอลไปเองได้ และเก็บบอลได้ดี แต่เอาเข้าจริงหากให้เขามีคู่หูเหมือนอยู่ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า น่าจะทำให้ ธีรศิลป์ โชว์ฟอร์มได้ดีกว่านี้ก็ได้!!
ถึงตอนนี้เหมือนว่า มิโลวาน ราเยวัช จะเจอผู้เล่นที่ดีที่สุดของ ทีมชาติไทย แล้วแม้บางทีอาจจะดูขัดใจแฟนบอลไปบ้างก็ตาม แต่อย่างน้อยเมื่อคืนนี้พวกเขาก็ทำให้คนไทยมีความสุขกันทั้งประเทศแล้ว
และหากในวันอาทิตย์นี้ ทัพช้างศึก สามารถป้องกันแชมป์คิงส์คัพ ได้อีกรับรองเลยว่าต่อไป สนามราชมังคลากีฬาสถานจะกลับมาแน่นเหมือนช่วง 2 ปีที่แล้วแน่นอน!!