EXCLUSIVE : “เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์” สักวันผมต้องกลับมาติด ทีมชาติไทย ให้ได้สัมภาษณ์พิเศษ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ กับเป้าหมายที่ต้องการกลับมาติด ทีมชาติไทย อีกครั้งให้ได้
ศึกไทยลีก 2018 มีหลายทีมที่เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายหนึ่งในนั้นคือ ชลบุรี เอฟซี ที่ปีนี้มีการดันดาวรุ่งขึ้นมาลงเล่นเพียบ
โดยมีชื่อของ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ รับบทบาทกัปตันทีมสลับกับ ชลทิตย์ จันทคาม ในการช่วยพยุงทีมให้กลับมาสู่ความสำเร็จอีกครั้งให้ได้
และวันนี้ “เจ้าก้อง” ก็ได้เปิดใจกับทีมงาน Balltoro ถึงเป้าหมายในปีนี้กับทั้ง ฉลามชล และ ทีมชาติไทย
“มันก็โอเคกำลังจะลงตัว ทุกคนทำงานหนักเพราะรู้ว่ามันเปลี่ยนเยอะ ดาวรุ่งเยอะ แถมปีนี้ตกชั้น 5 ทีมด้วย ตอนนี้ทุกคนก็พยายามให้มากขึ้นเรากำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ”
“เรื่องตกชั้น 5 ทีมเป็นเรื่องที่ดีเพราะทุกทีมจะแข่งขันกันสูงมากขึ้น แต่สำหรับผมก็เยอะไปนะ แต่เมื่อออกกฎมาแล้ว ก็ต้องทำตามกฎ”
“ปีนี้มีโอกาสรับหน้าที่กัปตันก็ต้องรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น จริงๆ แค่เราได้เล่นกับทีมนี่ก็ยิ่งใหญ่สุดๆ แล้ว แต่พอเป็นกัปตันต้องรับผิดชอบมากขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างน้องๆ”
“โค้ชยุโรปคนแรกของทีมคือดีอย่างว่าไม่รู้ว่าชื่อเสียงนักบอลไทยเป็นไงอยู่ที่สนามซ้อมเป็นหลัก ใครทำได้ดีก็ได้ลงเล่นทำให้การแข่งขันในทีมสูงขึ้น”
“แต่เขาก็ต้องทำงานร่วมกับโค้ชคนไทย ซึ่งก็ไม่มีปัญหา แต่ก็แปลกใหม่เหมือนกันกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้”
“เรื่องการเปลี่ยนแปลงเยอะ เด็กบางคนประสบการณ์ก็ยังไม่สูง แต่เป็นสิ่งที่ดีที่เด็กจะได้พัฒนาตัวเอง แต่อีกไม่นานผลงานเราอาจจะดีขึ้นก็ได้ เพราะเด็กน่าจะมีผลงานที่ดีขึ้น”
“มาร์เคล ซานโต๊ส และ ชิโร่ อัลเวส เป็นบราซิลที่ทักษะดีเล่นบอลง่าย และมีทีมเวิร์ค เข้ากับทีมง่ายมาก เวลาเล่นคู่กับ วรชิต มันถือว่าลงตัวเลย ผมว่าเล่นด้วยกันง่าย จูนติดเร็วมาก”
“ผมว่าตื่นเต้นทุกปีนะเรื่องการเสริมทัพ แต่เป้าหมายคือต้องทำงานให้ดี เพราะผลงานในสนามต้องทำให้ดีขึ้น เพราะแฟนบอลเราเริ่มไม่เยอะแล้ว เลยอยากจะพัฒนาฟอร์มทีมให้ดีจึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้แฟนบอลกลับมา”
“ก็มีอ่านคอมเมนท์แฟนบอลบ้าง เราก็ต้องทำงานหนักต่อไปเรื่อยๆ เพราะสักวันถ้าทำไม่ดีเขาก็มาด่าอยู่ดี เราก็ทำให้ดีซะเลยดีกว่า”
“ปีนี้ความรับผิดชอบผมมากขึ้น เรื่องประสบการณ์เยอะขึ้น ปีนี้ผมมีความฟิตมากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งความมั่นใจที่มามากกว่าเดิม ที่ผมทำคืออยากติดทีมชาติอีกครั้ง“
“ผมอยากพัฒนาตัวเองเพื่อกลับไปติดทีมชาติไทย ไปเล่นทั้ง ซูซูกิ ปลายปีนี้ และเอเชียนคัพ ต้นปี 2019 ด้วย”
“มันต้องยอมรับว่าตั้งแต่เราทำไม่ดีก็ต้องดูเพื่อนเล่นทีมชาติ แต่สักวันนึงผมจะกลับไปติดทีมชาติให้ได้ แต่ในเมื่อเขายังไม่เรียกก็ต้องพัฒนาตัวเองเพื่อรอโอกาสต่อไป”
“เราต้องสู้ทำให้ดีที่สุด แต่ไม่กดดันตัวเองเกินไป เพราะถ้าเราขยันก็มีโอกาสประสบความสำเร็จเยอะกว่า”
