เดอะค็อปต้องแช่งต่อ!! เรือใบยังเขี้ยว บุกเชือดเบิร์นลี่ย์ 1-0 ทวงจ่าฝูงคืน

เดอะค็อปต้องแช่งต่อ!! เรือใบยังเขี้ยว บุกเชือดเบิร์นลี่ย์ 1-0 ทวงจ่าฝูงคืน
เดอะค็อปต้องแช่งต่อ!! เรือใบยังเขี้ยว บุกเชือดเบิร์นลี่ย์ 1-0 ทวงจ่าฝูงคืน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกชนะ เบิร์นลี่ย์ 1-0 ทวงตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกคืนมาอีกครั้ง

พรีเมียร์ลีก แมตช์วีก 36

เบิร์นลี่ย์ 0-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สนาม : เทิร์ฟ มัวร์

เกมคู่สำคัญต่อการลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จำเป็นต้องชนะสถานเดียว เพื่อแซงหน้า ลิเวอร์พูล กลับไปนำจ่าฝูงอีกครั้ง ส่วนเจ้าถิ่นอย่าง เบิร์นลี่ย์ ลงเล่นเพื่อศักดิ์ศรี เพราะไม่มีอะไรให้ลุ้น เมื่อรอดตกชั้นไปแล้ว

ฌอน ไดช์ กุนซือเจ้าถิ่น ส่ง แอชลี่ย์ บาร์นส์ ประสานงานกับ คริส วู้ด ในแดนหน้า ขณะที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อดใช้งาน แฟร์นันดินโญ่ และ เควิน เดอ บรอยน์ ที่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้เกมนี้ ลีรอย ซาเน่ ได้โอกาสลงตัวจริง แล้วถอย แบร์นาร์โด้ ซิลวา ลงมาปั้นเกมในแดนกลาง

ในครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายครองบอลเหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่ยังไม่มีโอกาสลุ้นประตูจะแจ้งนัก จึงยังคงเสมอกัน 0-0

นาที 52 แมนฯ ซิตี้ น่าจะขึ้นนำได้ เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิง เอี้ยวตัวยิงไปติดบล็อคกองหลังเจ้าถิ่น บอลเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา วิ่งเข้ายิงซ้ำด้วยซ้าย แต่ไปโดน ทอม ฮีตัน ผวาปัดไว้ได้หวุดหวิด

นาทีที่ 63 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่บุกอยู่นาน ออกนำ 1-0 จนได้ เมื่อ แบร์นาร์โด้ ซิลวา งัดบอลเข้าไปในเขตโทษให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ จับบอลจังหวะแรกไปติด เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ แต่ยังปั๊มบอลเอาชนะมาได้ แล้วตวัดยิง แม้ว่า แม็ทธิว โลว์ตัน จะตามลงไปพยายามเตะสกัดทิ้งออกมา แต่บอลลอยข้ามเส้นประตูไปเต็มใบแล้ว เป็นอันว่าทีมเรือใบสีฟ้าได้ประตูคลายความกดดำจนได้

นาที 75 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูที่ 2 เมื่อ ไคล์ วอล์คเกอร์ วางบอลยาวเข้าไปในเขตโทษทางซ้ายให้ กาเบรียล เชซุส ตัวสำรอง วิ่งสอดขึ้นไปรับบอล แล้วแตะหนี ทอม ฮีตัน ก่อนตวัดยิงบอลเกือบจะข้ามเส้นเข้าประตู ทว่า เบน มี ตามลงไปสกัดทิ้งจากเส้นออกมาทันหวุดหวิด

จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เน้นรักษาสกอร์นำสุดชีวิต และปิดเกมด้วยชัยชนะ 1-0 ได้ ทำให้ทีมเรือใบสีฟ้าแซงหน้า ลิเวอร์พูล กลับไปนำจ่าฝูงอีกครั้ง โดยนำหงส์แดง 1 แต้มเหมือนเดิม

 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เบิร์นลี่ย์ (4-4-2) : ทอม ฮีตัน (กัปตันทีม) – แม็ทธิว โลว์ตัน, เจมส์​ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี, ชาร์ลี เทย์เลอร์ – เจฟฟ์ เฮนดริค (โยฮันน์ เบิร์ก กุ๊ดมุนด์สสัน น.76), แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, แจ็ค คอร์ก, ดไวท์ แม็คนีล – แอชลี่ย์ บาร์นส์, คริส วู้ด (มาเตจ วีดร้า น.72)

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์,​ แว็งซ็องต์ ก็องปานี (กัปตันทีม), อายเมอริค ลาป๊อร์กต์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, อิลคาย กุนโดกัน, ดาบิด ซิลบา – ราฮีม สเตอร์ลิง (นิโกลัส โอตาเมนดี้ น.90+2), เซร์คิโอ “กุน” อเกวโร่ (จอห์น สโตนส์ น.83), ลีรอย ซาเน่ (กาเบรียล เชซุส น.64)

ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์