อาซาร์ MVP!! “ซาร์รี่” ได้แชมป์แรก สิงห์อัดปืนโตแหลก 4-1 คว้าถ้วยยูโรปา

อาซาร์ MVP!!
อาซาร์ MVP!! "ซาร์รี่" ได้แชมป์แรก สิงห์อัดปืนโตแหลก 4-1 คว้าถ้วยยูโรปา

เชลซี ถล่ม อาร์เซน่อล 4-1 คว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2018-19 ไปครอง

ยูโรปา ลีก รอบชิงชนะเลิศ

เชลซี 4-1 อาร์เซน่อล

สนาม : บากู โอลิมปิก สเตเดี้ยม (บากู, อาเซอร์ไบจาน)

เกมนัดชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก ระหว่าง 2 ทีมจากกรุงลอนดอน เชลซี พบกับ อาร์เซน่อล ซึ่งทั้งสองทีมต่างเหลือถ้วยนี้เป็นความหวังสุดท้าย ที่จะมีแชมป์ติดมือในฤดูกาลนี้กันทั้งคู่

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฝั่งทีมปืนใหญ่ต้องการแชมป์ยิ่งกว่า เพราะหมายถึงการคว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ของฤดูกาลหน้าด้วย

เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือชาวอิตาเลียนของ เชลซี ซึ่งยังไม่เคยคว้าแชมป์เมเจอร์รายการใดได้เลยในอาชีพคุมทีม จัด 11 คนแรกชุดที่ดีที่สุด โดยได้ตัว เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ฟิตสมบูรณ์กลับมาลงตัวจริงทันเวลา

ขณะที่ เอแด็น อาซาร์ ซึ่งเตรียมย้ายทีม ก็ลงนำเกมรุก และให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ดาวซัลโวเดี่ยวของรายการ ยืนกองหน้าตัวเป้า

ทางฝั่ง อูไน เอเมรี่ เฮดโค้ชชาวสแปนิชของ อาร์เซน่อล เคยพา เซบีย่า ได้แชมป์ 3 ปีซ้อน ระหว่างปี 2014-2016 นัดนี้ตัดสินใจให้ ปีเตอร์ เช็ก ซึ่งจะลงเฝ้าเสาเป็นนัดสุดท้าย ลงตัวจริงเจอทีมเก่า แต่อดใช้งาน เฮนริค มคิทาร์ยาน ตัวรุกทีมชาติอาร์เมเนีย ที่ไม่ได้เดินทางไปกับทีมด้วย เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยในการเข้าประเทศอาเซอร์ไบจาน

โดยทีมปืนใหญ่วางคู่หัวหอกตัวทีเด็ดทั้ง อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ออกสตาร์ทพร้อมกัน

นาทีที่ 9 อาร์เซน่อล ได้ลุ้นก่อน เมื่อ ไอน์สลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส วิงแบ็กขวา เติมขึ้นไปครอสไปที่หน้าประตูแล้ว เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ปัดออกมาไม่ดี เข้าทาง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง รีบยิงเร็วจากหน้าเขตโทษ แต่บอลไม่ตรงกรอบ

นาที 27 อาร์เซน่อล มีโอกาสลุ้นประตูอีกหน เมื่อ กรานิต ชาก้า ลองแต่งบอลหามุมซัดด้วยขวาเต็มข้อจากนอกเขตโทษ บอลเฉี่ยวคานออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น

นาที 34 เชลซี ได้ยิงเข้ากรอบเป็นครั้งแรกของเกม เมื่อ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี่ แบ็กซ้ายเติมขึ้นไปซัดมุมแคบ แต่ว่า ปีเตอร์ เช็ก ยังพุ่งปัดไว้ได้

นาที 39 เชลซี น่าจะขึ้นนำได้สุดๆ เมื่อ เอแด็น อาซาร์ จ่ายให้ เปโดร โรดริเกซ เคาะเร็วสั้นๆ ให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ตวัดยิงด้วยซ้ายแบบหักข้อ แต่ว่ายังโดน ปีเตอร์ เช็ก ล้มตัวปัดไว้ทันอย่างยอดเยี่ยมอีก

จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังทำประตูกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0

แต่ครึ่งหลังผ่านมาแค่ 4 นาที เชลซี ขึ้นนำ 1-0 เมื่อ มาเตโอ โควาซิช จ่ายออกซ้ายให้ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี่ เติมขึ้นมาครอสบอลเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ทิ้งตัวโหม่งส่งบอลกระดอนพื้นผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก เสียบเสาเข้าไป

นาทีที่ 60 เชลซี นำห่างเป็น 2-0 เมื่อ เอแด็น อาซาร์ สอดขึ้นมารับบอลในเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วจ่ายให้ เปโดร โรดริเกซ ตวัดยิงด้วยซ้ายตามน้ำตรงบริเวณจุดโทษ ส่งบอลผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก เสียบเสาสองเข้าไป

จากนั้นนาที 65 เชลซี มาได้จุดโทษ เมื่อ เปโดร โรดริเกซ ลากบอลดึงตัวประกบก่อนจ่ายให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ โดน ไอน์สลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส ดึงล้มในเขตโทษ แล้วเป็น เอแด็น อาซาร์ รับหน้าที่แปเข้าไปนิ่มๆ

แต่ อาร์เซน่อล ยังไม่ยอมแพ้ ไล่ตีไข่แตกมาในนาที 69 จากจังหวะต่อเนื่องจากลูกฟรีคิก แล้วกองหลัง เชลซี โหม่งเคลียร์ออกมาไม่ขาด เข้าทาง อเล็กซ์ อิโวบี้ ที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรอง วอลเลย์สวนเข้าไปเต็มแรง ส่งบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสุดสวย

อย่างไรก็ตาม นาที 72 เชลซี หนีห่างไปเป็น 4-2 อีก เมื่อ อาร์เซน่อล พลาดเสียบอลในแดนตัวเองให้ เอแด็น อาซาร์ จ่ายบอลให้ ชิรูด์ ก่อนที่หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศส จะตวัดบอลเข้ากลางคืนให้ อาซาร์ ซัดโล่งๆ ตุงตาข่ายเข้าไปไม่มีเหลือ เป็นประตูที่ 2 ของ อาซาร์ ในเกมนี้ด้วย

นาที 75 เอแด็น อาซาร์ เกือบทำแฮตทริกได้ เมื่อลองยิงจากนอกเขตโทษ แต่ว่า ปีเตอร์ เช็ก โดดเซฟไว้ทัน

นาที 83 อาร์เซน่อล น่าจะได้ประตูที่ 2 เมื่อ มัตเตโอ เกนดูซี่ วางบอลให้ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ หลุดกับดักล้ำหน้าไปซัดเน้นๆ แต่ไปติดเซฟ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า และแม้ว่า ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง จะพยายามยิงซ้ำ แต่ก็โดนจับล้ำหน้าซะก่อน

ถัดมานาทีเดียว ทีมปืนใหญ่พลาดโอกาสทองอย่างเหลือเชื่อ เมื่อ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ บรรจงจ่ายถวายพานให้ โจ วิลล็อค ดาวรุ่งตัวสำรองหลุดไปซัดเดี่ยวๆ แต่ยิงเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง

จบเกม เชลซี ถล่ม อาร์เซน่อล 4-1 คว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก สมัยที่ 2 ไปครองได้สำเร็จ พร้อมกับได้เป็นทีมวางในโถแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า ขณะที่ อาร์เซน่อล ต้องเล่นถ้วย ยูโรปา ลีก ต่ออีกปี

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า – เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า (กัปตันทีม), อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ดาวิด ลุยซ์, เอเมอร์สัน พัลมิเอรี่ – เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช (รอสส์ บาร์คลี่ย์ น.76) – เปโดร โรดริเกซ (วิลเลี่ยน น.71), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, เอแด็น อาซาร์ (ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า น.89)

อาร์เซน่อล (3-4-1-2) : ปีเตอร์ เช็ก – โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ (กัปตันทีม), นาโช่ มอนเรอัล (มัตเตโอ เกนดูซี่ น.66) – ไอน์สลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส, ลูคัส ตอร์เรยร่า (อเล็กซ์​ อิโวบี้ น.67), กรานิต ชาก้า, เซอัด โคลาซินัช – เมซุต โอซิล (โจ วิลล็อค น.78) – อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์,​ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง

ผู้ตัดสิน : จานลูก้า ร็อคคี่ (อิตาลี)