เมื่อน้องใหม่ไทยลีก โชว์ฟอร์มเปรี้ยงตั้งแต่ฤดูกาลแรก !!
ไทยลีก 2017 น้องใหม่อย่าง อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมออกสตาร์ทนำจ่าฝูงแบบช็อคแฟนบอล พร้อมจบปีด้วยอันดับที่ 10
ถือว่าไม่เลวทีเดียวสำหรับการลงเล่นบนลีกสูงสุดเป็นครั้งแรก ซึ่งในปี 2018 นี้ พีที ประจวบ เอฟซี คือทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นลีกสูงสุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์
วันนี้เราจึงอยากจะพาแฟนบอลไปย้อนดูกันว่า เคยมีทีมใดบ้างที่เลื่อนชั้นขึ้นมาปีแรก แล้วผลงานเปรี้ยงทันที!!
สมุทรสงคราม เอฟซี (2551)
ผลงาน : อันดับ 7
เจ้าของอันดับ 2 ดิวิชั่น 1 ปี 2550 ถูกกาหัวว่าจะเป็นทีมแรกที่มีสิทธิ์ตกชั้น เนื่องจากงบทำทีมที่ค่อนข้างจำกัด และไม่มีนักเตะชื่อคุ้นหูในทีม
แต่ในศึก ไทยลีก 2551 “ปลาทูคะนอง” ที่ไม่มีดาวดังกลับช่วยกันเล่นแบบที่เรียกได้ว่า ไม่ใช่ใครจะมาเอาแต้มกลับไปง่ายๆ และได้ผู้ทำประตูสูงสุดในทีมอย่าง ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร ที่ยิงถึง 7 ประตู
เมื่อจบฤดูกาล สมุทรสงคราม ที่ทำผลงานเซอร์ไพรส์ ยังได้รับรางวัล อันดับ 2 ของทีมที่มีพัฒนาการยอดเยี่ยมในทุกด้าน รองจาก ชลบุรี เอฟซี อีกด้วย
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (2552)
ผลงาน : แชมป์
ทัพ “กิเลนผยอง” ในชื่อ เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ขณะนั้น ก้าวขึ้นมาลีกสูงสุดของไทยครั้งแรก ซึ่งน้อยคนนักจะรู้จักนักเตะอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ดักโน่ เซียกา และซูมาโฮโร่ ยาย่า แต่ทุกคนกลับโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมออกมาพร้อมๆ กัน
หลังเกมที่ 30 จบลง ”โค้ชแต๊ก” อรรถพล ปุษปาคม พาทัพกิเลนผยอง เสียประตูน้อยที่สุดในลีกเพียงแค่ 20 ลูก เท่านั้น โดยห้องเครื่องอย่าง ดักโน่ คว้าตำแหน่งดาวซัลโวของทีม ด้วยการซัดไปถึง 10 ประตู
นั่นคือการสร้างประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ คว้าแชมป์ติดต่อกัน 3 ปี เริ่มจากดิวิชั่น 2, ดิวิชั่น1 และไทยลีก 2552 ก่อนที่ปีถัดมาจะป้องกันแชมป์ได้ต่อเนื่อง
และนับจากนั้นมา เมืองทอง ยูไนเต็ด กลายเป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดบนไทยลีกมาจนถึงปัจจุบัน
สุพรรณบุรี เอฟซี (2556)
ผลงาน : อันดับ 4
ด้วยความเป็นทีมกล้าทุ่มด้วยเป้าหมายพัฒนาให้ทีมยิ่งใหญ่ “บิ๊กท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา บอสใหญ่ของทีม อันดับ 2 จากดิวิชั่น 1 ปี 2555 ตั้งเป้าว่าปีแรกบนลีกสูงสุด จะต้องจบอันดับเลขตัวเดียวเป็นอย่างน้อย
อ.พยงค์ ขุนเณร โค้ชในเวลานั้น กลับทำผลงานสุดยอดกว่าที่คิด เมื่อพาทีมน้องใหม่โลดแล่นอยู่หัวตารางตั้งแต่เปิดยันจบซีซั่น หลังมีเกมรับที่เหนียวแน่นเสียเพียง 31 ประตู น้อยเป็นอันดับ 2 เป็นรองเพียงแชมป์อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เสียเพียง 23 ลูกเท่านั้น
นอกจากผลงานของทีมจะสวยหรู ยังเป็นปีแจ้งเกิดของดาวยิงชาวมอนเตเนโกร อย่าง ดราแกน บอสโควิช และ วุฒิชัย ทาทอง ที่ยิงรวมกันถึง 19 ประตู
นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี (2558)
ผลงาน : อันดับ 8
“สวาทเเคท” คว้าแชมป์ ดิวิชั่น 1 ในปี 2557 และกรุยทางสู่ไทยลีกเป็นครั้งแรกในปีถัดไป ด้วยฟอร์มอันดุดันในลีกพระรอง ทำให้ตอนเลื่อนชั้นขึ้นมา ถูกมองว่าจะไม่ใช่ทีมที่คู่แข่งยัดความพ่ายแพ้ให้ได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน
โคราช ใน ไทยลีก 2558 แม้ทำสกอร์ได้ค่อนข้างน้อย แต่กลับมีหลังบ้านที่ยอดเยี่ยม โดยเสียประตูเพียง 43 ลูก น้อยเป็นอันดับ 5 ของลีก
และอีกเรื่องที่น่าจดจำ คือการเป็นทีมที่ทำลายสถิติ มีคนดูเข้าสนามสูงสุดตลอดกาลของไทยลีก ในเกมดาร์บี้แมตช์อีสาน ที่เปิดบ้านพบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยมีผู้ชมถึง 34,659 คน
ดาวดังจากซีซั่นดังกล่าวหนีไม่พ้น บียอร์น ลินเดมันน์ ที่คว้าดาวซัลโวของทีม หลังซัดไป 7 ประตู
สุโขทัย เอฟซี (2559)
ผลงาน : อันดับ 7
“ค้างคาวไฟ” คว้าอันดับ 3 ดิวิชั่น1 ในปี 2558 พร้อมทะยานสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในปีที่แล้วนี้เอง ซึ่งด้วยความเป็นน้องใหม่จากต่างจังหวัด ที่ขึ้นมาในยุคที่หลายสโมสรอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้หลายคนมองว่า คงจะงานหนักพอสมควรกับการอยู่รอดในไทยลีกให้ได้
แต่แกนหลักของทีม ที่เป็นแข้งต่างชาติอย่าง ดิยุฟ บิรัม , อันทอน เซมลิเอนุกกิน และ จอห์น บาจโจ้ ทำให้เกมรุกมีความดุดันสุดๆ หลังช่วยกันยิงรวม 24 ประตู กับอีก 31 แอสซิสต์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรนัน มาร์เกวซ กดไป 15 ประตู กลายเป็นดาวซัลโวประจำทีม พา สุโขทัย จบถึงอันดับ 7 ของตาราง แถมยังดวงดี เมื่อเป็น 1 ใน 4 ทีมรอบรอง เอฟเอ คัพ แล้วจับฉลากคว้าสิทธิ์ลุย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือกในปี 2017 ไปครอง
แม้ขนาดทีมจะยังไม่ใหญ่ขนาดบิ๊กทีมทั่วไป แต่อย่างน้อยทัพค้างคาวไฟ ก็เข้าไปสู่กับ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ที่มีทั้ง ออสการ์ และ ฮัล์ค ได้อย่างสนุกเลยทีเดียว แม้สุดท้ายจะพ่ายไปก็ตาม
อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด (2560)
ผลงาน : อันดับ 10
พญาอินทรี คว้ารองแชมป์ยามาฮ่า ลีกวัน 2016 พร้อมรับสิทธิ์เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และด้วยความคึกคะนองพวกเขามีเป้าหมายปีแรกสูงถึงติด Top5 เลยทีเดียว
ซึ่งออกสตาร์ท 3 เกมแรกใครจะไปคิดว่า อุบล ยูเอ็มที จะผงาดขึ้นนำจ่าฝูงแบบงงกันทั้งประเทศ ด้วยแกนหลักชุดนี้ที่นำมาโดย จอนาตา แวร์ซูร่า, สิโรจน์ ฉัตรทอง, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ และ เนบิญ่า บายรัม
โดยเฉพาะราย คาร์โดโซ่ โชว์ฟอร์มโหดไม่สมกับเป็นกองหลังเมื่อซัดให้ทีมมากถึง 11 เม็ด แม้สุดท้ายพวกเขาจะจบเพียงกลางตาราง แต่ก็ต้องยอมรับในความใจสู้อย่างแท้จริง
แต่น่าเป็นห่วงในปี 2018 เหลือเกินหลัง แกนหลักทั้งหมดได้ย้ายไปเล่นทีมอื่นหมดแล้ว ต้องรอดูว่าจะมีดีลไหนมาทดแทน และพวกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหนในปีที่ 2 ของลีกสูงสุดในไทย
จากตัวอย่างที่ยกมานั้น ใช่ว่าทีมน้องใหม่จะไม่มีสิทธิ์ในการลุ้นแชมป์ หรือโควตาไปเล่นระดับทวีป นั่นหมายความว่า ชัยนาท ฮอร์นบิล, แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี และ พีที ประจวบ หากเตรียมความพร้อมได้เป็นอย่างดี
แต่สำหรับ ไทยลีก 2018 ที่กำลังจะเริ่มขึ้นนั้นนั้น มาตรฐานของทัทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาจะดีเพียงใด ผลงานและเวลาเท่านั้น จะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง
