ปีนี้ก็ใกล้แล้ว!! ย้อน 9 ปีหลังแชมป์ไทยลีก คว้าแชมป์นัดไหน

ไทยลีก 2009 : เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด : คว้าแชมป์นัดที่ 29 (จาก 30 นัด)

ทีมน้องใหม่ในเวลานั้นมีแต้มนำ ชลบุรี เอฟซี อยู่เพียง 3 แต้มก่อนลงเล่น 2 นัดสุดท้ายของฤดูกาล

แต่ เมืองทอง ได้เปรียบสุดๆ จาก H2H ที่ดีกว่า (ชนะ 5-2, เสมอ 1-1) ทำให้พวกเขาขอแค่ 3 คะแนนจากกมที่เหลือก็จะการันตีคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกทันที

และแล้ว กิเลนผยอง ก็เปิดบ้านเฉือน โอสถสภา 2-1 คว้าสามแต้มสำคัญครองแชมป์ไทยลีก พร้อมสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ 3 ปีติดตั้งแต่ ดิวิชั่น 2, ดิวิชั่น 1 และลีกสูงสุดติดต่อกันเป็นทีมแรก และเทีมเดียวในไทยยาวมาจนถึงปัจจุบัน

ไทยลีก 2010 : เมืองทอง ยูไนเต็ด : คว้าแชมป์นัดที่ 29 (แข่ง 30 นัด)

เมืองทอง ยังคงฟอร์มเทพอย่างต่อเนื่องโดยในปีนี้ พวกเขานำ บุรีรัมย์ พีอีเอ ไปถึง 6 แต้มจากการลงเล่นไป 28 นัด นั่นหมายความว่าอีก 2 เกมที่เหลือขอแค่มีสักแต้มก็จะป้องกันแชมป์ได้ทันที

และในนัดที่ 29 แม้ บุรีรัมย์ พีอีเอ จะคว้าชัยได้ แต่ กิเลนผยอง ก็ไม่ต้องให้แฟนบอลคอยนานหลังบุกเสมอ สมุทรสงคราม เอฟซี 0-0

ขยับให้ช่องว่างห่างเป็น 4 แต้มก่อนเกมสุดท้ายคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่

ไทยลีก 2011 : บุรีรัมย์ พีทีเอ : คว้าแชมป์นัดที่ 30 (จาก 34 นัด)

เป็นปีที่ยอดเยี่ยมสุดๆ ของ บุรีรัมย์ พีอีเอ หลังทำผลงานแจ่มตั้งแต่ต้นซีซั่นพร้อมทำแต้มหนีอันดับสองอย่าง ชลบุรี เอฟซี ไปไกล 14 คะแนนจากการลงเล่นไปเพียง 29 นัดเท่านั้น

ก่อนที่เกมต่อมา ทัพปราสาทสายฟ้า จะบุกเฉือน ศรีราชา 1-0 เก็บสามแต้มล้ำค่าให้ระยะห่างเหลือ 14 คะแนนเท่าเดิม กับโปรแกรมที่เหลือแค่ 4 นัด ทำให้ยังไงก็ตาม ฉลามชล ก็ไล่ไม่ทันแน่ๆ ส่งผลให้พวกเขาคว้าแชมป์ไทยลีกครั้งแรกในชื่อทีม บุรีรัมย์ ไปครองได้สำเร็จ

ไทยลีก 2012 : เมืองทอง ยูไนเต็ด : คว้าแชมป์นัดที่ 31 (จาก 34 นัด)

หลังลงเล่นกันไปทีมละ 30 นัด กิเลนผยอง ครองจ่าฝูงแบบรอเวลาคว้าแชมป์นำ ชลบุรี เอฟซี ไปไกล 11 คะแนนเต็ม 4 นัดที่เหลือขอ 2 แต้มก็คว้าแชมป์ได้อีกทันที

สุดท้ายก็ไม่ต้องรอนานเมื่อนัดที่ 31 เมืองทอง ชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล 1-0 ทำแต้มทิ้ง ฉลามชล ขาดชนิดที่ไม่ต้องไล่ตามให้เสียเวลากับอีก 4 เกมที่เหลือ

คว้าแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 3 ในรอบ 4 ปี พร้อมทำสถิติไร้พ่ายทีมแรกในลีกสูงสุดไปครองอย่างยิ่งใหญ่

ไทยลีก 2013 : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : คว้าแชมป์นัดที่ 31 (จาก 32 นัด)

บุรีรัมย์ ยูไนต็ด ต้องลุ้นกันเหนื่อยเหมือนกันหลังลงเล่นครบ 30 นัดมีแต้มนำ แชมป์เก่า 3 คะแนนก่อนลงเล่น 2 เกมสุดท้ายทำให้มีโอกาสสูงที่ปีนี้ต้องไปลุ้นกันจนถึงเกมปิดซีซั่น

แต่แล้วในนัดที่ 31 เมืองทอง ก็พลาดเสมอ ส่งผลให้ บุรีรัมย์ ที่ชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-0 คว้าแชมป์ไปทันที หลังขยับหนีไปเป็น 5 แต้มก่อนลงเล่นนัดสุดท้าย

ที่สำคัญ ทัพปราสาทสายฟ้า ยังทำสถิติไร้พ่ายเป็นครั้งแรกของสโมสร และเป็นทีมที่สองต่อจาก กิเลนผยอง ได้อย่างน่าชื่นชม

ไทยลีก 2014 : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : คว้าแชมป์ในนัดที่ 38 (จาก 38 นัด)

นี่เป็นไทยลีกปีแรก และปีเดียวที่มีทีมมากถึง 20 สโมสรร่วมแข่งขัน และนี่ก็เป็นฤดูกาลที่ลุ้นหาแชมป์อย่างเฉียดฉิวมากที่สุดด้วยเช่นกัน

บุรีรัมย์ แชมป์เก่า ยังคงฟอร์มดีสมทีมเต็ง แต่ที่น่าสนใจคือ ชลบุรี เอฟซี ปีนี้ก็มีผลงานที่ไม่ธรรมดาเหมือนกัน

เพราะเมื่อลงเล่นครบ 37 นัดจ่าฝูงอย่าง ทัพปราสาทสายฟ้า มีแต้มนนำทีมอันดับสองอย่าง ฉลามชล แค่แต้มเดียวเท่านั้น

นั่นหมายความว่านัดสุดท้ายนี่ออกได้ทุกหน้าจริงๆ แต่แล้วด้วยมาตรฐานทีมที่ดีกว่าของ บุรีรัมย์ ก็สามารถคว้าชัยเหนือเพื่อนตำรวจ ไปได้พร้อมปิดจ๊อบป้องกันแชมป์ได้สำเร็จเหนือ ชลบุรี ที่พลาดเสมอในนัดสุดท้ายพลาดการคว้าแชมป์ลีกในรอบ 7 ปีไปอย่างช้ำใจ

ไทยลีก 2015 : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : คว้าแชมป์นัดที่ 31 (จาก 34 นัด)

บุรีรัมย์ ยังสานต่อความยอดเยี่ยมได้แบบไม่หยุดเมื่อพวกเขานำ เมืองทอง ไปถึง 10 คะแนนก่อนลงเล่น 4 นัดสุดท้าย

ก่อนที่จะบุกอัด บางกอกกล๊าส เอฟซี 3-1 เก็บสามแต้มสำคัญปิดซีซั่นนี้ไปตั้งแต่นัดที่ 31 คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันอย่างยิ่งใหญ่ แถมเป็นการคว้าแชมป์แบบไร้พ่ายของ บุรีรัมย์ เป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์อีกด้วย

โดยเฉพาะ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมปีแรกก็กดไป 33 ประตูก่อนจะประกาศตัวเองเป็นแข้งนอกที่ดีที่สุดในไทยไปแล้วในเวลานี้

ไทยลีก 2016 : เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด : คว้าแชมป์นัดที่ 31 (จาก 34 นัด)

ปีนี้ เมืองทอง เสริมซุปตาร์ทีมชาติไทยล้นทีมไม่ว่าจะเป็น ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ทริสตอง โด, อดิศักดิ์ ไกรษร รวมทั้ง ธีราทร บุญมาทัน ที่ย้ายมาร่วมในเลกสองแบบฮือฮา

ทำให้เขากลายเป็นทีมทีแข็งแกร่งที่สุดในไทยปีนี้ทำแต้มทิ้ง แบงค็อก ยูไนเต็ด 5 แต้มหลังลงเล่นครบ 31 นัด

ก่อนจะเกิดเรื่องเศร้ากับประชาชนชาวไทยในช่วงเดือนตุลาคน ทำให้ไทยลีกตัดสินใจยุติฟุตบอลลีกที่เหลือทุกระดับ

ส่งผลให้ กิเลนผยอง คว้าแชมป์ไปแบบงงๆ และก็ทำเอาทีมอย่าง บียู เซ็งอยู่เหมือนกันเพราะเหลือการแข่งขันอีกตั้ง 3 นัด กับช่องว่างแค่ 5 คะแนน มันก็มากพอที่จะทำให้จ่าฝูงเปลี่ยนมือได้เหมือนกัน

ไทยลีก 2017 : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : คว้าแชมป์นัดที่ 32 (จาก 34 นัด)

บุรีรัมย์ ออกสตาร์ทได้ไม่ดีนักโดน เมืองทอง ทิ้งห่างไปไกลถึง 7 แต้ม ก่อนกลับมาคืนฟอร์มเทพอีกครั้งในช่วงเลกสอง

และในที่สุดก็แซงนำจ่าฝูงทิ้งห่างแชมป์เก่าไปไกล 11 แต้มหลังลงเล่นนัดที่ 31 (เมืองทอง ลงเล่นน้อยกว่า 1 นัด)

จากนั้นในเกมที่ 32 พวกเขาก็เปิดบ้านถล่ม บีอีซี เทโรศาสน 4-0 คว้าชัยสำคัญทิ้งห่าง เมืองทอง ไปไกล 14 คะแนน แม้ กิเลนผยอง จะมีเกมในมืออีก 4 นัด แต่ก็ไม่มีโอกาสไล่ทัน

ทำให้ ทัพปราสาทสายฟ้า คัมแบ็กทวงแชมป์คืน พร้อมกลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์ไทยลีกได้มากที่สุดเหนือทุกทีมถึง 5 สมัย

เท่านั้นยังไม่พอเพราะในปีนั้น บุรีรัมย์ ทำแต้มไปได้ถึง 86 คะแนนมากที่สุดในประวัติศาสตร์บอลไทยอีกเช่นกัน

ในปีนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็ขออีกแค่ 3 คะแนนจากอีก 4 เกมที่เหลือก็จะคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 6 ไปครองทันที

แต่เป้าหมายของ ทัพปราสาทสายฟ้า ไม่ต้องรอนานขนาดนั้นเพราะถ้าคืนนี้พวกเขาเปิดบ้านชนะ โปลิศ เทโร เอฟซี แชมป์ไทยลีก 2018 ก็จะตกอยู่ที่ดินแดนอีสานใต้ต่ออีกปีอย่างเป็นทางการ