กองแช่งช็อคทั้งโลก!! หงส์พลิกนรก ยำใหญ่บาร์ซ่า 4-0 ลิ่วชิง UCL 2 ปีซ้อนลิเวอร์พูล พลิกสถานการณ์เปิดบ้านถล่ม บาร์เซโลน่า 4-0 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยสกอร์รวม 4-3
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2
ลิเวอร์พูล 4-0 บาร์เซโลน่า
(รวมผล 2 นัด ลิเวอร์พูล ผ่านเข้าชิงด้วยประตูรวม 4-3)
สนาม : แอนฟิลด์ (ลิเวอร์พูล, อังกฤษ)
เกมบิ๊กแมตช์ถ้วยใหญ่ยุโรปนัดชี้ชะตา ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องชนะด้วยผลต่างอย่างน้อย 4 ลูกโดยไม่เสียประตู หากต้องการผ่านเข้าชิงโดยไม่ต้องต่อเวลา หลังจากเกมแรกที่ คัมป์ นู เป็น บาร์เซโลน่า ชนะขาดมาก่อน 3-0
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือหงส์แดง ต้องขาด โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ 2 ตัวรุกคนสำคัญที่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ เซอร์ดาน ชากิรี่ และ ดิว็อค โอริกี้ ได้โอกาสลงตัวจริงแทน
ส่วน เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์ของบาร์ซ่า ใช้ 11 ตัวจริงชุดเดียวจากเกมที่ถล่มหงส์แดง 3-0 เมื่อสัปดาห์ก่อนทั้งหมด โดยแนวรุกยังนำมาโดย ลิโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ
เปิดเกมมาแค่ 7 นาที ลิเวอร์พูล นำ 1-0 อย่างรวดเร็ว เมื่อ ซาดิโอ มาเน่ กระดกบอลให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เติมขึ้นสูงมาถึงในเขตโทษ หลุดไปยิงติดเซฟ มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น ในจังหวะแรก แต่บอลยังเข้าทาง ดิว็อค โอริกี้ แปซ้ำโล่งๆ เข้าไป
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก บาร์เซโลน่า เกือบจะตีเสมอได้ เมื่อสวนกลับขึ้นมาแล้ว ลิโอเนล เมสซี่ บรรจงจ่ายทะลุช่องให้ จอร์ดี้ อัลบา วิ่งเติมหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ แต่ว่า อาลีสซง เบ็คเกอร์ อ่านเกมได้เยี่ยม ออกจากเส้นประตูมาบล็อคได้ทัน
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล จึงนำ บาร์เซโลน่า 1-0
ครึ่งหลัง นาที 51 ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูที่ 2 เมื่อมาได้เตะมุมฝั่งซ้าย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดไปหน้าประตูให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ตวัดยิงตามน้ำ แต่ว่าไปติดเซฟของ มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น
นาที 54 ลิเวอร์พูล ได้ประตูไล่มาอีกเป็น 2-0 เมื่อ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อาศัยความขยัน เติมขึ้นไปตัดบอลได้ทางฝั่งขวา ก่อนเปิดบอลแฉลบผู้เล่นบาร์ซ่าเลยไปถึงบริเวณจุดโทษ แล้วเป็น จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม กองกลางตัวสำรอง สอดขึ้นมาแปเต็มแรงตุงตาข่าย
นาที 56 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูสำคัญ หนีห่างไปเป็น 3-0 อย่างไม่น่าเชื่อ คราวนี้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายบอลออกซ้ายไปให้ เซอร์ดาน ชากิรี่ แต่งก่อนบรรจงครอสเน้นๆ ไปหน้าประตูให้ ไวจ์นัลดุม คนเดิม เทกตัวโขกเสียบเสาแรกเข้าไป
นาที 68 บาร์เซโลน่า เกือบจะตีไข่แตกได้ เมื่อ อิวาน ราคิติช เบิ้ลบอลเข้าเขตโทษให้ ลิโอเนล เมสซี่ หลุดไปพักอกเอาบอลลงแล้วซัดมุมแคบ แต่ว่ายิงไปติดเซฟของ อาลีสซง เบ็คเกอร์
นาที 79 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูสำคัญ นำห่างเป็น 4-0 เมื่อ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ฉวยโอกาสเล่นลูกสูตรเตะมุม รีบเปิดเรียดเร็วไปหน้าประตูให้ ดิว็อค โอริกี้ ตวัดยิงตามน้ำเข้าเสาไกลไปแบบไม่มีคนประกบ ซึ่งหากจบสกอร์นี้ ลิเวอร์พูล จะเป็นฝ่ายพลิกสถานการณ์ผ่านเข้าชิงแทน
จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือ บาร์เซโลน่า ยังไม่สามารถทำประตูคืนได้ จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ บาร์เซโลน่า 4-0 ทำให้ทีมหงส์แดงพลิกสถานการณ์ผ่านเข้าชิงชนะเลิศเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันอย่างช็อคโลก
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม น.46) – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (กัปตันทีม), ฟาบินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์ – เซอร์ดาน ชากิรี่ (แดเนียล สเตอร์ริดจ์ น.90), ดิว็อค โอริกี้ (โจ โกเมซ น.85), ซาดิโอ มาเน่
บาร์เซโลน่า (4-4-2) : มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น – เซร์กี้ โรเบร์โต้, เคราร์ด ปีเก้, เกลม็องต์ ล็องเกล้ต์, จอร์ดี้ อัลบา – อาร์ตูโร่ วิดาล (อาร์ตูร์ น.75), อิวาน ราคิติช (มัลค่อม น.80), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (เนลซอน เซเมโด้ น.60) – ลิโอเนล เมสซี่ (กัปตันทีม), หลุยส์ ซัวเรซ
ผู้ตัดสิน : คูเนย์ต ชาคีร์ (ตุรกี)
