ยุโรปนี้ หงส์แดงครอง!! เชือดไก่เดือยทอง 2-0 ซิวแชมป์สมัย 6

ยุโรปนี้ หงส์แดงครอง!! เชือดไก่เดือยทอง 2-0 ซิวแชมป์สมัย 6
ยุโรปนี้ หงส์แดงครอง!! เชือดไก่เดือยทอง 2-0 ซิวแชมป์สมัย 6

ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 เมื่อเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-0

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-2 ลิเวอร์พูล

สนาม : ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ (มาดริด, สเปน)

เกมนัดชิงเจ้ายุโรประหว่าง 2 ทีมดังร่วมเกาะอังกฤษ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ผ่านเข้าชิงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พบกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นรองแชมป์จากปีก่อน

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือทีมไก่เดือยทอง ได้ตัว แฮร์รี่ เคน ดาวยิงตัวเก่งหายเจ็บกลับมาลงตัวจริง โดยจับคู่กับ ซน ฮึง-มิน ในแดนหน้า ปล่อยให้ ลูคัส มูร่า ตัวรุกทีมชาติบราซิล ซึ่งเป็นแฮตทริกฮีโร่ดับ อาแจ็กซ์ ในรอบรองชนะเลิศเป็นแค่ตัวสำรอง

ขณะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หัวหอกที่ฟิตสมบูรณ์แล้วลงยืนกองหน้าตัวเป้าเช่นกัน ถือว่าเป็น 11 คนแรกชุดที่ดีที่สุดเลยทีเดียว

โดยก่อนเกมจะเริ่ม มีการให้ทั้งสนามยืนสงบนิ่ง 1 นาที เพื่อไว้อาลัยให้กับ โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส อดีตปีกทีมชาติสเปน และอดีตผู้เล่นของอาร์เซน่อล ที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ด้วย

เปิดเกมมาแค่ 29 วินาที ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาเสียจุดโทษ เมื่อ ซาดิโอ มาเน่ กระดกบอลไปติดแขน มุสซ่า ซิสโซโก้ ที่ยกขึ้นมาอย่างตั้งใจ ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะรับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ ลิเวอร์พูล นำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 2 ของเกม

นาที 17 ลิเวอร์พูล มีลุ้นประตูที่ 2 เมื่อ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาเติมขึ้นมาส่องไกล แต่บอลกระดอนพื้นเฉี่ยวเสาออกหลังไป

นาที 38 เป็นโอกาสลุ้นยิงไกลของ ลิเวอร์พูล อีกครั้ง คราวนี้เป็นแบ็กซ้ายอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ลากบอลขึ้นมาตะบันเต็มข้อ บอลหวุดหวิดจะเข้าประตู แต่ อูโก้ โยริส โดดปัดทิ้งข้ามคานออกไป

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก  ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ลุ้นจากจังหวะยิงไกลด้วยซ้ายของ คริสเตียน เอริคเซ่น แต่ก็ซัดเหินข้ามคานออกหลังไปอีก

จบครึ่งแรก สเปอร์ส จึงตามหลัง ลิเวอร์พูล 0-1

ครึ่งหลัง นาที 69 ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูเพิ่ม เมื่อ ซาดิโอ มาเน่ เลี้ยงกินตัวนักเตะ สเปอร์ส ก่อนจะหาจังหวะจ่ายบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สะกิดสั้นๆ ให้ เจมส์ มิลเนอร์ ตัวสำรอง เติมขึ้นมาซัดตามน้ำ แต่บอลออกหลังไปนิดเดียว แม้ว่า อูโก้ โยริส จะยืนขาตายไปแล้วก็ตาม

นาที 73 สเปอร์ส ต่อบอลขึ้นมาได้สวย แล้วจังหวะสุดท้าย ซน ฮึง-มิน ไหลบอลออกซ้ายให้ เดเล่ อัลลี่ ตวัดยิงชิพกะจะให้ลอยข้ามหัว อาลีสซง เบ็คเกอร์ ที่ออกมาจากเส้นประตู แต่ว่ายิงเบาเกินไป อาลีสซง จึงถอยลงไปกระโดดคว้าได้ไม่มีปัญหา

นาที 80 เป็นจังหวะที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ น่าจะได้ประตูมากที่สุด เมื่อ ซน ฮึง-มิน หาเหลี่ยมซัดเต็มข้อจากนอกเขตโทษ แต่ว่าโดน อาลีสซง เบ็คเกอร์ พุ่งปัดได้ และแม้ว่าอีกไม่กี่วินาทีถัดมา แดนนี่ โรส จะเติมขึ้นมาจ่ายให้ ลูคัส มูร่า ได้ยิงเน้นๆ ในเขตโทษอีกหน ก็ยังไม่ผ่านมือ อาลีสซง อีก

นาที 85 สเปอร์ส มาได้ฟรีคิกริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วเป็น คริสเตียน เอริคเซ่น วิ่งเข้าปั่นโค้งเน้นๆ กะจะให้เข้าเสาไกล แต่ว่า อาลีสซง เบ็คเกอร์ โชว์ซูเปอร์เซฟ บินปัดออกหลังได้อย่างสุดยอด

นาที 87 เป็น ลิเวอร์พูล หนีห่างเป็น 2-0 เมื่อมาได้เตะมุมฝั่งขวา แล้วกองหลัง สเปอร์ส เคลียร์กันไม่ขาด จังหวะสุดท้าย บอลเข้าทาง ดิว็อค โอริกี้ ได้ตวัดยิงด้วยซ้าย ส่งบอลผ่านมือ อูโก้ โยริส เสียบเสาไกลเข้าไป

นาที 90+3 สเปอร์ส ได้ลุ้นตีไข่แตกอีกครั้ง จากจังหวะเลี้ยงขึ้นมาซัดด้วยซ้ายกะให้เข้าเสาไกลของ ซน ฮึง-มิน แต่ยังโดน อาลีสซง ล้มตัวเซฟได้อีก

จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-0 ทำให้ทีมหงส์แดงคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่ 6 และเป็นแชมป์ UCL ครั้งแรกของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ด้วย

 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (4-3-1-2) : อูโก้ โยริส​ (กัปตันทีม) – คีแรน ทริปเปียร์, โทบี้ อัลเดอร์แวเรลด์, แยน แฟร์ต็องเก้น, แดนนี่ โรส – มุสซ่า ซิสโซโก้ (เอริก ดายเออร์ น.74), แฮร์รี่ วิงค์ส (ลูคัส มูร่า น.66), คริสเตียน เอริคเซ่น – เดเล่ อัลลี่ (เฟร์นานโด ยอเรนเต้ น.82) – ซน ฮึง-มิน, แฮร์รี่ เคน

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (กัปตันทีม), ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (เจมส์ มิลเนอร์ น.62) – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ดิว็อค โอริกี้ น.58), ซาดิโอ มาเน่ (โจ โกเมซ น.90)

ผู้ตัดสิน : ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)