9 นักเตะไทยลีก 2018 ฟอร์มดีน่าเสียดายไม่มีชื่อลุย เอเชียนเกมส์ 2018
หลังจากเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ได้ทำการประกาศรายชื่อ 29 นักเตะชุดเตรียมลุยเอเชียนเกมส์ 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปรากฎว่าแข้งดังหลักๆ ที่ติดชุดนี้มาโดยตลอดก็เรียงหน้ากันเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงกันไม่ว่าจะเป็น เจนรบ สำเภาดี, ชัยวัฒน์ บุราญ, สุริยา สิงห์มุ้ย รวมทั้ง สุภโชค สารชาติ และ ศุภชัย ใจเด็ด ที่ฟอร์มกำลังแรง
ในขณะเดียวกันก็มีหลายคนเหมือนกันที่ไม่มีชื่อในทีมชุดนี้ จนแฟนบอลหลายคนต่างถามหาเหมือนกัน
และนี่คือ 9 แข้งฟอร์มดีน่าเสียดายไม่มีชื่อลุยเอเชียนเกมส์ในช่วงกลางเดือนนี้!!
ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ตำแหน่ง : ปีก, วิงแบ็ก
อายุ : 22 ปี
ถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของ เจ้าพี เลยก็ว่าได้หลังขึ้นมาเป็นตัวหลักของ บุรีรัมย์ อย่างเต็มตัว และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งขวา
ด้วยสไตล์ วิ่งสู้ฟัด ขึ้นสุดลงสุด เล่นได้หมดในตำแหน่งริมเส้นไม่ว่าจะเป็นปีก หรือ แบ็กก็ตาม จนมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้วยผลงานยิง 1 แอสซิสต์ 4 ตลอด 19 เกมที่ลงสนามในไทยลีกปีนี้ หลายคนคาดว่าเขานี่แหละน่าจะเป็นตัวหลัก ช้างศึก U23 สักทีหลังหลุดไปในชิงแชมป์เอเชียที่ผ่านมา
แต่แล้ว ศศลักษณ์ กลับโชคร้ายเจ็บเข่าพักมาราว 1 เดือนแล้ว และยังไม่สามารถเรียกฟิตกลับมาได้สักทีทำให้ถูกตัดชื่อทิ้งไปในช่วงโค้งสุดท้ายแบบน่าผิดหวังจริงๆ
อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (บางกอกล๊าส เอฟซี)
ตำแหน่ง : ปีก, กลางรุก
อายุ : 20 ปี
ปีกตัวจี๊ดจากอคาเดมี่ บุรีรัมย์ ย้ายข้ามฟากมายัง บางกอกกล๊าส ด้วยสัญญา ยืมตัวในช่วงเลกสอง โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน
พร้อมก้าวมาเป็นตัวหลักของทีมทันที และสร้างผลงานยิง 3 แอสซิสต์ 5 จากการลงเล่นให้ทีมไปเพียง 8 เกมเท่านั้น
จากฟอร์มโดยรวมจึงเป็นเรื่องน่าแปลกที่ “เจ้านนท์” ไม่มีชื่อครั้งนี้ แต่จากเหตุผลของสมาคมคือ ไทย U23 ต้องส่งชื่อ 30 คนแรกไปตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่แล้ว
ซึ่งตอนนั้น อานนท์ ฟอร์มยังไม่ดีแบบนี้ และยังไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากนัก ทำให้ไม่สามารถเพิ่มชื่อเขาไปได้แล้วในช่วงเวลาประกาศรายชื่อล่าสุดนั่นเอง
แม้เหตุผลครั้งนี้จะพอฟังขึ้น แต่จากรายชื่อที่ส่งมาทั้งหมด บางรายก็แทบจะไม่ได้รับโอกาสลงสนามเลยเช่นกัน หรือบางที อานนท์ อาจไม่ใช่นักเตะที่ทีมชุดนี้ต้องการใช้กันแน่??
อภิสิทธิ์ โสรฎา (บางกอกกล๊าส เอฟซี)
ตำแหน่ง : ปีกซ้าย, วิงแบ็กซ้าย
อายุ : 21 ปี
ดาวรุ่งตัวจี๊ดจากบีจี สร้างชื่อมาตั้งแต่ซีซั่นที่แล้วในตำแหน่งวิงแบ็ก และปีกฝั่งซ้าย แต่ปีนี้ในช่วงแรกกลับถูก จักรกฤษณ์ ลาภตระกูล แย่งตำแหน่งไปซะบ่อย
แต่แล้วการกลับมาทวงตำแหน่งคืนของ “เจ้าเจมส์” กลับทำผลงานได้อย่างเข้าตาจนยึดตัวหลักไว้เรียบร้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาที่ บางกอกกล๊าส ท็อปฟอร์มในตอนนี้ก็ถือว่าเขาเป็นอีกกุญแจสำคัญที่เข้ามาเติมเกมรุก
แต่ด้วยทีมตอนนี้มีทั้ง ชัยวัฒน์ บุราญ, สุริยา สิงห์มุ้ย รวมทั้ง เควิน ดีรมรัมย์ ที่ประจำการฝั่งซ้ายอยู่แล้วก็น่าเห็นใจ อภิสิทธิ์ เหมือนกันกับโอกาสเบียดที่ยากเหลือเกิน
นิรันดร์ มีมาก (โปลิศ เทโร เอฟซี)
ตำแหน่ง : กองหลัง
อายุ : 22 ปี
เป็นกองหลังลูกครึ่งที่ดูจะแข็งแกร่งขึ้นมากในปีนี้ หลังก้าวมาเป็นตัวหลักเต็มตัว และมีโอกาสลงสนามช่วยทีมมังกรโล่เงิน มากถึง 21 นัดในซีซั่นนี้
และลงสนามครบ 90 นาทีเต็มตลอด 17 เกมหลังสุดด้วย แม้ฟอร์มโดยรวมของทีมจะไม่ค่อยดีนัก แต่ด้วยรูปร่างที่หนา และสูงใหญ่ ก็น่าสนใจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในเกมรับเหมือนกัน
ที่ผ่านมา นิรันดร์ ก็มีชื่อติดทีมชุด U23 มาเรื่อยๆ ในช่วงปีที่ผานมาในเกมอุ่นเครื่อง แต่ก็น่าแปลกเหมือนกันที่เวลาถึงรายการแข่งจริง กลับไม่เคยติดเลยสักครั้งเดียว
มาร์โค บัลลินี่ (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
ตำแหน่ง : กองหลัง
อายุ : 20 ปี
รู้กันอยู่แล้วว่า ทีมชาติไทย เวลาไปลุยบอลระดับเอเชียสิ่งที่โดนโจมตีมากที่สุดคือ ลูกกลางอากาศ
แต่สุดท้ายจากรายชื่อที่ส่งไปก็มีเซนเตอร์ร่างใหญ่ๆ ระดับ 180 ซ.ม. ขึ้นไปแค่ 2 รายเท่านั้น และน่าแปลกที่ดาวรุ่งลูกครึ่งอิตาลี ไม่ติดทีมไปเฉย
แม้ช่วง 12 เกมแรกจะไม่ได้โอกาสลงสนามเลย เพราะอยู่ในช่วงปรับตัว แต่ด้วยความสูงเกือบๆ จะแตะ 2 เมตร และปรับตัวได้กับบอลไทยทำให้ มาร์โค ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง
และพา ชัยนาท ชนะถึง 7 นัด จาก 11 เกมที่ลงสนาม พร้อมพาทีมคว้าไปอีก 2 คลีนชีตอีกต่างหาก
ด้วยสไตล์ยุโรปแบบนี้ โดดเด่นเรื่องลูกกลางอากาศ ก็น่าคิดเหมือนกันทำไมไม่ติดไปด้วย หรืออาจจะเพราะอายุเพิ่งจะแตะ 20 จึงทำให้ดูประสบการณ์น้อยไปก็ไม่แน่เหมือนกัน
ศรายุทธ สมพิมพ์ (แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี)
ตำแหน่ง : กองหลัง
อายุ : 21 ปี
เป็นกองหลังอีกคนที่ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ แอร์ฟอร์ซ ในช่วงเลกสอง
ที่สำคัญในวัยเพียง 21 ปีกลับได้รับบทบาทกัปตันทีมคนใหม่แทนที่ของ ธนา ศรีพันดร ที่เจ็บไปก็น่าจะบอกได้ดีแล้วว่าเด็กคนนี้มีของแค่ไหน
“เจ้าตาหวาน” สวมปลอกแขนนำทีมลงสนามตลอด 6 เกมล่าสุดในลีกด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดในซีซั่นนี้แล้ว
โดยเฉพาะ 4 เกมหลังสุด อินทรีทัพฟ้า ไร้พ่ายเก็บแต้มอย่างต่อเนื่อง แถมเล่นได้หมดทั้งกองหลัง และแบ็กขวา ก็ถือว่าน่าเสียดายอะไหล่ชั้นดีแบบนี้เหมือนกัน
สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ (ชลบุรี เอฟซี)
ตำแหน่ง : กองกลาง
อายุ : 20 ปี
ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักเต็มตัวในปีนี้สำหรับ “เจ้าแจ็บ” โดยยืนคู่กับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ได้อย่างเข้าขากันเหลือเกิน
เขาได้รับโอกาสลงสนามมากถึง 20 นัด และยิงให้ ฉลามชล ไป 1 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์
ด้วยสไตล์กลางพันธุ์ดุรับได้ รุกดี วางบอลแม่นทั้งสั้น และยาว จึงทำให้หลายคนเสียดาย สหรัฐ ที่ผลงานกำลังดีในตอนนี้เหมือนกัน
แถมเมื่อดูจากรายชื่อในทีมตอนนี้แผงมิดฟิลด์เราก็ดูจะขาดตัวแข็งๆ สายถึกไว้ชนกับยักษ์ใหญ่เอเชียอยู่ด้วย
เสฎฐวุฒิ วงค์สาย (ชลบุรี เอฟซี)
ตำแหน่ง : กองหน้า
อายุ : 21 ปี
เรียกได้ว่าเป็นตัวเต็งอีกคนที่น่าจะติดทีมชุดนี้แน่ๆ หลังขึ้นมาทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการครั้งแรกในปีนี้
และเป็น ซูเปอร์ซับของ ฉลามชล อย่างแท้จริงหลังยิงประตูสำคัญให้ทีมไปถึง 2 ลูกในซีซั่นนี้ ด้วยสไตล์แข็ง, เร็ว คมกริบ น่าพกไปชนตัวโหดๆ ในเอเชียมากเหลือเกิน
แต่แล้วก็เหมือนโชคไม่เข้าข้างเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว “เจ้าบาส” เจ็บในเกมลีกที่พบกับ ชัยนาท และผลตรวจพบว่า เอ็นไขว้หน้าหัวเข่าขวาขาด และ หมอนรองกระดูกฉีก ต้องพักยาวอย่างน้อย 6 เดือน
ปิดฉากไทยลีก 2018 และหมดโอกาสไปวาดลวดลายที่อินโดนีเซียด้วยทันที
พิชา อุทรา (พัทยา ยูไนเต็ด)
ตำแหน่ง : ปีก, กลางรุก, กองหน้า
อายุ : 22 ปี
ก่อนหน้านี้ พิชา คือตัวหลักของช้างศึก U23 มาตลอดหลายรายการที่ผ่านมา ตั้งแต่รอบคัดเลือก ชิงแชมป์เอเชีย จนถึงรอบสุดท้ายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
โดยเฉพาะชุดป้องกันแชมป์ซีเกมส์ 2017 “เจ้าเคน” นี่แหละคือดาวซัโซทีมชุดนั้นซัดไป 6 ลูกแม้ไม่ใช่กองหน้าอาชีพด้วยซ้ำ
ขณะที่ผลงานของเจ้าตัวในปีนี้กับ พัทยา ก็ยังเป็นตัวหลักเหมือนเดิมซัด 1 จ่าย 2 จากการลงเล่น 26 นัดที่ผ่านมา
แม้ช่วงหลังจะหลุดไปเป็นตัวสำรองก็จริง แต่จากฟอร์มโดยรวมแล้วก็น่าคิดเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีชื่อเขาเลยแม้กระทั่งในชุด 29 คนแรก ทั้งๆ ที่ไม่ได้อาการบาดเจ็บอะไรเลย
แน่นอนว่าการเลือกตัวผู้เล่น ทีมชาติไทย แต่ละชุดก็ย่อมไม่ถูกใจแฟนบอลไทยไปซธหมดทุกครั้งอยู่แล้ว
เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่ “โค้ชโย่ง” อาจจะมองเห็นอะไรบางอย่างในตัว 29 แข้งที่เตรียมไปลุย เอเชียนเกมส์ 2018
และท้ายที่สุดแม้แฟนบอลอย่างเราอาจจะไม่พอใจเรื่องการจัดตัวบ้าง แต่เชื่อเถอะเมื่อคุณสวมเสื้อ ทีมชาติไทย ลงสนาม และทำผลงานอย่างเต็มที่
ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร แฟนบอลอย่างพวกเราทั้งประเทศก็พร้อมเชียร์คุณ และสนับสนุนต่อไปอย่างเต็มที่เหมือนกัน!!